โจโจ้
ยินดีด้วยกับ “เจ้าสด” ฉัตร์ชัยเดชา บุตรดี นักชกเสื้อกล้ามทีมชาติไทย ที่เพิ่ง ประกาศแขวนนวมหลังเสร็จสิ้นภารกิจ “โอลิมปิกเกมส์ 2020” ที่ประเทศญี่ปุ่น ที่สมหวังได้บ้านสมใจหลังอำลาสังเวียน ผ้าใบทีมชาติ
เมื่อผู้หลักผู้ใหญ่ใจดีในวงการกีฬาที่นำโดย “บิ๊กบางจาก” พิชัย ชุณหวชิร นายกสมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทย “สุชัย พรชัยศักดิ์อุดม” นายกสมาคมกีฬาลอนเทนนิสแห่งประเทศไทย และ เสรี วิริยะสกุลธรณ์ กรรมการบริหารสมาคมฯ ร่วมมอบเงินจำนวน 3.49 ล้านบาท ให้ “เจ้าสด” ไปซื้อบ้านอยู่กับครอบครัว
ถือเป็นข่าวดีในช่วงบั้นปลายของอาชีพพ่อค้ากำปั้น
จะว่าไปแล้ว “เจ้าสด” ถือเป็นนักชกที่ประพฤติดี และปฏิบัติตัวอยู่ในระเบียบวินัยมาตลอด ไม่มีเกเรหรือออกนอกแถว ทุ่มเทให้กับการฝึกซ้อมและแข่งขัน ทุกครั้ง
จนนักชกรุ่นน้องหลายคนยกให้เป็น “ไอดอล” ของมวยเสื้อกล้ามไปแล้ว
ตลอดเวลา 16 ปีเต็ม ของการรับใช้ชาติและ สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศมาตลอด “เจ้าสด” ผ่านร้อน ผ่านหนาวตระเวนคว้าเหรียญมานับไม่ถ้วนแทบทุกรายการขาดเพียงแค่ “เอเชียนเกมส์ กับโอลิมปิกเกมส์” เท่านั้นที่ยังไม่สมหวัง
แต่นั้นก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อย่างที่บอกความสำเร็จ รายการสำคัญๆไม่ใช่ได้มาง่ายๆ และไม่ใช่มีฝีมืออย่างเดียวจะทำให้สมหวังต้องมีองค์ประกอบที่ควบคู่ กับ “ดวงและวาสนา” ด้วย
เห็นได้ว่าทั้ง 2 รายการ ที่พลาดหวังของ “เจ้าสด” เป็นเพราะดวงไม่เอื้ออำนวย อย่างเอเชียนเกมส์ล่าสุด ที่อินโดนีเซีย เป็นการชกรอบ 8 คน ทุกอย่างกำลังจะไปได้สวยดันเกิดแผลแตกไปยก 2 ทำให้กรรมการจับแพ้
เช่นเดียวกับโอลิมปิกเกมส์ที่บราซิล ฉัตร์ชัยเดชา แพ้รัสเซีย แบบค้านสายตาในรอบ 16 คน ทั้งที่หาก ผ่านเข้าถึงรอบ 8 โอกาสที่จะได้เหรียญมีสูงทีเดียว เพราะตัวเก่งดันอยู่คนละสาย
นั่นคืออดีตที่เจ็บปวดของ “เจ้าสด” ที่คงจะฝังอยู่ในใจไปอีกนาน
วันนี้เจ้าตัวประกาศแขวนนวมอย่างเป็นทางการไปแล้ว แม้จะพลาดหวังจากโอลิมปิกเกมส์ครั้งสุดท้ายด้วยการตกรอบ 8 คน ก็ตามในความผิดหวัง ก็มีเรื่องดีๆด้วยเช่นกัน เพราะล่าสุดได้บรรจุเข้าเป็นนายทหารสัญญาบัตรเป็น “ผู้หมวด” ของกองทัพบกเรียบร้อยแล้ว
การสมหวังได้บ้านหลังงามๆ หลังจากแขวน นวมทำให้คุณภาพชีวิตและครอบครัวอบอุ่นขึ้น
นี่แหละครับทั้งหมดทั้งมวลมาจากความทุ่มเทและตั้งใจจริงในช่วงที่ทำหน้าที่นักกีฬาทีมชาติ แม้ในเกมไม่สมหวังแต่เมื่อมีผู้ใหญ่ใจดีเห็นคุณค่าก็จะมีสิ่งดีๆตอบแทนดีๆมาด้วยเช่นกัน
อย่างน้อยก็ทำให้นักชกรุ่นน้องได้รู้ว่าหากเรา ทุ่มเทและปฏิบัติตัวให้อยู่ในกรอบเมื่อวันที่เราต้องอำลาทีมชาติก็จะมีผู้ใหญ่ใจดีให้การสนับสนุนอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกับ “ฉัตร์ชัยเดชา” ที่กำลังจะใช้ความรู้ความสามารถผันตัวเองไปเป็นหนึ่งในสตาฟฟ์ โค้ชทีมชาติไทยไปแล้ว
ดีใจที่ “โค้ชสด” วางเป้าหมายในหน้าที่ใหม่ ไว้แล้วว่าจะพานักมวยรุ่นน้องไปคว้าเหรียญโอลิมปิก เกมส์ให้ได้สักครั้ง
หนทางต่อจากนี้จะเป็นเช่นไรไม่มีใครรู้ที่แน่ๆคำว่า “ทำดีได้ดี” ยังคงใช้ได้เสมอ.
โจโจ้