หน้าแรกแกลเลอรี่

อุดรูรั่วให้ดี

เบี้ยหงาย

7 พ.ย. 2566 05:11 น.

กลายเป็นที่วิพากษ์กันไปกับการแสดงความคิดเห็นของ “ต้องเต” ผู้กำกับหนัง “สัปเหร่อ” ภาพยนตร์ที่ดังสุดในยุคนี้ และเป็นกระแสที่มาเองจากหนัง ไม่ได้ปรุงแต่งมาจากการทุ่มโฆษณา กับกรณี “ซอฟต์เพาเวอร์”

ซึ่งจริงๆก็คงมีผู้คนมากมายในประเทศนี้ ที่ไม่เข้าใจจริงๆอย่างถ่องแท้ ด้วยเป็นนามธรรมมากกว่ารูปธรรม อธิบายให้ชัดเจนได้ลำบาก เป็นเรื่องของแต่ละบุคคล ต้องเกิดความรู้สึก รับรู้ จึงจะสัมผัสได้ด้วยใจและมองเห็น แปรเป็นพลังหลากหลายมิติ สอดรับกับวัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และอัตลักษณ์ของชาติ ก่อนจะก่อให้เกิดประโยชน์ และผลประโยชน์ที่จับต้องได้

ไม่มีใครถูกใครผิด

หยิบยกขึ้นมาว่ากัน ก็ด้วยรัฐบาลชุดนี้มีการวางนโยบายไว้ ซึ่งมีการประกาศออกมาชัดเจนในส่วนของแผนขับเคลื่อน “ซอฟต์เพาเวอร์” 1 ปี ของรัฐบาล โดยวาดหวังจะสร้างรายได้ 4 ล้านล้านบาท ภายใน 4 ปี เพิ่มรายได้ให้คนไทย 20 ล้านครัวเรือน 200,000 บาทต่อปี

โดยมีกลุ่มงานที่จะขับเคลื่อนอยู่หลายส่วน ลองไปหาดูได้ ซึ่งนอกจากจะมีเรื่องของภาพยนตร์และซีรีส์ไทยสู่ตลาดโลกแล้ว เป็นเกียรติและเป็นความภาคภูมิของวงการกีฬา ที่มีเรื่องของ “มวยไทยไปไกลระดับโลก” รวมอยู่ในแผนงานนี้ด้วย

แน่นอน “ซอฟต์เพาเวอร์” แม้ใครไม่เข้าใจ หรือเข้าใจมากน้อยอย่างไร สิ่งที่รับรู้โดยทั่วหน้านั่นคือ เป็นเรื่องดี เป็นประโยชน์ เช่นเดียวกับเมื่อเอ่ยถึง “มวยไทย” ทุกคนรับรู้ รับทราบ ว่าเป็นกีฬา เป็นเอกลักษณ์ของชาติ ที่ดังขจรไกลไปทั่วโลก เป็นเรื่องดี ที่ไม่ต้องสงสัยใดๆ และสามารถใช้ประโยชน์ในหลายมิติ

ที่ผ่านมามวยไทยมีพัฒนาการในหลากหลาย จากกีฬาท้องถิ่น เชิงวัฒนธรรม เป็นวิถีชีวิต ชกกันในท้องถิ่นต่างๆทั่วประเทศ จนมีเวทีมวยมาตรฐาน ที่ได้รับการยอมรับและดังไกลไปถึงนานาชาติ จนมีการบรรจุในการเรียนการสอน หลายระดับในต่างประเทศ ขณะที่ในเกมกีฬาก็ถูกบรรจุแข่งในซีเกมส์ และฝันละเมอจะไปถึงโอลิมปิก

ผ่านยุคสมัยที่มีการต่อสู้แย่งชิงการเป็นองค์กรนำ ต้องการควบคุมกฎระเบียบต่างๆ

อดีตมวยไทยเคยรุ่งเรือง แต่ก็ต้องเจอกับวิกฤติศรัทธา ทั้งเรื่องการตัดสินที่ค้านสายตา การพนัน เซียนมวยนอกลู่นอกทาง คนมวยในแต่ละบทบาท ไม่สามารถบริหารจัดการ ควบคุมดูแลกันได้ แฟนมวยเริ่มถอยห่าง คนมวยทุกองคาพยพเดือดร้อน

ซ้ำร้ายมาเจอกับโลกที่เปลี่ยนแปลงจากเดิมมีเฉพาะมวย 5 ยก ตามมาตรฐานไทยแท้ มาเป็น 3 ยกเพิ่มเติมเข้ามา แถมปรับรูปแบบ บิดกฎกติกา กระทั่งนวมยังมีรูเปิดปลายนิ้วได้ เพิ่มความเป็นเอนเตอร์เทนเมนต์เข้าไป ขยายช่องทางผ่านออนไลน์ ซึ่งไปได้ไกลทั่วโลก

คนมวยทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นนักมวย ครูมวย หัวหน้าคณะ โปรโมเตอร์ แม้กระทั่งสนามมวย ก็ต้องปรับตัว ให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงเพื่อความอยู่รอด

ในแต่ละช่วงของการก้าวย่าง ย่อมต้องมีคนได้ประโยชน์และเสียประโยชน์ ใครแกร่งกว่าก็อยู่รอด

ยิ่งเมื่อมีนโยบายจากรัฐ จากเดิมมวยไทยไปโอลิมปิก ขยับมากว้างขึ้นเป็นมวยไทยซอฟต์เพาเวอร์ ซึ่งหลายคนก็ยังงงอยู่ การจัดสรรงบประมาณ การอนุมัติต่างๆก็อ้างอิงกับนโยบายทั้งนั้น

เงินผ่านจากคนอนุมัติ จัดสรร มายังคนรับ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นเสมอมา นโยบายไหน งบประมาณใส่ลงมาที่ใด แต่ทำไมคนที่เกี่ยวข้องโดยตรงอย่างคนมวยยังลำบาก ต้องดิ้นรน หาทางเอาตัวรอดโดยตลอด เงินรั่วและไหลไปทางไหน หรือวนกลับไปหาใคร!

นโยบายเป็นเรื่องดี เป็นเรื่องชวนฝัน คนมวยในฐานะฐานรากของการสร้าง “ซอฟต์เพาเวอร์” ควรต้องได้ประโยชน์โดยทั่วหน้า

อย่าให้ใครแสวงหาประโยชน์ ใช้นโยบายเพื่อการทุจริต ตรวจสอบกันให้ดี...

“เบี้ยหงาย”

คลิกอ่านคอลัมน์ “เรียงหน้าชน” เพิ่มเติม