ตองเจ
นิวัฒน์ เหล่าสุวรรณวัฒน์
ถือเป็นข่าวดีสำหรับวงการมวยโลกไทยอีกครั้ง หลังจากที่เมื่อไม่กี่เดือน “เจ้าแหลม” ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น แชมป์ โลกขวัญใจชาวไทย เพิ่งออกไปสร้างชื่อกระฉ่อนโลกบนเมกกะมวยโลก “สหรัฐอเมริกา” ด้วยการน็อก “โรมัน กอนซาเลซ” อดีตแชมป์โลก ชาวนิการากัว แบบสะใจคนไทย
ชัยชนะของ “เจ้าแหลม” ถือเป็นใบเบิกทางชั้นยอดให้กับนักชกไทยอีกหลายคน อย่างน้อยก็ เป็นการประกาศให้ทั่วโลกได้รับรู้ว่า นักชกไทย มีฝีมือไม่แพ้ชาติใดในโลกเช่นกัน
ล่าสุด “เจ้าขาว” ถิรชัย ศิษย์หมอเส็ง ที่รั้งอันดับ 1 สมาคมมวยโลกรุ่นเวลเตอร์เวท 147 ปอนด์ มานาน กำลังมีข่าวดีได้ขึ้นชิงแชมป์โลกที่ว่างกับรองแชมป์โลกอันดับ 3 ลูคัส มาร์ติน มาธิสเซ ที่เคยเป็นอดีตแชมป์เฉพาะกาลรุ่นซุปเปอร์ไลต์เวท WBC ชาวอาร์เจนตินา
โดยการชกกำหนดขึ้นในวันที่ 20 ม.ค. 61 ที่รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ภายใต้การจัดของ “โกลเด้นบอย โปรโมชั่น” ที่มี “ออสการ์ เดอลาโฮยา” อดีตนักชกชื่อดัง เป็นประธานใหญ่
นับเป็นข่าวดีของวงการมวยโลกไทยอย่างแท้จริง โดยเฉพาะ “แชแม้” นิวัฒน์ เหล่าสุวรรณวัฒน์ ที่ถือเป็นของขวัญรับเทศกาลปีใหม่ 2561
เพราะหลังจากที่ “เจ้ามะ” เด่นเก้าแสน กระทิงแดงยิม เสียแชมป์โลกไปแล้ว ชื่อของ “แชแม้” ก็ห่างหายไปจากวงการมวยโลกไทยทันที แม้ก่อนหน้านี้พยายามปลุกปั้น “เจ้าขาว” มานานร่วม 2 ปี แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่ได้รับโอกาสสักที
กอปรกับช่วงนี้เศรษฐกิจของไทยไม่ค่อยเฟื่องฟูสักเท่าไหร่ ทำให้การหาสปอนเซอร์ยากเย็นไปด้วย จึงส่งผลให้ไม่มีใครกล้าที่จะลงทุนจัดชิงแชมป์โลกทั้งที่มีโอกาส เช่นเดียวกับ “ถิรชัย” ที่รั้งอันดับ 1 มานาน แต่จะลงทุนจัดชิงแชมป์โลกเองก็ไม่กล้า
เพราะการจัดชิงแชมป์โลกสถาบันหลักแต่ละครั้ง ต้องใช้งบประมาณที่สูงลิ่วมากกว่า 10 ล้านบาท หากโปรไหนหน้าตักไม่แข็งพอ หรือไม่มีสปอนเซอร์คอยอุปถัมภ์ค้ำจุน บอกได้คำเดียวว่า “เจ๊ง” ทุกรายหากคิดที่จะจัดชิงแชมป์โลกในไทย
ครั้งนี้ถ้า “เจ้าขาว” ทำสำเร็จคว้าแชมป์โลก กลับมาได้ บอกได้เลยว่าวงการมวยโลกไทยจะ คึกคักขึ้นอีกหลายเท่าตัว เพราะการที่นักชกไทยสามารถประกาศศักดาบนเมกกะมวยโลกได้สำเร็จ ไม่ว่ารายไหนรายนั้นจะดังกระหึ่มโลกขึ้นมาทันที
ผมว่าหมดสมัยแล้วครับสำหรับการคิดจะจัดเองที่ไทย ถ้าไม่จำเป็นผมว่าอย่าเสี่ยงดีกว่า เพราะไม่เห็นมีอะไรดีขึ้นมาเลย ไม่ว่าชื่อเสียงหรือเงินทองต่อให้แชมป์โลกป้องกันในไทยได้สัก 100 ครั้ง ก็ไม่เท่ากับป้องกันแชมป์โลกที่ต่างแดนแค่ 4-5 ไฟต์
สุดท้ายคนที่รวยรับเละก็คือโปรโมเตอร์ที่คิดแต่จะหลอกเอาเงินของสปอนเซอร์ และให้นักชกป้องกันแชมป์โลกแต่ในบ้าน โดยไม่ยอมให้ไปป้องกันที่ต่างประเทศ เพราะกลัวจะเสียแชมป์แล้วตัวเองเสียผลประโยชน์
การป้องกันแชมป์โลกในไทยค่าตัวที่นักชกจะได้รับแค่จิ๊บจ๊อยสักแสน แถมนักชกก็เสียความรู้สึก แต่ตรงข้ามกับโปรโมเตอร์ที่รับหลักล้าน ซึ่งตรงนี้ถ้าคิดให้ดีมันเป็นการเอาเปรียบนักมวยชัดๆ นักมวย กว่าจะชกแต่ละทีต้องอดข้าวอดน้ำ จะปล่อยเนื้อ ปล่อยตัวไม่ได้ ไม่เช่นนั้นจะทำให้ลำบากเวลาลดน้ำหนัก
ตรงข้ามกับโปรโมเตอร์ที่ได้เงินเยอะกว่า แถมนั่งกินหูฉลามสบายใจเฉิบ
เห็นแล้วเหนื่อยใจแทนนักมวยจริงๆ พับผ่าเถอะ.
ตองเจ