กองทุนฟุตซอล

พูดถึงฟุตซอลทีมชาติไทยถือเป็นอีกหนึ่งชนิดกีฬาที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะในภูมิภาคอาเซียน ที่ผ่านมา “โต๊ะเล็กไทย” ถือเป็น “พี่เบิ้ม” มาอย่างยาวนาน เช่นเดียวกับเอเชีย

เราก็ติดท็อปทรีมาตลอดมาสอดแทรกขึ้นมาเบอร์สองบ้างเป็นบางครั้ง

ทั้งหมดทั้งมวลเพราะการทุ่มเทแรงกายแรงใจอย่างหนักของ “บิ๊กป๋อม” อดิศักดิ์ เบ็ญจศิริวรรณ ประธานพัฒนาฟุตซอลไทย ที่เพาะบ่มฟูมฟักตั้งแต่ฟุตซอลยังเป็นวุ้นจนก้าวมาเป็นยอดทีมในอาเซียน

จำได้ช่วงแรกๆ ก่อนที่ฟุตซอลจะกลายมาเป็นกีฬาอาชีพ “บิ๊กป๋อม” ต้องจับนักเตะสนามใหญ่หลังจากจบฤดูกาลหรือคนที่สนใจมาเล่นฟุตซอล เมื่อจบจากสนามเล็กก็กลับไปเล่นสนามใหญ่ต่อ เป็นแบบนี้มาตลอดหลายปี

จนวันหนึ่งที่ “บิ๊กป๋อม” ตัดสินใจสร้างนักกีฬาฟุตซอลอย่างเต็มตัวแบบทีมถาวรแยกเฉพาะอย่างเป็นทางการเพื่อไม่ให้นักกีฬาเกิดความสับสนกับสไตล์การเล่น

แม้ช่วงแรกๆ อาจตะกุกตะกักบ้างเป็นธรรมดาแต่สุดท้ายด้วยความทุ่มเทและเอาใจใส่อย่างหนักของ “บิ๊กป๋อม” ฟุตซอลจึงกลายเป็นกีฬาที่สร้างชื่อให้กับประเทศด้วยความภาคภูมิใจไต่อันดับตั้งแต่อาเซียนมาถึงเอเชีย และล่าสุด “เวิลด์คัพ” หรือ ชิงแชมป์โลก ถึงแม้เรายังไม่ได้เป็นแชมป์โลกแต่เราก็สามารถสร้างชื่อไปโลดแล่นได้อย่างไม่อายใคร ด้วยการเข้าถึงรอบ 16 ทีมสุดท้ายมาแล้ว

ต้องยอมรับว่า “กีฬาฟุตซอล” เป็นลูกเมียน้อยมาตลอดเพราะไม่ค่อยได้รับการเหลียวแลจากทางสมาคมฟุตบอลเท่าที่ควร แต่เพราะได้คนมากความสามารถอย่าง “บิ๊กป๋อม” ที่เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงใหญ่จึงทำให้เกมกีฬาโต๊ะเล็กประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน

ยิ่งวันนี้ได้ “บิ๊กสุ” สุทิน บัวตูม เข้ามาร่วมทำงานในตำแหน่งผู้จัดการทีมด้วยแล้วทำให้ทุกอย่างสะดวกโยธิน ด้วยเพราะ “บิ๊กสุ” เป็นคนมีเพื่อนฝูงเยอะ จึงไม่แปลกที่จะมีคนเห็นใจเข้ามาร่วมลงขันในการสนับสนุนทีมฟุตซอลไทย

ล่าสุด “บิ๊กสุ” ดันปิ๊งไอเดียตรงใจกับ “บิ๊กป๋อม” อดิศักดิ์ เบ็ญจศิริวรรณ เตรียมตั้ง “กองทุนฟุตซอลทีมชาติ” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยนักฟุตซอลทีมชาติไทยที่บาดเจ็บ ที่แม้จะเลิกเล่นรวมถึงเกษียณไปแล้ว ไม่มีอาชีพ

เห็นรายชื่อของผู้สนับสนุนในการตั้งกองทุนนักฟุตซอลแล้วก็โล่งอกว่าผ่านฉลุยแน่นอน เพราะเป็นการรวบรวมคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิต่างๆมากมาย หลากหลายวงการ นำโดย ดร.ศุลีมาศ สุทธิสัมพัทน์ ประธานกรรมการบริษัท ยูไนเต็ด ฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท เอ เจ พลาสท์ จำกัด (มหาชน) ท่านลลิสา จงบารมี ประธานมูลนิธิธารศิลป์รักษ์จิตรกร และเป็นอดีตทูตวัฒนธรรม

“สุทิน” พูดอย่างซึ้งใจให้ฟังว่าที่ผ่านมาวงการฟุตซอลไทย เรามีแค่ “บิ๊กป๋อม” เป็นคนที่ช่วยเหลือวงการฟุตซอลไทยและฟุตบอลชายหาดด้วยการควักทุนทรัพย์ส่วนตัวแต่ละปีก็มหาศาล ถึงตอนนี้ผมมีอุดมการณ์และจิตวิญญาณที่ร่วมกับนักธุรกิจหลากหลายท่าน ทุกๆท่านมีจิตใจที่อยากจะช่วยเหลือสังคม อยากจะแบ่งปันให้กับฟุตซอลไทยที่สร้างความสุขให้คนไทยทั้ง 70 ล้านคน

การตั้งกองทุนฟุตซอลนับเป็นเรื่องที่ดีและน่าเป็นเยี่ยงอย่างกับทุกสมาคมกีฬา อย่าลืมนักกีฬาทุ่มเทแรงกายแรงใจอย่างหนักแต่พอหลังจากที่อำลาทีมชาติแล้วส่วนใหญ่มักไม่ค่อยได้รับการเหลียวแลเท่าที่ควรมักจะมีให้เห็นบ่อยๆ นักกีฬาตกงานหลังจากเกษียณอายุ

ยกมือเชียร์ขาดใจและดีใจแทนนักฟุตซอลด้วยครับ.

โจโจ้ซัง