โฟกัสที่ “พระเอก” (ตัวจริง)

พ้นการกักตัวออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

สำหรับพลพรรคนักเตะโต๊ะเล็กช้างศึก ทีมชาติไทย ชุดคว้าตั๋วไปลุยฟุตซอลโลก 2021 รอบสุดท้าย ที่ลิทัวเนีย ซึ่งขยับแรงกิงฟีฟ่าขึ้นมาเป็น “อันดับ 17” ของโลกล่าสุด

จากนี้ไปก็คงเป็นช่วงเวลาของการเดินสายขอบคุณและรับเงินอัดฉีดจากผู้ใหญ่ใจดี ที่แม้จะมีจำนวนไม่มากไม่มายอะไรนักเมื่อเทียบกับความสำเร็จที่ได้รับมา

แต่ก็เหมือนน้ำทิพย์ชโลมใจให้แข้งฟุตซอลชาติไทยของเราได้มุ่งมั่นฝึกซ้อมกันต่อ เพื่อเป้าหมายใหญ่ในศึกเวิลด์คัพที่รออยู่ข้างหน้าในช่วงเดือน ก.ย.นี้

ซึ่งก็อย่างที่ทราบกันว่า แข้งโต๊ะเล็กช้างศึกของเรา จับสลากแบ่งสายแล้ว อยู่ในกลุ่มซี

ร่วมกับ โปรตุเกส แชมป์ยุโรป , โมร็อกโก แชมป์แอฟริกา และ หมู่เกาะโซโลมอน แชมป์โซนโอเชียเนีย

ถ้ามองเผินๆ เหมือนไม่น่าหนักใจอะไรนักกับการลุ้นเข้ารอบน็อกเอาต์

เพราะมีเพียงนักเตะแดนฝอยทอง โปรตุเกส เพียงทีมเดียวที่มาตรฐานอยู่ในระดับโลกชัดเจน

ส่วนอีก 2 ชาติ คือ โมร็อคโก กับ หมู่เกาะโซโลมอน นั้น เราน่าจะพอรับมือได้

แต่ต้องขอย้ำว่าอย่าประมาทเด็ดขาด เนื่องจากทีมที่มีศักดิ์ศรีเป็นถึงแชมป์ทวีปตัวเอง จนผ่านเข้ามาบู๊ในเวทีฟุตซอลโลก

ล้วนแล้วแต่มีดีในตัวเอง และเป็น “หนึ่งในตองอู” มาจากภูมิภาคของเค้าด้วยกันทั้งนั้น

ยิ่งปัจจุบันมาตรฐานของชาติต่างๆ ในวงการฟุตซอลทั่วโลก พัฒนาขึ้นมาจากในอดีตอย่างผิดหูผิดตา

ไอ้เรื่องจะมาไล่ต้อนสนุกเท้า หรือเป็นสมันน้อยให้ใครมาเคี้ยวง่ายๆ เหมือนแต่ก่อน คงไม่มีให้เห็นอีกแล้วล่ะ!!

ดังนั้นทางที่ดีที่สุดสำหรับเราในการ Make Sure เข้ารอบ ก็คือต้องวางแผนเตรียมทีมให้พร้อมมากที่สุด

ความจริงเรื่องนี้ผมไม่ค่อยห่วงเท่าไหร่หรอก ตราบใดที่เรายังมี “บิ๊กป๋อม” อดิศักดิ์ เบ็ญจศิริวรรณ คอยเป็นหัวเรือใหญ่ในการดูแลแข้งโต๊ะเล็กทั้งระบบ

เพราะประสบการณ์อันเชี่ยวกรากและผลงานที่ผ่านมากว่า 2 ทศวรรษบนเส้นทางสายนี้ของแก มันการันตีความสำเร็จของทีมฟุตซอลไทยมาโดยตลอดอยู่แล้ว

โดยล่าสุดไทม์ไลน์ของการเตรียมทีมที่ “บิ๊กป๋อม”ได้วางเอาไว้ ก็คลอดออกมาเรียบร้อย

เริ่มต้นด้วยการจัดศึกปรีเวิลด์คัพ คอนติเนลตัล ฟุตซอล แชมเปียนชิพ 2021 ระหว่างวันที่ 10-20 ก.ค. ด้วยการเชิญสุดยอดทีมจากทุกทวีป มาร่วมแข่งขันในประเทศไทย

ซึ่งทาง กกท. ได้ไฟเขียวให้ไปจัดกันที่สนามเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จ.นครราชสีมา แทนที่อินดอร์สเตเดียม หัวหมาก ที่กำลังปรับปรุงอยู่

และเบื้องต้น จะมี 9 ชาติ ร่วมฟาดแข้ง รวมถึง ลิทัวเนีย เจ้าภาพฟุตซอลโลก2021 ตอบตกลงมาแข่งขันด้วย

ขณะที่ อาร์เจนตินา แชมป์ฟุตซอลโลก 2016 ก็กำลังทาบเชิญมาร่วมแจมในศึกครั้งนี้เช่นกัน ซึ่งขณะนี้ยังรอคำตอบอยู่

จากนั้น ช่วงต้นเดือน ก.ย. จะนำ ทีมโต๊ะเล็กไทย ไปเก็บตัวฝึกซ้อมแถบยุโรปตะวันออก ในประเทศ เบลารุส, รัสเซีย หรือ โปแลนด์ ซึ่งมีพรมแดนติดกับ ลิทัวเนีย สามารถนั่งรถประมาณชั่วโมงเดียวก็ถึง

นั่นคือทั้งหมดของแผนการเตรียมทีมสู่ฟุตซอลโลกที่ “บิ๊กป๋อม” ได้วางไว้คร่าวๆ

ส่วนรายละเอียดปลีกย่อยอื่นๆ ยังต้องรอการสนับสนุนจากองค์กรแม่ อย่าง สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย คอยช่วยเติมเต็ม

โดยเฉพาะเรื่องของงบประมาณที่อยากให้ “บิ๊กอ๊อด” พล ต.อ.ดร. สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง หันมาทุ่มให้กับทีมฟุตซอลช้างศึกชุดนี้ อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยกว่าที่ผ่านมาหน่อย

เพราะไหนๆ ปีนี้เราก็หมดหวังไปแล้วกับการลุ้นทีมชาติไทยชุดใหญ่ในศึกคัดบอลโลก ที่แห้วรับประทานไม่ได้ไปเล่นในรอบ 12 ทีมสุดท้ายเอเชีย

ส่วนการชิงเหรียญทองซีเกมส์ ล่าสุดก็ถูกเลื่อนหลบวิกฤติโควิดออกไปจัดกันในปีหน้า 2022 โน่น

ทำให้ ณ ปัจจุบัน เหลือเพียง ‘ทีมชาติโต๊ะเล็ก’ ทีมเดียวที่จะขึ้นมาเป็น “พระเอก” ตัวจริง เสียงจริง ให้ทุกคนได้โฟกัสกันเต็มๆ

ภาพรวมความสำเร็จของสมาคมลูกหนังยุค 5G จะไม่ต้อง ‘ทิพย์’ อีกต่อไป

ถ้าหันมาใส่ใจทีม ‘ฟุตซอลช้างศึก’ กันเสียแต่บัดนี้ !!!

บี บางปะกง