“ซาลาส-ญีนา” พ่อลูกเลือดนักสู้

เบื้องหลังความสำเร็จของ ยอร์เดนิส อูกัส นักชกจากคิวบา วัย 35 ปี ที่มาปักหลักที่สหรัฐฯ และเอาชนะ แมนนี ปาเกียว ยอดมวยโลกจากฟิลิปปินส์ วัย 42 ปี ป้องกันแชมป์โลก สมาคมมวยโลก รุ่นเวลเตอร์เวท ไว้ได้ เมื่อสัปดาห์ก่อน

คงทราบกันบ้างแล้วว่ามี อิสมาเอล ซาลาส เทรนเนอร์ชาติเดียวกัน ในวัย 64 ปี คอยติวเข้ม ฟูมฟักมาตลอด

จริงๆแล้วซาลาสเป็นใคร แน่นอนว่าหากเป็นแฟนหมัดมวยรุ่นใหม่ๆ ชื่อนี้คงจะไม่คุ้นหูมากนัก แต่ถ้าใครที่คลุกคลีกับวงการมวยของไทยมาอย่างต่อเนื่อง จะรู้จักเป็นอย่างดีว่า ซาลาสมีความสำคัญแค่ไหน

มันสมองของวงการมวยโลกคนนี้ ผลักดันตัวเองออกจากคิวบาไปสอนมวยในหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็นปากีสถาน เกาหลีเหนือ และมีไทย อยู่ในเส้นทางการทำงานด้วย

ซาลาสเคยเทรนให้ทั้งแชมป์โลกและทีมมวยสากลสมัครเล่นทีมชาติไทย ช่วยให้ทั้ง แสน ส.เพลินจิต, หยกไทย ศิษย์ อ., พิชิต ศิษย์บางพระจันทร์ หรือแม้กระทั่ง มนัส บุญจำนงค์ และ สมจิตร จงจอหอ ประสบความสำเร็จมาแล้ว

จากนั้นซาลาสก็ยังเดินทางตามฝันไม่หยุด มีทั้งไปทำงานที่ญี่ปุ่นและล่าสุดที่สหรัฐฯ ซึ่งนอกจากเป็นเทรนเนอร์ให้อูกัสเจ้าตัวยังเปิดค่ายมวย ที่ลาสเวกัส ในชื่อซาลาส บ็อกซิ่ง อะคาเดมี่ อีกด้วย

ย้อนกลับไปในวันชิงแชมป์โลก โดยทั่วไปแล้ว แฟนหมัดมวยอาจจะเลือกเชียร์ฝั่งอูกัส หรือไม่ก็ ปาเกียว คนใดคนหนึ่ง

แต่สำหรับ “จีน่า” ญีนา ซาลาส นักแสดงลูกครึ่งไทย-คิวบา ที่มีผลงานบันเทิง ทั้งถ่ายโฆษณาและเล่นละครมาแล้วหลายเรื่องทางช่อง 3 รวมทั้งเป็นนางเอก MV เพลงหมดความหมาย ของวง POTATO ในวันนั้น เธอเลือกที่จะให้กำลังใจ

ซาลาสผู้เป็นพ่อ เป็นการเฉพาะแบบสุดหัวใจ

ฮอตสปอร์ตได้สัมภาษณ์ญีนา ถึงความรู้สึกในวันดังกล่าว ซึ่งนางเอกสาวในวัย 21 ปี ที่ตอนนี้กำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 2 มหาวิทยาลัยรังสิต สาขาวิชาการเขียนบท การกำกับภาพยนตร์ และโทรทัศน์ และกำลังจะมีผลงานละครเรื่องพิศวาสฆาตเกมส์ ในเร็วๆนี้ บอกว่าลุ้นแบบสุดๆ

“จีน่า” เล่าว่า วันนั้นเชียร์อยู่หน้าจอกับ “แม่ไก่” ธนมน ซาลาส ที่บ้าน ยอมรับว่าปาเกียว เป็นมวยระดับโลกจริงๆ แต่อูกัสก็ทำได้ดีเช่นเดียวกัน

ช่วงที่ดูอยู่แม่เล่าให้ฟังด้วยว่า ตอนยังไม่มี “จีน่า” แม่เคยบอกกับคุณพ่อไว้ว่าสักวัน คุณพ่อจะได้ก้าวไปสู่เวทีมวยโลก ซึ่งในที่สุด

คุณพ่อก็ทำได้จริงๆ เหมือนที่คุณแม่พูดไว้เลย

หลังชกเสร็จก็ได้ทักไปหาคุณพ่อ เพื่อแสดงความยินดีกับคุณพ่อทันที

ส่วนคนในวงการบันเทิงก็ร่วมแสดงความยินดีกับ “จีน่า” ด้วยหลายคน เช่น พี่เกรท วรินทร และ พี่เป้ อารักษ์ เป็นต้น

นางเอกสาวชื่อดังเล่าต่ออีกว่า สำหรับชื่อญีนาของตนนั้น เป็นชื่อที่คุณพ่อซาลาสตั้งให้ ซึ่งเป็นชื่อเดียวกับคุณย่า เมื่อเอ่ยชื่อจริงของ “จีน่า” ก็จะได้เป็นการนึกถึงคุณย่าไปในเวลาเดียวกัน

