พัลลภ ศรีไพรวัลย์
มวยสากลชิงแชมป์โลก 2021 “AIBA WORLD BOXING CHAMPIONSHIPS” เป็นอีกหนึ่งทัวร์นาเมนต์สำคัญต่อจากมหกรรมกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่ประเทศญี่ปุ่น ที่นักมวยทั่วโลกกว่า 510 คน จาก 88 ชาติต่างส่งนักชกของตัวเองเข้าร่วมประลองหมัด เพราะนอกเหนือจากเรื่องแรงกิ้งโลกที่แต่ละคนจะได้รับแล้ว
ปีนี้โตโผใหญ่อย่าง “สหพันธ์มวยสากลสมัครเล่นนานาชาติ” หรือไอบา ประกาศอัดเงินรางวัลสำหรับผู้ชนะแบบที่ไม่มีใครปฏิเสธ เพราะมีเงินรางวัลรวม 2.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 81 ล้านบาทให้เหล่านักชกได้ขึ้นสังเวียนเป็นเดิมพัน โดยผู้ชนะเหรียญทองรับ 100,000 ดอลลาร์ฯ เหรียญเงิน 50,000 ดอลลาร์ฯ และเหรียญทองแดง 25,000 ดอลลาร์ฯ
การที่ปีนี้ “ไอบา” จัดทัวร์นาเมนต์นี้อย่างยิ่งใหญ่และมีเงินรางวัลล่อใจนั้นเพื่อสร้างแรงจูงใจและหวังสร้างกระแสนิยมให้กับกีฬามวยเสื้อกล้าม ที่สำคัญที่สุดคือสร้างความเชื่อมั่นให้กับองค์กร หลังจากโดน คณะกรรมการโอลิมปิกสากล หรือไอโอซี เพ่งเล็งอย่างหนักในช่วงหลายปีที่ผ่านมาทั้งในเรื่องการตัดสินและผลประโยชน์ภายในองค์กรจนถูกแบนไม่ให้จัดการแข่งขันมวยสากลสมัครเล่นใน “โอลิมปิกโตเกียวเกมส์ 2020”
ที่ผ่านมานักชกไทยหลายต่อหลายรุ่นในแต่ละยุคแต่ละสมัยต่างก็ประสบความสำเร็จและใช้ทัวร์นาเมนต์นี้เป็นบันไดก้าวไปสู่ความสำเร็จในโอลิมปิกเกมส์
เท่าที่เปิดทำเนียบรายชื่อเหล่าฮีโร่โอลิมปิกเกมส์ของไทยหลายคนก็เคยผ่านสังเวียนชิงแชมป์โลกมาเกือบทั้งสิ้นไม่ว่า “สมจิตร จงจอหอ” ที่ได้เหรียญทองในปี 2003 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ รวมถึง “มนัส บุญจำนงค์” ที่ได้เหรียญทองแดงในปีเดียวกัน ซึ่งก็ไม่ใช่แค่นี้ยังมีนักชกอีกหลายคนที่ประสบความสำเร็จได้เหรียญจากรายการชิงแชมป์โลก ไล่ตั้งแต่สุบรรณ พันโนน คว้าเหรียญทองแดง ในปี 1999 ที่เมืองฮิวส์ตัน รัฐเท็กซัส สหรัฐฯ
ตามมาด้วยปี 2007 ที่ชิคาโก สหรัฐอเมริกา ไทย ได้ 2 เหรียญเงิน จากสมจิตร จงจอหอ, นน บุญจำนงค์ และ 1 เหรียญทองแดง จากอำนาจ รื่นเริง และในปี 2013 ที่กรุงอัลมาตี ประเทศคาซัคสถาน ไทยคว้าเหรียญทองแดงได้จากฉัตรชัย บุตรดี ถัดมาในปี 2015 ที่กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ วุฒิชัย มาสุข คว้าเหรียญทองแดง
และล่าสุดที่เพิ่งผ่านมาปี 2021 ที่กรุงเบลเกรด ประเทศเซอร์เบีย ทีมเสื้อกล้ามไทยส่งทีมชายเข้าร่วมถึง 10 คน ซึ่งล้วนเป็นมวยดาวรุ่งสายเลือดใหม่ที่ก้าวขึ้นมาจากชุดเยาวชนเกือบทั้งหมดไล่ตั้งแต่ รุ่น 48 กก. วุฒิชัย ยุระชัย, รุ่น 51 กก. ธนรัฐ แสงเพชร, รุ่น 54 กก. ปฏิภาณ อุทัยดา, รุ่น 57 กก. รุตชการญ์ จันทร์ตรง, รุ่น 60 กก. คุณาธิป ปิดนุช, รุ่น 63.5 กก. สมชาย วงศ์สุวรรณ, รุ่น 67 กก. อธิชัย เพิ่มทรัพย์, รุ่น 71 กก. พีระภัทร์ เยียสูงเนิน, รุ่น 75 กก. วีระพล จงจอหอ และรุ่น 81 กก. จักรพงศ์ ยมโคตร
