หน้าแรกแกลเลอรี่

กูร์กตัวส์เซฟอุตลุด "เรอัล มาดริด" ปราบ "ลิเวอร์พูล" ผงาดแชมป์ UCL สมัยที่ 14

ไทยรัฐออนไลน์

29 พ.ค. 2565 04:32 น.

"ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด เอาชนะ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ผงาดคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก มาครอง เป็นสมัยที่ 14

การแข่งขันฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2021-22 รอบชิงชนะเลิศ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 28 พ.ค. 65 ที่สนาม สต๊าด เดอ ฟรองซ์ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล จากอังกฤษ พบกับ “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด จากสเปน

เปิดฉากครึ่งแรก นาทีที่ 18 ลิเวอร์พูลได้ลุ้นก่อน โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ซัดด้วยซ้ายในเขตโทษ แต่ไม่ผ่าน ติโบต์ กูร์กตัวส์

ถัดมานาทีเดียว เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ของหงส์แดง ยิงด้วยขวาจากนอกเขตโทษ บอลข้ามคานออกไป

จากนั้นนาทีที่ 21 ลิเวอร์พูล เกือบขึ้นนำ เมื่อ ซาดิโอ มาเน พลิกยิงด้วยขวาในเขตโทษ ติโบต์ กูร์กตัวส์ ปัดไปชนเสาก่อนตามคว้าได้

ถึงนาทีที่ 44 เรอัล มาดริด ชวดได้ประตู จากจังหวะที่ คาริม เบนเซมา ยิงในเขตโทษเข้าไปตุงตาข่าย แต่วีเออาร์เช็กว่าล้ำหน้าไปก่อนแล้ว

จบครึ่งแรก ลิเวอร์พูล ยังเสมอ เรอัล มาดริด 0-0

กลับมาเล่นต่อครึ่งหลัง นาทีที่ 59 เรอัล มาดริด ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ เฟเดริโก บัลเบร์เด พาบอลเข้าเขตโทษฝั่งขวาก่อนกึ่งยิงผ่านมาเสาสองให้ วินิซิอุส จูเนียร์ ยิงจ่อๆ เข้าไป

จากนั้น นาทีที่ 63 ลิเวอร์พูลน่าตีเสมอสุดๆ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ลากมาปั่นด้วยซ้ายจากนอกกรอบ บอลจะเสียบเสาไกลอยู่แล้ว แต่ ติโบต์ กูร์กตัวส์ พุ่งปัดออกไปได้

นาทีที่ 69 ลิเวอร์พูลมาอีกแล้ว จอร์แดน เฮนเดอร์สัน เปิดบอลยาวไปให้ ดิโอโก โชตา โหม่งย้อนมาให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ปรี่มาดีด แต่ ติโบต์ กูร์กตัวส์ ใช้ขาเซฟได้

ถึงนาทีที่ 80 ลิเวอร์พูล น่าได้อีกแล้ว โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จ่ายให้ ดิโอโก โชตา ที่ลงมาเป็นตัวสำรอง ยิงเปลี่ยนทาง แต่ ติโบต์ กูร์กตัวส์ เซฟออกไปได้

นาทีที่ 82 โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ลุยไปซัดด้วยขวาในเขตโทษ แต่ ติโบต์ กูร์กตัวส์ ก็ยังเซฟออกไปได้

ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบเกม เรอัล มาดริด เอาชนะ ลิเวอร์พูล ไป 1-0 คว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก มาครองเป็นสมัยที่ 14

รายชื่อ 11 ตัวจริงของทั้ง 2 ทีม

ลิเวอร์พูล: อลิสสัน เบคเกอร์ (GK), เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์, อิบราฮิมา โกนาเต, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, ฟาบินโญ, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ติอาโก อัลคันทารา, หลุยส์ ดิอาซ, โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ ซาดิโอ มาเน

เรอัล มาดริด: ติโบต์ กูร์กตัวส์ (GK), ดานี คาร์บาฆาล, เอแดร์ มิลิเตา, ดาวิด อลาบา, แฟร์กล็องด์ เมนดี, โทนี โครส, ลูกา โมดริช, คาเซมิโร, เฟเดริโก บัลเบร์เด, วินิซิอุส จูเนียร์ และ คาริม เบนเซมา