หน้าแรกแกลเลอรี่

หาจุดร่วม

เบี้ยหงาย

14 พ.ย. 2561 05:01 น.

ท่ามกลางการรวมตัวของคนวงการมวย นำโดย “น้าชาติ” สมชาติ เจริญวัชรวิทย์ นายกสมาคมกีฬา มวยอาชีพแห่งประเทศไทย ออกมาเคลื่อนไหวคัดค้าน ร่างแก้ไข พ.ร.บ.กีฬามวย โดย สนช.

ประเด็นหลักที่แวดวงคนมวยเห็นว่าเป็นปัญหา คือจะมีการห้ามนักมวยอายุต่ำกว่า 12 ปี ขึ้นชกและช่วง 12-15 ปี ต้องใส่เครื่องป้องกันขึ้นชก และต้องขออนุญาตจากนายทะเบียน กลุ่มผู้ค้านเห็นว่าขัดกับสภาพความเป็นจริงที่ปฏิบัติกันมาช้านาน โดยคิดว่าไม่เป็นอันตราย ทั้งเป็นการจำกัดสิทธิ์ ขัดขวางการพัฒนา ตัดอาชีพและการหารายได้ของนักมวยรุ่นเยาว์กว่า 3 แสนคนทั่วประเทศ

ในขณะที่ฝ่ายร่าง ซึ่งมี พล.อ.อดุลยเดช อินทะพงษ์ สมาชิก สนช. เป็นคีย์แมน ก็ระบุว่า ร่างกฎหมายนี้ไม่มีการห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีชกมวย หรือฝึกมวย แต่ควรมีขั้นตอนการฝึกหัดที่ถูกต้อง เน้นไปที่การคุมอายุการชกอาชีพมากกว่า และมุ่งไปที่การดูแลสภาพร่างกายและสมองของเด็กเป็นสำคัญ ไม่ได้กีดกันการที่คนจะส่งเสริมหรืออนุรักษ์ศิลปะมวยไทยแต่อย่างใด

ช่วงเวลาไล่เลี่ยกันก็มีข่าวเศร้า กรณีของนักมวยเด็ก เพชรมงคล ป.พีณภัทร หรือ “น้องเล็ก” วัย 13 ปี ที่ขึ้นชกและถูกน็อกคาเวที ในการชกมวยการกุศลโครงการต้านภัยยาเสพติด ที่เวทีมวยชั่วคราวโรงเรียนวัดคลองมอญ ต.บ้านสวน อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ เมื่อ 10 พ.ย.ที่ผ่านมา ก่อนจะถูกนำส่งโรงพยาบาลบางจาก พระประแดง ซึ่งพบว่าศีรษะของเด็กกระทบกระเทือนหนัก จึงส่งไปรักษาต่อที่ รพ.สมุทรปราการ และเสียชีวิตในเวลาต่อมาจากอาการเลือดคั่งในสมอง

ขณะเดียวกัน สื่อสำนักหนึ่งก็มีการเผยแพร่ข่าวของหนูน้อยยอดกตัญญู ด.ญ.แพรทิพย์ ปวุตินันท์ “น้องแพร” วัย 11 ขวบ นักเรียนชั้น ป.6 โรงเรียน เทศบาล 5 ใน จ.ราชบุรี โดยนอกจากทำงานสารพัดหลังเลิกเรียน ยังตระเวนต่อยมวยตามเวทีต่างๆ เพื่อหาเงินช่วยเหลือครอบครัวที่ยากจน ซึ่งชกมวยแต่ละครั้งได้ค่าตัว 300-500 บาท เป็นที่ชื่นชมและหาทางช่วยเหลือกันด้วยการเปิดบัญชีรับบริจาคสมทบทุนการศึกษาไว้ ผ่านทางธนาคารออมสิน ชื่อบัญชี ด.ญ.แพรทิพย์ ปวุตินันท์ บัญชีเลขที่ 020143755161 สาขาราชบุรี โทร. 08-2244-0420

นี่เป็นเพียงแค่ตัวอย่างที่เกิดขึ้นจริงในช่วงเวลาสั้นๆที่คาบเกี่ยวกัน แต่มวยไทยกับสังคมไทย และวิถีชีวิตของไทยนั้น อยู่คู่กันมาช้านานแต่โบราณ และต้องคงอยู่ตลอดไป มันมีเรื่องราวมากมายที่เกี่ยวพันกับชีวิตผู้คนเป็นจำนวนมาก มีมิติที่ผสมผสานกลมกลืนกันจนยากที่จะมีเส้นอะไรมาแบ่งแยกและชี้ลงไปว่าอะไรถูกอะไรผิดอย่างแจ้งชัด

นั่นจึงจำเป็นต้องหาจุดร่วมให้เจอ และยอมรับกันให้ได้!!!

ก็หวังว่าความเห็นต่างครั้งนี้ จะนำมาซึ่งการดำรงอยู่ ส่งเสริม และการอนุรักษ์มวยไทย ที่เป็นประโยชน์ปลอดภัยมากขึ้น ด้วยพัฒนาการที่ดีขึ้น ซึ่งไม่ใช่แค่อาชีพ การแข่งขัน และยังต้องคำนึงถึงวิถีชีวิตไทย ซึ่งฝังลึกอยู่ในท้องถิ่นต่างๆทั่วประเทศ...

“เบี้ยหงาย”