ซึ่งผลการแข่งขันถือว่ายอดเยี่ยมทีเดียว เพราะทีมหมัดไทยยังเติร์กชุดนี้ส่วนใหญ่มาจากชุดเยาวชนที่สมาคมมวยเสื้อกล้ามไทยส่งไปสร้างกระดูกเพื่อหวังต่อยอดให้เป็นทีมความหวังในอนาคต โดยเฉพาะโอลิมปิกเกมส์ 2024 “ปารีสเกมส์” ที่กำลังจะมาถึงในอีก 3 ปีข้างหน้า กลับสร้างผลงานได้อย่างน่าทึ่งในการต่อกรกับนักชกทั่วโลกที่มากด้วยประสบการณ์ ได้แบบถึงพริกถึงขิงไม่เกรงกลัวเลยแม้แต่น้อย
จำนวน 3 เหรียญที่คว้ามาได้ถือว่าไม่ธรรมดาไล่ตั้งแต่ 1 เหรียญเงินจากรุ่น 48 กก. ส.อ.วุฒิชัย ยุระชัย ดีกรีเหรียญทองมวยรายการ “โคโลญ
บ็อกซิ่งเวิลด์คัพ” ปี 2018 และ 2 ทองแดงจากรุ่น 51 กก. นายธนรัฐ แสงเพชร ดีกรีเหรียญทองเยาวชน และรุ่น 75 กก. ส.ต.ต.วีระพล จงจอหอ ดีกรีเหรียญทองแดง ยูธโอลิมปิก 2018 บอกเลยทุกคนต่างทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์แบบสลัดคราบนักชกเยาวชนได้อย่างหมดจด
ขณะที่ “บิ๊กชาย” สมชาย พูลสวัสดิ์ ประธานพัฒนาเทคนิค ที่เป็นทุกอย่างของทีมมวยมาตลอด เผยว่า ตนทึ่งและภูมิใจกับนักชกชุดนี้มาก สำหรับทัวร์นาเมนต์นี้นะทุกคนยอดเยี่ยมมาก แม้ส่วนใหญ่เพิ่งขยับก้าวขึ้นมาจากชุดเยาวชนแต่ทุกคนก็โชว์ผลงานได้อย่างเหนือความคาดหมาย แต่ถ้าจะให้พูดภาพรวมผมพอใจการทำหน้าที่ของนักมวยทีมชาติไทยทุกคน เพราะทุกคนต่างเสียสละและทุ่มเทแรงกายแรงใจในการทำหน้าที่เพื่อประเทศชาติมาตลอดในทุกทัวร์นาเมนต์การแข่งขัน เพียงเพื่อหวังทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายอย่างสมบูรณ์แบบ แม้บางคนอาจไม่สมหวังแต่ก็ไม่มีใครอยากผิดหวัง บอกเลยวันนี้ตนมีความสุขที่ได้มีส่วนร่วมในการสร้างความสำเร็จให้กับวงการมวยเสื้อกล้าม อย่างที่บอก “มวยคือสาย เลือดคือเลือดเนื้อ” ที่ตนผูกพันมานานตั้งแต่เด็ก
เห็นนักกีฬาและสตาฟฟ์โค้ชรวมถึง “บิ๊กชาย” สมชาย พูลสวัสดิ์ ที่ทุ่มเทในการทำหน้าที่แต่ละครั้งแล้วต้องปรบมือให้กับความทุ่มเทและความเสียสละของทุกคน เพราะมวยคือกีฬาความหวังของคนไทยในทุกเกมการแข่งขันระดับนานาชาติ โดยเฉพาะกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติ “โอลิมปิกเกมส์”
แต่เหนือสิ่งอื่นใดต้องมาลุ้นการเลือกตั้งนายกสมาคมคนใหม่ที่จะมีขึ้นในวันที่ 19 ธ.ค.ว่าใครจะมานั่งเก้าอี้บริหารงานต่อจาก “บิ๊กบางจาก” พิชัย ชุณหวชิร แต่จากที่ดูคร่าวๆ และจากข่าวคร่าวก่อนการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์มีสัญญาลับๆ แบบลูกผู้ชายว่าจะยกเก้าอี้ตัวนี้ให้ “บิ๊กชาย” สมชาย พูลสวัสดิ์ เข้ามาสานงานต่อ
ถ้านายกคนต่อไปชื่อ “สมชาย พูลสวัสดิ์” ถือว่าเหมาะสมด้วยประการทั้งปวงหากต้องการความสำเร็จใน “โอลิมปิกเกมส์ 2024” เพราะ “บิ๊กชาย” คือทุกอย่างของมวย “รู้ลึกและรู้จริง” ว่ามวยคืออะไรต้องการแบบไหนและทำอย่างไรถึงจะประสบความสำเร็จ จนหลายสโมสรต่างก็ยกมือเชียร์.
พัลลภ ศรีไพรวัลย์ เรื่อง