หน้าแรกแกลเลอรี่

มีหรือเลิก

เบี้ยหงาย

7 ก.ค. 2562 05:01 น.

พลันที่คณะอนุกรรมการพิจารณรางวัลนักมวยไทยยอดเยี่ยมของสมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาแห่งประเทศไทยได้มีการประกาศผลการพิจารณาออกมา เลือกเอา รุ้งนารายณ์ ม.รัตนบัณฑิต (เกียรติหมู่ 9) ให้เป็นนักมวยไทยยอดเยี่ยมประจำปี 2561

หลังคณะกรรมการใช้วิธีพิจารณาและตัดสินด้วยการโหวต ซึ่ง รุ้งนารายณ์ ได้ไป 8 คะแนน เอาชนะ ตะวันฉาย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม ไป 3 คะแนน ในรอบนี้ยังมี เขี้ยวพยัคฆ์ จิตรเมืองนนท์ เป็นแคนดิเดตอีกคน ซึ่งก็ได้ไป 1 คะแนน

เมื่อปรากฏออกมาเช่นนั้น ก็ได้มีเสียงวิพากษ์–วิจารณ์ออกมาอย่างหนัก ทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แน่นอนฟากของไม่เห็นด้วยนั้นมีอยู่มากมายด้วยความอื้ออึงชนิดสับกันเละ

และเพียงแค่วันถัดมา นักมวยไทยยอดเยี่ยมคนล่าสุด รุ้งนารายณ์ ก็ขึ้นเวทีในศึกมวยมันส์

วันศุกร์+เพชรปิยะ ที่สนามมวยเวทีลุมพินี โดนศอกของ โยธิน เอฟ.เอ.กรุ๊ป ทีเดียวหลับ พ่ายทีเคโอ ไปในยกที่ 3

ยิ่งตอกย้ำความคลางแคลงใจต่างๆนานา ซ้ำร้ายยังเป็นไปตามที่คอมวยหลายคนคาดการณ์ไว้ก่อนนั้น

มวยแพ้ได้ ให้เป็นนักมวยยอดเยี่ยมก็ย่อมแพ้ได้ ตามวิถีทางของมวย คงไม่มีใครปฏิเสธเช่นกัน การจะได้รางวัลอะไรหรือไม่ ตัวนักมวยไม่เกี่ยว แต่ผลงานของนักมวยนั้นๆเกี่ยว และที่เกี่ยวมากสุดคือความเห็นและการพิจารณาของคณะกรรมการ!

หากมองย้อนไปถึงวันที่มีการพิจารณา มีผู้หลัก ผู้ใหญ่นั่งเป็นกรรมการอยู่ ไม่ว่าจะเป็นประธาน สมชาย พูลสวัสดิ์ และคนโตวงการมวย “ชาติซ้าย” สมชาติ เจริญวัชรวิทย์ นายกสมาคมกีฬามวยอาชีพแห่งประเทศไทย ซึ่งท่านเป็นผู้ให้มีการลงคะแนนโดยเปิดเผย ใครลงให้ใครจะได้เห็นหน้าเห็นตากันชัดๆ ซึ่งทั้งสองท่านรับรู้กันดีอยู่ว่าตรงไปตรงมา

แค่ไหน และคงต้องช้ำมากกว่าใคร

แต่เมื่อเป็นการโหวต คะแนนที่ออกมาอย่างไร เห็นกันชัดแจ้ง คงไม่มีใครสวนเป็นอื่น แม้ว่าในใจนั้นจะคิดเช่นไร แตกต่างไปหรือไม่ ก็ทำได้แค่คิด

นั่นจึงต้องขมวดพุ่งไปที่เสียงโหวตกรรมการที่นั่งอยู่ในห้องนั่นแหละ เพื่อนพ้องน้องพี่ก็ดี คนในวงการมวยก็ดี คิดเห็นตรงไปตรงมาหรือไม่ หรือมี เสียงดังนอกห้องประชุมก้องอยู่ในหูอะไรหรือไม่ ไม่มีใครตอบได้ แต่สังเกตและวิเคราะห์ถึงความใกล้ชิด กับค่ายใด ศึกใด ก็สามารถทำได้ในแต่ละผู้คน

ธรรมชาตินั้น ทุกคนมีพวกมีพ้อง มีความสัมพันธ์อันแตกต่างกันไป แต่เมื่อเข้ามาทำหน้าที่อันสำคัญนี้ มาด้วยการแต่งตั้ง มอบหมายของ สมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาแห่งประเทศไทย นั่นจึงไม่ได้เป็นตัวแทนของใคร ค่ายใด ศึกใด

ถ้าหลงลืม ละเลย หรือร้ายกว่านั้นคือมีเจตนา ความเสื่อมเสียย่อมเกิด เสื่อมทั้งรางวัล เสื่อมต่อองค์กร และสุดท้ายเสื่อมเสียแก่วงการมวยที่ทุกคนเวียนว่าย ประกอบอาชีพ ใช้ชีวิตกันอยู่ และอ้างว่า รักกันทั้งสิ้น

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีข้อครหา เป็นบทเรียนที่ ซ้ำซาก ซึ่งสมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาแห่งประเทศไทย ต้องแก้ให้ได้

และต้องทำอย่างไม่ต้องเกรงใจใคร ถ้าทำไม่ได้ก็เลิกรางวัลนี้ไปเลยดีกว่า เพราะอาจเป็นการส่งเสริมให้เกิดเรื่องเสื่อมเสียในทางอ้อมอย่างไม่ตั้งใจ

ก็ต้องดูว่า คณะอนุกรรมการพิจารณารางวัล นักมวยไทยยอดเยี่ยม ซึ่งได้มีการเรียกประชุมด่วน เป็นกรณีพิเศษกันในวันจันทร์ที่ 8 ก.ค.นี้ จะมีอะไรออกมา

รางวัลนี้เมื่อมีแล้วต้องศักดิ์สิทธิ์เปี่ยมด้วยศักดิ์ศรี มากด้วยความภาคภูมิใจ ไม่งั้นก็อย่ามีเลย...


“เบี้ยหงาย”