ไทยรัฐออนไลน์
ศิริมงคล สิงห์วังชา อดีตแชมป์โลกขวัญใจชาวไทย เจอปัญหาสารพัดหลังคืนสังเวียนในต่างแดน ทั้งโดนหักค่าตัวและไม่มีใบตรวจโควิด จนตกเครื่องกลับไทยไม่ได้ เจ้าตัวครวญผ่านโซเชียล ขอความช่วยเหลือจากทางการไทยด่วน
วันที่ 4 พ.ย. 63 "เจ้าโอ๋" ศิริมงคล สิงห์วังชา อดีตแชมป์โลก 3 รุ่น 2 สถาบัน จำต้องหวนคืนสังเวียนอีกครั้งในวัย 43 ปี ด้วยพิษเศรษฐกิจจากการระบาดของโรคโควิด-19 หลังได้รับการติดต่อให้ไปชกที่ประเทศแทนซาเนีย กับ ทวาฮา กิดูกู แชมป์ประเทศแทนซาเนีย รุ่นซุปเปอร์มิดเดิลเวต
เดิมทีทางผู้จัด เชามาลี อายับ จะจัดให้เป็นการชิงแชมป์ "ว่าง" สภามวยแห่งเอเชีย WBC Asia รุ่น 168 ปอนด์ แต่เมื่อใกล้วันชก ทางสถาบันฯ กลับไม่รับรอง เนื่องจากผิดขั้นตอนในระเบียบการจัดหลายประการ อาทิ ไม่ยอมส่งกรรมการของสถาบันฯ ไปทำหน้าที่ การชกดังกล่าวจึงกลายเป็นการชกนอกรอบ กำหนด 10 ยกแทน
ซึ่งผลการชกที่ ดาร์เอสซาลาม เมืองหลวงเก่าของแทนซาเนีย เมื่อวันที่ 30 ตุลาคมที่ผ่านมา "เจ้าโอ๋" ศิริมงคล ต้องรีดลดน้ำหนักถึง 15 กิโลกรัม แต่ยังเกินพิกัดอีก 3 กิโลกรัม ไม่สามารถทำน้ำหนักได้ตามพิกัด 168 ปอนด์ จึงเป็นการชกนอกรอบ และขอยอมแพ้หลังหมดยกที่ 7 ทางผู้จัดจึงหักค่าตัว ศิริมงคล 40 เปอร์เซ็นต์ตามสัญญาที่ระบุไว้ก่อนชก
แต่ล่าสุดเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ได้เกิดปัญหาขึ้นเมื่อ ศิริมงคล และ "ติ๋ว" วิพัฒนา แทนมูล ผู้จัดการสาวผู้ทำหน้าที่ล่าม ซึ่งเดินทางไปด้วยกัน 2 คน ไม่สามารถเดินทางกลับประเทศไทยได้ เนื่องจากทั้งคู่ไม่มีเอกสารรับรองการตรวจเชื้อไวรัสโควิด-19 ภายใน 72 ชั่วโมง จึงไม่สามารถผ่าน ตม.สนามบิน (กองตรวจคนเข้าเมืองแทนซาเนีย) เพื่อขึ้นเครื่องได้
ด้าน ศิริมงคล จึงได้โพสต์คลิปขอความช่วยเหลือพร้อมชี้แจงว่า "ผมตกเครื่องครับ เพราะสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งผมไม่รู้อะไรเลย และต้องทำอะไรอย่างไรบ้าง มีแต่ มาดามติ๋ว ผู้จัดการผมที่พอจะเจรจาเป็นล่ามให้ แต่เราสองคนก็ไม่มีความรู้ใดๆ เลย ซึ่งติ๋วบอกว่า เราไม่มีใบรับรองแพทย์จากสถานทูตไทย จึงไม่มีเอกสารแสดงหลักฐานที่สนามบิน ทำให้ไม่สามารถเดินทางกลับประเทศไทยได้ ถือเป็นบทเรียนราคาแพงครั้งหนึ่งในชีวิต"
"เจ้าโอ๋" กล่าวอีกว่า "การชกครั้งนี้ไม่ได้รับรองให้เป็นการชิงแชมป์ ผมจึงได้ค่าตัวน้อย แต่ก็ยังดีที่ มิสเตอร์เชามาลี โปรโมเตอร์ช่วยดูแลเป็นอย่างดี แต่เขาก็ยังไม่ได้รับเงินจากการจัด ซึ่งเขาก็ไม่มีเงินเลยในเวลานี้ ตอนนี้ผมคิดถึงทุกคนทั้งพ่อแม่และญาติพี่น้องที่เมืองไทย แต่ผมไม่สามารถกลับบ้านได้ในตอนนี้ จึงอยากให้ใครก็ได้ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ทางการไทยให้ความช่วยเหลือผมในเรื่องนี้ด้วยครับ"
กรณีดังกล่าวมีการสอบถามไปยัง "มาสเตอร์ เจย์" นายศวิรินทร์ ปิ่นแก้ว ครูมวยสุรกิตย์ยิมส์ที่ภูเก็ต ผู้ประสานงานให้ ศิริมงคล ได้ไปชกที่แทนซาเนีย ซึ่งอยู่ในไทย เผยว่า "ปัญหาที่เกิดขึ้นเพราะทางสถานีทีวีของแทนซาเนียเห็นว่ามวยคู่นี้ไม่ได้ชิงแชมป์จึงจ่ายค่าตัวเพียงครึ่งเดียวใหักับทาง เชามาลี อายับ โปรโมเตอร์ และตัวเงินก็ยังไม่ถึงมือในขณะนี้ด้วย"
"อย่างไรก็ตาม ทางโปรโมเตอร์ได้พา ศิริมงคล ออกจากโรงแรมไปพักที่บ้านของคนไทยในแทนซาเนีย และกำลังอยู่ระหว่างเดินเรื่องเพื่อขอเอกสารใบรับรองจากสถานทูตไทยที่แทนซาเนียอยู่ในขณะนี้ เบื้องต้นเท่าที่ทราบเราจะต้องกลับมาถูกกักตัวในเมืองไทย และต้องเสียค่าใช้จ่ายเองคนละประมาณ 4 หมื่นบาท ซึ่งลำพังค่าตัวจากการชกก็ไม่เพียงพอเลยด้วยซ้ำ ถือเป็นบทเรียนสำคัญสำหรับนักมวยไทยที่จะไปชกต่างแดนในช่วงปัญหาโควิด-19 ที่น่าเห็นใจเป็นอย่างยิ่ง และจะมีใครบ้างไหมที่พอจะช่วยเหลือในเรื่องนี้".