ส่วนปัญหาโควิด-19 ก็ทำให้ “จีน่า” และคุณพ่อไม่ค่อยได้เจอกันเท่าไหร่ ครั้งล่าสุดที่เจอกัน เมื่อ 3-4 ปีที่แล้วที่ญี่ปุ่น ไปเที่ยวกับคุณแม่ ก็ไม่ได้ตั้งใจ ไม่ได้บอกกันล่วงหน้า พอดีคุณพ่อทราบว่าเราอยู่แถวนั้น ก็ได้มาเจอกันพอดี ดีใจมากๆ หลังโควิดคลี่คลายคุณพ่อก็มีแผนจะกลับมาหาที่เมืองไทย

ขณะที่ความเป็นไปได้ในการสานต่อธุรกิจค่ายมวยของคุณพ่อ จะมีโอกาสมาเปิดที่เมืองไทย ด้วยหรือไม่ “จีน่า” บอกว่ายังไม่ได้คิด คงต้องพูดคุยกับคุณพ่อก่อน เรียนและทำงานของตนเองไปก่อน ในอนาคตก็มีความเป็นไปได้

และจากการติดตามการทำงานของซาลาส พบว่าเทรนเนอร์จากคิวบารายนี้ ต้องต่อสู้กับชีวิตมาตลอด ตั้งแต่ออกจากคิวบา และไปฝึกสอนมวยในหลายประเทศ ถือเป็นยอดนักสู้คนหนึ่งเลยก็ว่าได้

ในเรื่องนี้ “จีน่า” ยอมรับว่า ได้ซึมซับความเป็นเลือดนักสู้มาจากคุณพ่อแบบเต็มๆ ได้รับมาเยอะมากๆ ตั้งแต่จำความได้ก็เห็นคุณพ่อสู้มาตลอด

ทราบจากคุณแม่ว่าคุณพ่อลำบากไม่น้อย กับการใช้ชีวิตในประเทศต่างๆ ต้องอดทนอย่างมาก ต้องปรับตัวอยู่ตลอด ทั้งวัฒนธรรม อาหาร และความเป็นอยู่

โชคดีอยู่ที่เมืองไทยได้คุณแม่คอยช่วยเหลือ ทั้งการสื่อสารกับนักมวย และในเรื่องอาหารการกิน หรือหากคุณพ่อจะดูละครไทย คุณแม่ก็ยังช่วยแปลให้ฟัง

ช่วงที่คุณพ่อต้องไปทำงานต่างประเทศ ทั้งที่ญี่ปุ่นและสหรัฐฯ สมัยนั้นการติดต่อลำบากมาก
“จีน่า” ต้องเป็นเสาหลักให้กับที่บ้าน

“จีน่า” เริ่มทำงานในวงการบันเทิงตั้งแต่อายุ 13 ปี ก็เริ่มสู้มาตั้งแต่ตอนนั้น!!!

ไม่เพียงหารายได้จากการถ่ายโฆษณา เป็นตัวละครเอ็กซ์ตร้าในช่วงแรกๆ ยังต้องสู้ และพิสูจน์ตัวเองอย่างหนัก เพราะในวงการมีแรงกดดันเยอะพอสมควร

กว่าจะผ่านมาได้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

“โดยเฉพาะช่วงที่ได้ขึ้นมาเป็นนางเอกละครเรื่องรัตนาวดี ตอนอายุ 15 ปี ก็มีหลายเสียงที่อาจจะไม่เห็นด้วย แต่จีน่าก็ตั้งใจทำอย่างเต็มที่ เรียนแอ็กติ้ง แบบหนักสุดๆ และพิสูจน์ตัวเองได้ในที่สุด” จีน่า กล่าวในตอนท้าย

ทั้งหมดนี้เป็นความรู้สึกของนางเอกสาวที่มีต่อศึกไฟต์สำคัญที่จบไปแล้ว และความผูกพันกับคุณพ่อ ยอดเทรนเนอร์ระดับโลก

เรียกได้ว่าชีวิตของซาลาส ผู้เป็นพ่อ กับ “จีน่า” ญีนา ลูกสาวคนเล็ก จากทั้งหมด 3 คน อาจจะไม่เหมือนกันในอาชีพที่ทำ แต่เส้นทางที่เดิน

ต่างก็ผ่านความยากลำบาก ก่อนที่อะไรๆจะค่อยๆ ลงตัว

เป็นตัวอย่างของพ่อลูกที่สู้ไม่ถอย!!!

ใครที่กำลังท้อแท้ หมดกำลังใจ นำไปเป็นตัวอย่างในการผลักดันตนเองได้

เลือดนักสู้มีอยู่ในตัวกันทุกคนอยู่แล้ว อยู่ที่ว่าจะดึงมาใช้กันหรือไม่ และใช้อย่างไร

เท่านั้นเอง...

กัญจน์ ศิริวุฒิ เรื่อง