หน้าแรกแกลเลอรี่

ลิเวอร์พูล บุกโดน มิดทิลแลนด์ ไล่เจ๊า 1-1 ส่งท้ายแบ่งกลุ่ม ชปล.

ไทยรัฐออนไลน์

10 ธ.ค. 2563 02:53 น.

"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล บุกมาโดน มิดทิลแลนด์ ไล่ตีเสมอ 1-1 ในศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มดี นัดสุดท้าย

การแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2020-21 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มดี นัดสุดท้าย เมื่อคืนวันพุธที่ 9 ธ.ค. 63 คู่ที่น่าสนใจ มิดทิลแลนด์ ทีมดังจากเดนมาร์ก ที่ตกรอบไปแล้ว เปิดสนามเอ็มซีเอช อารีนา รับการมาเยือนของ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ที่ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายไปแล้ว

เปิดฉากครึ่งแรกมาแค่ 1 นาที ลิเวอร์พูล ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ผู้เล่นมิดทิลแลนด์ส่งบอลคืนหลังพลาดมาเข้าทาง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ กระชากบอลเข้าเขตโทษก่อนยิงผ่าน เยสเปอร์ แฮนเซน นายด่านของมิดทิลแลนด์ เข้าไปตุงตาข่าย

จากนั้นนาทีที่ 4 มิดทิลแลนด์ ได้ลุ้นจากจังหวะที่ อีวานเดอร์ เปิดลูกเตะมุมฝั่งขวาเข้าเขตโทษ อีริค สเวียตเชนโก ขึ้นโหม่งหลุดกรอบออกไป

นาทีที่ 15 โอกาสของลิเวอร์พูล เมื่อ ทาคูมิ มินามิโนะ กระดกบอลให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ หลุดไปยิงในเขตโทษแต่โดน เยสเปอร์ แฮนเซน เซฟได้ แต่ถ้าเข้าก็ไม่ได้ประตู เพราะซาลาห์ถูกจับล้ำหน้าไปก่อนแล้ว

ถึงนาทีที่ 19 ลิเวอร์พูลน่าได้ประตูที่สองสุดๆ เมื่อ ทาคูมิ มินามิโนะ เปิดบอลจากฝั่งขวาเข้าเขตโทษให้ ดิโอโก โชตา โฉบมาซัดเน้นๆ แต่ เยสเปอร์ แฮนเซน เซฟออกไปได้

นาทีที่ 31 ลิเวอร์พูลมาอีกแล้ว คราวนี้เป็น โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่จ่ายบอลมาทางซ้ายให้ ดิวอค โอริกี ยิงโล่งๆ หลุดเสาไกลออกไปอย่างน่าผิดหวัง

จบครึ่งแรก ลิเวอร์พูล บุกมานำ มิดทิลแลนด์ ไปก่อน 1-0

กลับมาเล่นต่อครึ่งหลัง รูปเกมของ มิดทิลแลนด์ ดีกว่า ลิเวอร์พูล อย่างเห็นได้ชัด นาทีที่ 49 มิดทิลแลนด์ได้ลุ้นแบบรัวๆ เริ่มจากกองหลังลิเวอร์พูลโหม่งสกัดไม่ขาดมาเข้าทาง อีวานเดอร์ ซัดด้วยขวา บอลพุ่งชนคานดังสนั่น ก่อนที่บอลจะมาเข้าทาง โซรี กาบา ตีลังกายิงหลุดกรอบออกไป

จากนั้นนาทีที่ 55 โอกาสของเจ้าถิ่นอีกแล้ว เปาลินโญ เปิดบอลจากฝั่งซ้ายเข้ากรอบเขตโทษ โซรี กาบา โหม่งเช็ดหลุดเสาสองไปนิดเดียว

ถึงนาทีที่ 62 มิดทิลแลนด์ มาได้จุดโทษจากจังหวะที่ อันเดอร์ส เดรเยอร์ โดน ควีวิน เคลเลเฮอร์ จอมหนึบลิเวอร์พูล ทำฟาวล์ร่วงลงไป โดยมีการเช็กวีเออาร์เรียบร้อย และเป็น อเล็กซานเดอร์ โชลซ์ รับหน้าที่สังหารไม่พลาด พาเจ้าถิ่นตีเสมอ 1-1

และในนาทีที่ 76 มิดทิลแลนด์ชวดแซงนำ เมื่อ อเล็กซานเดอร์ โชลซ์ ยิงเข้าไป แต่ VAR เช็กว่าล้ำหน้าไปก่อนแล้ว

เข้าสู่ช่วงท้ายเกม นาทีที่ 86 มิดทิลแลนด์ เกือบได้อีกแล้ว จากจังหวะที่ อีวานเดอร์ เปิดลูกเตะมุมจากฝั่งซ้ายเข้ากรอบเขตโทษ อีริค สเวียตเชนโก ได้โหม่งเน้นๆ แต่ ควีวิน เคลเลเฮอร์ โชว์ซุปเปอร์เซฟปัดออกไปได้

และในนาทีที่ 89 ลิเวอร์พูล เกือบเผด็จศึกได้เหมือนกัน จากจังหวะที่ ทาคูมิ มินามิโนะ ซัดจ่อๆ ในเขตโทษเข้าไป แต่วีเออาร์เช็กว่าก่อนหน้านั้น ซาดิโอ มาเน ทำแฮนด์บอลไปก่อนแล้ว

ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบเกม ลิเวอร์พูล บุกมาเสมอ มิดทิลแลนด์ 1-1 ลิเวอร์พูล เก็บเพิ่มเป็น 13 คะแนน เข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่ม ขณะที่ มิดทิลแลนด์ เก็บเพิ่มเป็น 2 คะแนน ตกรอบในฐานะบ๊วยของกลุ่ม

ส่วนทีมที่ผ่านเข้ารอบเป็นอันดับ 2 ของกลุ่มนี้คือ อตาลันตา ที่บุกไปชนะ อาแจ็กซ์ อัมส์เตอร์ดัม ถึงถิ่น 1-0 เก็บเพิ่มเป็น 11 คะแนน ส่วน อาแจ็กซ์ มี 7 คะแนนเท่าเดิม จบอันดับ 3 ร่วงไปเล่นในยูโรปาลีก

รายชื่อ 11 ตัวจริงของทั้ง 2 ทีม

มิดทิลแลนด์ : เยสเปอร์ แฮนเซน, ดิออน คูลส์, อีริค สเวียตเชนโก, อเล็กซานเดอร์ โชลซ์, เปาลินโญ, เยนส์ คายุสเต, แฟรงก์ ออนเยกา, อีวานเดอร์, อันเดอร์ส เดรเยอร์, เอเวอร์ มาบิล, โซรี กาบา

ลิเวอร์พูล : ควีวิน เคลเลเฮอร์, เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์, รีส วิลเลียมส์, ฟาบินโญ, คอสตาส ซิมิกาส, นาบี เกอิต้า, เลห์ตัน คลาร์กสัน, ดิโอโก โชตา, โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ทาคูมิ มินามิโนะ และ ดิวอค โอริกี้