หน้าแรกแกลเลอรี่

เป้าแรกฉลุย สู่ก้าวต่อไป ทองโอลิมปิก

พัลลภ ศรีไพรวัลย์

22 มี.ค. 2563 05:01 น.

เดินทางไปถึงเป้าหมายแรกแล้วสำหรับทีม มวยเสื้อกล้ามไทยของ “บิ๊กบางจาก” พิชัย ชุณหวชิร หลังจากพาเหรดคว้าตั๋วไปโตเกียวเกมส์ได้ 4 คนชาย-หญิง ตามที่หวังไว้ตั้งแต่ก่อนเดินทางจากมวยสากลโอลิมปิกเกมส์รอบคัดเลือกโซนเอเชีย/โอเชียเนีย ที่ประเทศจอร์แดนที่ผ่านมา

สำหรับขุนพลเสื้อกล้ามทั้ง 4 คนเป็นชาย 2 คน ประกอบด้วย “เจ้าสด” ฉัตร์ชัยเดชา บุตรดี กับ “เจ้าเหลิม” ธิติสรรค์ ปั้นโหมด ส่วนหญิง “น้องแต้ว” สุดาพร สีสอนดี กับ ใบสน มณีก้อน

พูดถึงการพัฒนาของทีมหมัดไทยในการคัดเลกแรกต้องยอมรับว่าหลายคนโชว์ฟอร์มได้อย่างผิดหูผิดตา โดยเฉพาะนักชกดาวรุ่งสายเลือดใหม่หลายคนทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจ บางคนแม้ยังไม่ได้ตั๋วตามที่ฝันไว้แต่ภาพรวมถือว่ามี
อนาคตไกลและเป็นความหวังใหม่ของทีมกำปั้นไทย

หนนี้ทางไอโอซีเข้ามาดูแลเรื่องการตัดสินแทนสหพันธ์มวยนานาชาติ หรือ “ไอบา” ทำให้ความกังวลที่หลายชาติเป็นห่วงหมดไปอย่างสิ้นเชิง

ต้องยอมรับที่ผ่านมาเรื่องของการตัดสินเป็นปัญหาสำคัญที่ทุกชาติพากันโวยมาตลอดเพราะความไม่เป็นธรรม “ผิดมักเป็นถูก และถูกมักเป็นผิดอยู่เสมอ” ชาติไหนที่มีสีเสื้อดีก็พาแฮปปี้หมดกังวล แต่ชาติไหนที่กำลังภายในไม่ดีสุดท้ายก็ต้องเจ๊งน้ำตาร่วงหอบหิ้วความผิดหวังกลับมาทุกราย

ยิ่งช่วงนี้สถานการณ์ความเลวร้ายเรื่องของไวรัส “โควิด-19” กำลังระบาดไปทั่วโลก จนทำให้กิจกรรมต่างๆในทุกวงการต้องเลื่อนหรือยกเลิกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

รวมไปถึงการคัดเลกสองที่กำหนดเดิมจะมีขึ้นในเดือน พ.ค.ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศสก็ต้องเลื่อนเช่นกัน ทำให้ตอนนี้ไม่มีใครรู้ว่าในเลกสุดท้ายที่เป็นการรวมพลคนอกหักจะออกมาอย่างไรหรือจะจัดที่เมืองไหน เพราะตอนนี้ทุกชาติล้วนเข็ดขยาดกับคำว่า “โควิด-19” ไปหมดแล้ว

แม้สถานการณ์ความน่ากลัวของโควิดกำลังย่างกรายมาทุกวงการ แต่ความพร้อมของทีมหมัดไทยก็ยังมีต่อเนื่อง ใครที่ได้โควตาไปแล้วก็ซ้อมหนักแม้จะต้องกักตัวเอง 14 วัน ส่วนใครที่ยังพลาดหวังก็ต้องเพิ่มความหนักหน่วงเป็นทวีคูณ ภายใต้การคุมเข้มของ “ฮวน ฟอนตาเนียน” เฮดโค้ชชาวคิวบา ที่ศูนย์ฝึกมวยมวกเหล็ก จ.สระบุรี

เพราะ “ชินโสะ อาเบะ” นายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่นเองก็ออกมายืนยันด้วยตัวเองว่า การแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น จะยังคงดำเนินการไปตามแผนเดิมที่วางไว้คือชิงชัยในช่วงวันที่ 24 ก.ค.-10 ส.ค.อย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างยังไม่มีความแน่นอน เพราะล่าสุดสถานการณ์ภายในประเทศญี่ปุ่นเองก็ไม่นิ่งเท่าที่ควร ยังมีการแพร่ระบาดในวงกว้างทำให้ต้องมาจับตาดูกันว่า “โตเกียวเกมส์” จะออกมาอย่างไร แม้ทุกชาติต่างยกมือสนับสนุนให้เกมการแข่งขันเป็นไปตามแผนเดิมก็ตาม

ขณะที่ “บิ๊กชาย” สมชาย พูลสวัสดิ์ ประธานพัฒนาเทคนิคสมาคมกีฬามวยฯ ก็ยังตั้งความหวังในเลกสองที่จะพาทีมหมัดไทยเก็บโควตาไปโตเกียวให้ได้อีกสัก 2-3 คน เพื่อจะได้พากันไล่ล่าฝันสู่เป้าหมายเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ตามที่ตั้งใจไว้ แม้เลกสองยังไม่กำหนดสังเวียนดวลเดือดแต่ก็เชื่อว่าทุกอย่างจะยังคงเดินตามแผนที่วางไว้ เพราะระยะเวลาต่อจากนี้ยังมีเหลือเฟือกว่า 3 เดือนก่อนที่มหกรรมแห่งมวลมนุษยชาติจะเริ่มขึ้น การคัดเลกอาจช้าไปอีกเดือนคงไม่เสียหายถือเป็นการเตรียมพร้อมอย่างเต็มที่สำหรับนักชกไทยที่เราจะพลาดไม่ได้อีกแล้ว เพราะเป้าหมายข้างหน้าคือเดิมพันอันยิ่งใหญ่ไม่ใช่แค่เฉพาะทีมงาน แต่หมายถึงชื่อเสียงของประเทศอีกด้วย

วันนี้ความกังวลต่างๆหมดไปแล้ว หลายชาติกำลังเดินหน้าหาความสำเร็จตามเป้าหมายของแต่ละคนที่วางไว้ รวมถึงทีมหมัดไทยที่ต้องก้าวไปให้ถึงฝันคือ “เหรียญทองโตเกียวเกมส์”.

พัลลภ ศรีไพรวัลย์ เรื่อง