ไทยรัฐออนไลน์
มันกันต่อเนื่องแบบไม่ต้องพักเบรก ช่วงสงกรานต์ของไทยในช่วงที่ไวรัสยังไม่สงบ วัน แชมเปียนชิพ เดินหน้าออกอากาศศึกใหญ่ประจำปีทางช่อง TNT ไปสู่ประเทศสหรัฐอเมริกา ในช่วงไพรม์ไทม์ตลอดเดือนเมษายน ที่ว่าร้อนยังไม่เท่าดีกรีความเดือดบนสังเวียน
สำหรับการแข่งขันในศึก ONE on TNT II ซึ่งเผยแพร่ในช่วงค่ำของวันพุธที่ 14 เมษายนนี้ ตามเวลาท้องถิ่นของสหรัฐอเมริกา แต่จะตรงกับช่วงเช้า 07.30 น.ของวันพฤหัสบดีที่ 15 เมษายน ตามเวลาประเทศไทย ประกอบด้วยคู่แข่งขันทั้งหมด 5 คู่
คู่เอกเป็นการป้องกันตำแหน่งของแชมป์โลกหนุ่มจากสิงคโปร์ "คริสเตียน ลี" เจ้าของเข็มขัด ONE รุ่นไลต์เวต ที่ขึ้นชื่อว่ากำสถิติน็อกเอาต์มากครั้งที่สุดใน วัน แชมเปียนชิพ จะขึ้นป้องกันตำแหน่งครั้งที่สองกับผู้ท้าชิงสุดอันตรายจากรัสเซีย "ทิโมเฟย์ นาสติวคิน" ซึ่งเคยสร้างปรากฏการณ์น็อกเร็วที่สุดในกติกาการต่อสู้แบบผสมผสาน (MMA) ด้วยเวลา 6 วินาที อีกทั้งยังเคยน็อกเจ้าตำนานฝั่งอเมริกาเหนือ "เอ็ดดี อัลวาเรซ" แบบช็อกโลก
ด้านคู่รองซึ่งเคยถูกวางตัวให้อดีตแชมป์โลก ONE รุ่นเฟเธอร์เวต “มาร์ติน เหงียน" กลับมาเรียกศรัทธา ด้วยการเผชิญหน้ากับผู้ท้าชิงอันดับที่ 5 “คิม แจ วุง" แต่ด้วยสถานการณ์ไวรัสในปัจจุบันมีผลกระทบต่อมาตรการด้านสุขภาพและความปลอดภัยอันเข้มงวด ทำให้ มาร์ติน เหงียน ไม่สามารถเข้าร่วมการแข่งขันตามกำหนดได้
นักชกหญิงตัวแม่จากอเมริกา “JT” เจเน็ต ท็อดด์ จึงสลับมาลงแข่งในศึกนี้ แม้เธอจะมีดีกรีเป็นถึงแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นอะตอมเวตหญิง แต่ไฟต์นี้เธอจะกลับมาชกในกติกามวยไทย กับคู่แข่งสาวจากนอร์เวย์ “Ninja” แอนน์ ลิน ฮอกสตัด ซึ่งรั้งอยู่ในอันดับ 3 และหมายปองที่จะเลื่อนขั้นของตัวเอง แทนที่อันดับสองของ เจเน็ต
นอกจากสองคู่ดังกล่าว ยังมีอีก 3 คู่เปิดรายการเป็นการแข่งขันกีฬาการต่อสู้แบบผสมผสาน (MMA) 3 รุ่นน้ำหนัก ในรุ่นเฟเธอร์เวต, แบนตัมเวต และ ฟลายเวต ได้แก่ ชิเนชัตกา โซลเซตเซก, โยชิกิ นากาฮาระ, คิม เคียว ซุง, ชูยะ กามิกูโบะ และสองนักสู้น้องใหม่ หวัง เฉ่า และ มิทเชลล์
ศึก ONE on TNT II จะออกอากาศสู่สายตาแฟน ๆ ชาวไทยในช่วงเช้า 07.30 น.ของวันพฤหัสบดีที่ 15 เมษายนนี้ ทาง ONE Super App, YouTube ONE Championship และ AIS Play โดยจะมีการรีรันทาง AIS Play เวลา 18.00 น. วันเดียวกัน และไทยรัฐทีวี ช่อง 32 เวลา 22.40 น. ของวันศุกร์ที่ 16 เมษายนนี้ (เฉพาะคู่ในรายการ ส่วนคู่เปิดรายการติดตามทาง Facebook และ YouTube ของไทยรัฐ)