บี บางปะกง
“มวยไทย” หรือการแข่งขันกีฬามวยไทย อาจพูดได้ว่า เป็นหนึ่งเดียวของชนิดกีฬาที่มีกฎหมายเฉพาะของตนเอง “พ.ร.บ.มวย 2542”
ยุคทองของมวยไทยผ่านพ้นไปแทบหมดสิ้นแล้ว
ในขณะที่คนรุ่นใหม่นอกจากไม่สนใจมวยไทยแล้ว ยังส่งลูกหลานไปเรียนคาราเต้ หรือไม่ก็เทควันโดกันดาษดื่น เพราะกระทรวงศึกษาธิการไม่ให้ราคากับมวยไทย
ยุคทองของวงการมวยจึงค่อยๆผ่านไปอย่างไม่สู้มีใครรู้สึกรู้สา ในขณะที่การพนันเริ่มเข้ามามีบทบาทเพิ่มมากยิ่งขึ้น!!
โดยเฉพาะกับการพนันขันต่อนอกเวที ในยุคที่เทคโนโลยีการสื่อสารเข้ามามีบทบาทเต็มรูปแบบในวันนี้ และวันต่อๆไปข้างหน้า
นักมวย หัวหน้าคณะ รวมทั้งโปรโมเตอร์ และสนามมวยเข้าสู่ยุคตกต่ำ ผลประกอบการย่ำแย่ ก่อนที่โควิด–19 จะเข้ามาอาละวาดซะอีก
ทุกฝ่ายต่างล้วนสู้และทนเพื่อรอโอกาสกับอนาคตที่หวังว่าจะดีขึ้นในวันข้างหน้า
ทันทีที่รัฐบาลประกาศใช้มาตรการทำศึกกับโควิดตัวร้าย นักมวยไทยเป็นนักกีฬาอาชีพหนึ่งเดียวที่โชคร้ายที่สุด เพราะไม่มีเงินเดือนประจำเหมือนนักกีฬาอาชีพอื่นซึ่งมากมายหลายชนิดกีฬา
รายได้ของนักมวยขึ้นอยู่กับค่าตัวจากการขึ้นชกในแต่ละครั้ง กับหารแบ่งตามสัดส่วนให้กับหัวหน้าคณะ เทรนเนอร์ ตามที่ตกลงกันไว้
แม้ ศบค.จะเริ่มคลายล็อกด้วยการอนุญาตให้มีการชกแข่งขันชกมวยแบบปิดมิให้คนดูเข้าเวที ภายใต้เงื่อนไขผ่อนปรนและการปฏิบัติตามคู่มืออย่างเคร่งครัด
ก็เป็นแค่ผ่อนคลายเบื้องต้น เพราะแต่ละเวทีชกกันได้เพียงแค่ 4 คู่ หรือ 8 คนเท่านั้น กับการชกถ่ายทอดสดทีวี หรือไม่ก็ไลฟ์สดทางยูทูบ เฟซบุ๊ก ในขณะที่นักมวยทั่วประเทศมีนับหมื่นคน
ถัดมาเมื่อ ศบค.อนุญาตให้สนามกีฬาทั้งกลางแจ้งและในร่มเปิดให้คนดูเข้าชมได้ แล้วค่อยปล่อยรายละเอียดตามมาว่า เวทีหรือสนามมวย ซึ่งอยู่ในเงื่อนไขของสนามกีฬาในร่มซึ่งคนเข้าดูเชียร์เสียงดัง กำหนดให้คนเข้าดูได้ร้อยละ 15 ของพื้นที่ความจุ แต่ไม่เกิน 1,000 คนนั้น
พอโปรโมเตอร์ผู้จัดรายการมวยในภูธรแห่กันไปยื่นขออนุญาตจัดการแข่งขัน
ทั้งสำนักงานกีฬาจังหวัดและฝ่ายปกครอง ต่างร้องประสานเสียงเอาตัวรอด ปฏิเสธการออกใบอนุญาตยังกะนัดกันไว้แทบทุกแห่งทัวร์จึงลงที่ ส.ส. หรือผู้แทนราษฎรในแต่ละจังหวัด
ประธานคณะกรรมาธิการกีฬา สภาผู้แทนราษฎร ดร.บุญลือ ประเสริฐโสภา ถึงตัดสินใจเปิดไฟเขียวให้อนุกรรมาธิการกีฬาฯทั้ง 2 คณะ เปิดการประชุมวาระพิเศษเพื่อพิจารณาการนี้โดยเฉพาะ ในวันพฤหัสฯที่ 10 ก.ย.นี้ เวลา 13.30 น. ที่ห้องประชุมคณะกรรมาธิการ (สผ.) 419 ชั้น 4 อาคารรัฐสภา
โดยได้เชิญทั้งปลัดกระทรวงมหาดไทย และปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา แถมพ่วงเอาท่านเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) มาด้วย
“บิ๊กโต้ง” ดร.สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ จะชูธงนำทีมคณะอนุกรรมาธิการศึกษา พ.ร.บ.มวย 2542 ชุดใหญ่ เข้าสมทบกับคณะอนุกรรมาธิการติดตามผลกระทบทางด้านกีฬา เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19ซึ่งมี เอกการ ซื่อทรงธรรม เป็นประธาน
เล่นกันแบบให้เห็นดำเห็นแดง!!
มวยไทย ซึ่งเป็นศิลปะการต่อสู้ประจำชาติไทยที่ฝรั่งต่างชาติข้ามน้ำข้ามทะเลมาฝึกเรียนศึกษาแต่ละปีนับหมื่นคน
ทำไมจะขออนุญาตจัดกันแต่ละทียุ่งยากซะยิ่งกว่าขอตังค์เยียวยาโควิด จากกระทรวงการคลัง
ถ้าไม่ช่วยส่งเสริมกันวันนี้ ต่อไปจะเอามวยรากหญ้าจากที่ไหน?
นอกจากใบอนุญาตการขอจัดแข่งขันชกมวยจากกีฬาจังหวัดแล้ว
ใบอนุญาตให้มีการพนันมวย ซึ่งกระทรวงมหาดไทย ประกาศบังคับใช้ตั้งแต่สมัยกึ่งพุทธกาล 25 พุทธศตวรรษโน่น
ต้องมีการแก้ไขปรับปรุงให้เข้ากับความเป็นจริง “ยุค 5 จี” กันซะที
เพราะการแข่งขันมวยเป็นกีฬาที่มีการตัดสินผลแพ้ชนะ
และเวทีหรือสนามมวยมิใช่แหล่งอบายมุข แถมมีเวลาการแข่งขันที่แน่นอนและชัดเจน ซึ่งจบแล้วแล้วกัน
บนความเป็นจริงไม่มีการแข่งขันมวยเวทีไหนที่ไม่มีการพนัน และไม่มีข้อยกเว้นแม้แต่เวทีน้อยใหญ่ที่ทำการถ่ายทอดสดการแข่งขันทางทีวีจากใจกลางกรุงเทพมหานคร
ถึงไม่มีใบอนุญาตการพนัน คอมวยก็ว่ากันที่หอมปากหอมคอ พอให้เลือดสูบฉีด เป็นกษัยตามแบบวิถีไทยอยู่แล้ว
เลิกคิดได้เลยครับว่า หม๋าต๋า จะทำหน้าที่ตรงนี้
เพราะนี่คืออีกเมืองขึ้นที่บรรพบุรุษท่านสร้างไว้!!!
บี บางปะกง