สุดดราม่า "เรอัล มาดริด" ต่อเวลาดับ "แมนฯ ซิตี้" พลิกนรกเข้าชิง ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก

"ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด โกงความตาย เปิดบ้านแซงชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สกอร์รวม 2 นัด ราชันชุดขาว ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ไปเจอกับ ลิเวอร์พูล

การแข่งขันฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2021-22 รอบรองชนะเลิศ นัดสอง ประจำคืนวันพุธที่ 4 พ.ค. 65 “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด จากสเปน เปิดสนามซานติอาโก เบร์นาเบว รับการมาเยือนของ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จากอังกฤษ โดยนัดแรก แมนฯ ซิตี้ เปิดบ้านชนะมาได้ก่อน 4-3 

เปิดฉากครึ่งแรก นาทีที่ 4 เรอัล มาดริด ได้ลุ้นก่อนจากจังหวะที่ ดานี คาร์บาฆาล เปิดบอลจากฝั่งขวาเข้ากรอบเขตโทษ คาริม เบนเซมา ขึ้นโหม่งโล่งๆ หลุดกรอบอย่างน่าเสียดาย

นาทีที่ 9 แมนฯ ซิตี้ ได้ฟรีคิกระยะค่อนข้างไกล ริยาด มาห์เรซ อาสาซัดเน้นๆ บอลพุ่งตรงตัว ติโบต์ กูร์กตัวส์ นายด่านราชันชุดขาว

ถัดมา 3 นาที คาริม เบนเซมา ของเรอัล มาดริด ได้ตวัดยิงด้วยขวาในเขตโทษ บอลเหินข้ามคาน

จากนั้น นาทีที่ 15 แมนฯ ซิตี้ ได้ลุ้นขึ้นนำ เมื่อ เควิน เดอ บรอยน์ ยิงไกลด้วยซ้าย แต่บอลยังตรงตัว กูร์กตัวส์

นาทีที่ 18 เรอัล มาดริด ได้ลุ้นบ้าง วินิซิอุส จูเนียร์ ซัดด้วยซ้ายในเขตโทษ บอลเหินข้ามคานออกไปอีก

นาทีที่ 19 แบร์นาโด ซิลวา ของแมนฯ ซิตี้ หลุดไปซัดด้วยขวาในเขตโทษ แต่ กูร์กตัวส์ ปัดออกไปได้

นาทีที่ 22 แมนฯ ซิตี้ ได้ลุ้นต่อเนื่อง กาเบรียล เฆซุส ปั่นด้วยขวาจากนอกกรอบ บอลโค้งเฉี่ยวสามเหลี่ยมไปนิดเดียว

นาทีที่ 26 เรอัล มาดริด ได้ฟรีคิกระยะหวังผล โทนี โครส ปั่นด้วยวา บอลแฉลบข้ามคานไปหวุดหวิด

จบครึ่งแรก เรอัล มาดริด ยังเสมอ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 0-0

กลับมาเล่นต่อครึ่งหลัง นาทีที่ 73 แมนฯ ซิตี้ ขึ้นนำ 1-0 เมื่อ แบร์นาโด ซิลวา จ่ายบอลเข้าเขตโทษฝั่งขวาให้ ริยาด มาห์เรซ ตะบันด้วยซ้ายเข้าไปตุงตาข่าย

จากนั้นนาทีที่ 90 เรอัล มาดริด ตีเสมอเป็น 1-1 จากจังหวะเปิดบอลเข้ามาในกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย คาริม เบนเซมา ตวัดเข้ากลางให้ โรดรีโก ปรี่มาชาร์จเข้าไปไม่พลาด

เข้าสู่ช่วงทดเจ็บนาทีที่ 90+1 เรอัล มาดริด แซงนำ 2-1 จากจังหวะที่ ดานี คาร์บาฆาล เปิดบอลจากฝั่งขวาเข้ากรอบเขตโทษ และเป็น โรดรีโก ขึ้นโหม่งเข้าไปตุงตาข่าย

จบ 90 นาที เรอัล มาดริด ชนะ แมนฯ ซิตี้ 2-1 แต่รวมผล 2 นัด เสมอกัน 5-5 ต้องมาลุ้นกันต่อในช่วงต่อเวลาพิเศษ

เข้าสู่ช่วงต่อเวลาพิเศษ นาทีที่ 91 เรอัล มาดริด ได้ลุ้นก่อนเลย คาริม เบนเซมา เติมมายิงด้วยขวา แต่บอลตรงตัว เอแดร์สัน

จากนั้นนาทีที่ 95 เรอัล มาดริด ได้จุดโทษ เมื่อ คาริม เบนเซมา โดน รูเบน ดิอาส เสียบร่วงในเขตโทษ และเป็น เบนเซมา ลุกขึ้นมาสังหารไม่พลาด พา เรอัล มาดริด นำห่าง 3-1

นาทีที่ 105 แมนฯ ซิตี้ ชวดได้ประตูจากจังหวะที่ ฟิล โฟเดน ได้โหม่งในเขตโทษ ติโบต์ กูร์กตัวส์ ปัดมาเข้าทาง แฟร์นันดินโญ ปรี่มาชาร์จจ่อๆ ที่เสาสอง แต่ไม่โดนบอล

ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ ครบ 120 นาที เรอัล มาดริด เอาชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไป 3-1 รวมผล 2 นัด เรอัล มาดริด ชนะ 6-5 ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ไปเจอกับ ลิเวอร์พูล ในวันเสาร์ที่ 28 พ.ค.นี้ ที่สนามสต๊าด เดอ ฟรองซ์ ประเทศฝรั่งเศส

รายชื่อ 11 ตัวจริงของทั้ง 2 ทีม

เรอัล มาดริด: ติโบ กูร์กตัวส์ (GK), เอแดร์ มิลิเตา, ดานี คาร์บาฆาล, แฟร์กล็องด์ เมนดี, นาโช เฟอร์นันเดซ, เฟเดริโก บัลเบร์เด, คาเซมิโร, ลูกา โมดริช, โทนี โครส, วินิซิอุส จูเนียร์ และ คาริม เบนเซมา

แมนเชสเตอร์ ซิตี้: เอแดร์สัน (GK), ชูเอา คันเซโล, รูเบน ดิอาส, อายเมริค ลาปอร์กต์, ไคล์ วอลเกอร์, โรดรี, เควิน เดอ บรอยน์, ฟิล โฟเดน, แบร์นาโด ซิลวา, ริยาด มาห์เรซ และ กาเบรียล เฆซุส