ไทยรัฐฉบับพิมพ์
หลังจาก “เจ้าบาส” สมรักษ์ คำสิงห์ ประเดิมเหรียญทองแรกให้ทัพนักกีฬาไทยในกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 1996 ที่แอตแลนตา ประเทศสหรัฐฯ ตั้งแต่นั้น เป็นต้นมาไม่ว่ากี่ยุคกี่สมัย “มวยสากล” ก็ยังเป็นความหวังเหรียญทองในโอลิมปิกเกมส์
ส่วนหนึ่งเป็นเพราะ “กีฬามวย” คือสิ่งที่คนไทย คุ้นชินมาตั้งแต่อดีตและเป็นกีฬาที่บรรพบุรุษทิ้งไว้ให้ ลูกหลานสืบต่อมาจนถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะ “มวยไทย” ที่ถือเป็นศิลปะป้องกันตัวชั้นยอดกับทุกเพศทุกวัย
วันนี้ทีมหมัดไทยเก็บโควตาไปชิงชัย “ปารีสเกมส์ 2024” ได้ถึง 8 รุ่น เป็นรองก็แค่ “ซิดนีย์” ที่ทีมกำปั้นไทยได้ไปถึง 9 รุ่น และคว้ากลับมาได้ 1 เหรียญทองจาก “วิจารณ์ พลฤทธิ์” และ 1 เหรียญ ทองแดงจาก “พรชัย ทองบุราณ”
ที่เพิ่งปิดฉากไปหมาดๆ มวยคัดโอลิมปิกเลก 2 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ สนามนี้มี 51 โควตา ให้นักมวยทั่วโลก 670 คน จาก 144 ประเทศ ได้ช่วงชิงกัน แบ่งเป็นชาย 28 หญิง 23
การคัดเลือกสนามนี้ถือว่าเป็นความสำเร็จของสมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทยของ “บิ๊กบางจาก” นายพิชัย ชุณหวชิร ที่หวังเพิ่มโควตาจากเดิมที่ได้มา 6 จากการแข่งขันเอเชียนเกมส์ ที่เมืองหางโจว ประเทศจีน และได้มาอีก 1 จากการคัดเลือกสนามแรก ที่อิตาลี
แต่การคัดเลก 2 ไม่ใช่ง่าย เพราะเป็นรถด่วนเที่ยวสุดท้ายบรรดาตัวเต็งที่พลาดเลกแรกก็มารวมตัว ที่นี่ โดยทีมไทยส่งนักมวยชาย 3 รุ่น คือ รุ่น 57 กก. รุตชการญ์ จันทร์ตรง, รุ่น 71 กก. พีรภัทธ์ เยียะสูงเนิน และรุ่น 80 กก. วีระพล จงจอหอ และทีมหญิง ส่ง 2 รุ่น คือ รุ่น 57 กก. นิลาวัลย์ เตชะสืบ และรุ่น 75 กก. ใบสน มณีก้อน
สุดท้ายทีมหมัดไทยเก็บโควตาเพิ่มได้อีก 2 คน จากรุ่น 80 กก. วีระพล จงจอหอ และรุ่น 75 กก. ใบสน มณีก้อน ส่งผลให้ทีมกำปั้นได้เบ็ดเสร็จ 8 รุ่น ที่ไปลุยปารีสเกมส์ 2024
นับจากนี้อีกเดือนเศษก่อนจะถึงการชิงชัยคือห้วงเวลาสำคัญและเป็นการบ้านข้อใหญ่ของสมาคมมวยเสื้อกล้ามไทยที่จะต้องเพาะบ่มและเร่งสร้างความแข็งแกร่งให้กับนักชกให้ทันกับเวลา ต้องงัดกระบวนยุทธ์ทุกสำนักเพื่อให้นักวยมีความพร้อมมากที่สุดและไปพีกในช่วงแข่งขันพอดิบพอดี
จากนั้นก็ไปลุ้นเรื่องของเทพีแห่งโชคในการประกบคู่ อย่าร่วมสายแข็งโป๊กโอกาสที่จะก้าวไปถึง เป้าหมายคงไม่ไกลเกินเอื้อม
ตอนนี้ทีมกำปั้นไทยมีโปรแกรมไปติวเข้มแบบ ครบวงจรที่เยอรมนี จากนั้นก็จะเดินทางเข้าสู่กรุงปารีส ทันที เมื่อโอกาสมาถึงแล้วขอให้ทุกคนทำหน้าที่อย่าง สุดความสามารถเพราะถ้าพลาดหวังคงต้องรอไปอีก 4 ปี ก็ไม่รู้ว่าถึงตอนนั้นใครจะคว้าโควตาได้กี่รุ่น
ถึงเวลารวมพลังแล้วครับเพื่อให้ก้าวไปถึงเป้าหมายที่วางไว้ “ปารีสเกมส์” หนนี้ไป 8 รุ่นได้กลับมาสัก 1 เหรียญทอง ก็ยอดเยี่ยมแล้ว
สรุป 8 นักชกไทยไปลุยโอลิมปิกนักมวยสากล ชาย 3 รุ่น รุ่น 51 กก. ธิติสรรณ์ ปั้นโหมด รุ่น 63.5 กก. บรรจง สินศิริ รุ่น 80 กก. วีระพล จงจอหอ ส่วนนักมวยสากลหญิง 5 รุ่น รุ่น 50 กก. จุฑามาศ รักสัตย์ รุ่น 54 กก. จุฑามาศ จิตรพงษ์ รุ่น 60 กก. ธนัญญา สมนึก รุ่น 66 กก. จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง และรุ่น 75 กก. ใบสน มณีก้อน
พัลลภ ศรีไพรวัลย์ เรียบเรียง
ชาติชาย จันทรวัติ ภาพ