ไทยรัฐออนไลน์
เป็นที่น่าเสียดายสำหรับแฟนมวยชาวไทยที่ได้รู้ข่าวการประกาศแขวนนวมอย่างเป็นทางการของเจ้าตำนาน "สามเอ ไก่ย่างห้าดาว" ในวัย 38 ปี หลังจากที่ได้สั่งสมชื่อเสียงและเกียรติประวัติไว้มากมายทั้งบนเวทีในประเทศและเวทีระดับโลกอย่าง วัน แชมเปียนชิพ
เพื่อเป็นเกียรติแด่ตำนานที่ยังมีลมหายใจ เราจึงขอจดบันทึกเหตุการณ์สำคัญบนเส้นทางนักสู้ของ สามเอ ตลอด 30 ปีที่ผ่านมาให้แฟนๆ ได้รับรู้และจดจำยอดมวยในตำนานผู้นี้ไปอีกนานเท่านาน
- "สามเอ" เกิดใน จ.บุรีรัมย์ เป็นลูกคนกลางของครอบครัวซึ่งต้องปากกัดตีนถีบ มีพี่ชายและน้องสาวอย่างละคน
- ตอนอายุ 9 ขวบ สามเอ อาสาชกมวยงานวัด ทั้งที่ไม่เคยฝึกมวยไทย อาศัยใจสู้ บู๊ยิบตาจนทำคู่แข่งร่วงในยก 2 ก่อนได้ค่าตัว 100 บาทกลับบ้าน
- เป็นนักมวยไร้วาสนา แม้ขึ้นชื่อว่าเก่งหาตัวจับยาก แต่กว่าจะได้คาดเข็มขัดแชมป์เส้นแรก ก็ล่วงเลยมาจนถึงอายุ 21 ปี
- สั่งสมประสบการณ์บนเวทีมวยไทยอย่างโชกโชนกว่า 400 ไฟต์ ครองแชมป์มวยไทยลุมพินี รุ่น 115 ป.สองสมัย และ 122 ป., แชมป์ประเทศไทย รุ่น 115 ป., 122 ป. และ 126 ป. รวมทั้งได้รับรางวัลนักกีฬายอดเยี่ยมสยามกีฬาอวอร์ดสองปีซ้อน (ปี 2010 - 2011)
- ช่วงตกต่ำที่สุดของชีวิต เคยหันไปเป็นกรรมกรก่อสร้างอยู่เกือบครึ่งปี ก่อนหวนคืนเวทีมวยภายใต้สีเสื้อ "ไก่ย่างห้าดาว" ตอนอายุ 28 ปี และสร้างชื่อเสียงติดลมบนอีกครั้ง
- อายุ 32 ตัดสินใจอำลาวงการ ผันตัวไปเป็นครูมวยที่ยิมอีโวลฟ์ สิงคโปร์ แต่ไฟไม่สิ้นเชื้อ พอเห็นรุ่นพี่ "เดชดำรงค์" คว้าแชมป์โลก ONE รุ่นสตรอว์เวต (MMA) จึงฮึกเหิมสร้างตำนานบทใหม่ของตัวเอง
- เพียงชกไฟต์ที่สองใน ONE ก็คว้าเข็มขัดแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นฟลายเวต มาครอง ในวัย 34 ปี ตามมาด้วย ONE มวยไทย รุ่นสตรอว์เวต และ ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นสตรอว์เวต จนได้รับการยกย่องว่าเป็นนักกีฬาชายที่ครองเข็มขัดแชมป์โลกมากที่สุดถึง 3 เส้น
- ปัจจุบัน "สามเอ" เหลือเข็มขัดเส้นเดียวคือ ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นสตรอว์เวต โดยชกไฟต์สุดท้ายเสียเข็มขัดมวยไทยให้ "พระจันทร์ฉาย พีเค.แสนชัยมวยไทยยิม"
- ตลอดระยะเวลากว่า 30 ปีในอาชีพนักสู้ "สามเอ" เป็นที่รู้จักของแฟนมวยไทยทั่วโลก จากแข้งซ้ายที่ว่องไวสมฉายา "ซ้ายไฟลามทุ่ง" และยังได้รับการขนานนามว่าเป็นนักมวยไทยที่เก่งกาจที่สุดเมื่อเทียบปอนด์ต่อปอนด์อีกด้วย
เชื่อแน่ว่าความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของ สามเอ โดยเฉพาะจิตวิญญาณความเป็นนักสู้ของเขาจะเป็นแรงบันดาลใจให้แก่นักมวยรุ่นน้องทั้งแฟนกีฬาทั้งไทยและเทศต่อไปอีกนานเท่านาน
แฟนๆ สามารถติดตามข่าวสารและความคืบหน้าของนักกีฬา ONE ได้ที่เฟซบุ๊ก ONE Championship Thailand และ ONEFC.com/th