ไม่มีปาฏิหาริย์ที่คัมป์นู

ไม่มีปาฏิหาริย์ใดๆทั้งสิ้น สำหรับ “ปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลังไม่สามารถต้านทานบาร์เซโลนาและแข้งเทพอย่างลิโอเนล เมสซีได้ ก่อนบุกไปโดนบาร์ซาถล่มพ่ายยับเยินหมดสภาพ 0-3 ส่งผลให้แมนฯยู พ่ายไปด้วยสกอร์รวม 2 นัด 0-4 จอดป้ายศึกแชมเปียนส์ลีกแค่รอบ 8 ทีมสุดท้าย

“เมสซี” คือความแตกต่างอย่างแท้จริงในเกมนี้ เพราะยอดหัวหอกขั้นเทพชาวอาร์เจนไตน์ สร้างความปั่นป่วนให้แนวรับปิศาจแดงตลอดทั้งเกม

ต้องบอกว่าเกมนี้มันจบตั้งแต่ 20 นาทีแรกแล้ว หลังจากเมสซีแผลงฤทธิ์เหมาซัดคนเดียวสองลูกให้บาร์เซโลนาออกนำก่อน 2-0 (นาที 16 และ 20) ทำให้สกอร์รวม 2 นัด เป็นบาร์ซาที่นำห่างถึง 3-0 ซึ่งผีแดงต้องทะลวงตาข่ายบาร์ซาถึงสี่ลูกถึงจะพลิกกลับมาแซงเข้ารอบ

จริงๆแล้ว ช่วงต้นเกมทีมปิศาจแดงทำได้ดีกว่า และน่าจะได้ประตูขึ้นนำก่อนตั้งแต่ยังไม่ทันผ่านพ้นนาทีแรกของเกมเลยด้วยซ้ำ จากมาร์คัส แรชฟอร์ด ที่ดันยิงไปชนคาน

ยิ่งไปกว่านั้น แมนฯยูยังรอดพ้นการเสียจุดโทษในนาทีที่ 11 เมื่อผู้ตัดสิน เฟลิกซ์ บรีช เป่าให้บาร์ซาได้จุดโทษ หลังเฟร็ด ไปทำฟาวล์ อิวาน ราคิติช จากทางด้านหลังในเขตโทษ

ก่อนที่ผู้ตัดสินจะขอดูวีเออาร์ที่ข้างสนาม ซึ่งเมื่อดูภาพช้าแล้ว เชิ้ตดำก็เปลี่ยนใจไม่ให้จุดโทษแก่เจ้าถิ่น เพราะเห็นว่า เฟร็ด สกัดโดนบอลก่อนถึงตัวราคิติช

พอตั้งเกมของตัวเองได้ บาร์ซาก็เดินหน้าบุกอย่างเต็มที่ ก่อนจะพังประตูขึ้นนำ 1-0 จนได้ จากความสามารถเฉพาะตัวอันเหนือชั้นของเมสซี ที่โชว์ลีลาเทพพลิ้วลากลุยพาบอลเข้าไปยิงตุงตาข่ายอย่างสวยงาม

ส่วนประตูที่ 2 ของเมสซีนั้น เป็นลูกยิงที่ดูเหมือนไม่อันตรายอะไร และพุ่งตรงตัวดาวิด เด เคอา ด้วยซ้ำ แต่นายทวารมือ 1 ทีมชาติสเปนดันทำพลาดรับบอลไม่อยู่ ลูกลอดแขนเข้าประตูไปอย่างไม่น่าเชื่อ

ครึ่งหลังบาร์เซโลนายังมาได้ประตูปิดกล่อง 3-0 ในนาที 61 จากคูตินโญ ที่ยิงปั่นโค้งจากนอกเขตโทษระยะกว่า 20 หลา ส่งบอลเสียบสามเหลี่ยมเข้าประตูอย่างสุดสวย

ความพ่ายแพ้ย่อยยับนัดนี้ของผีแดง ผมว่าต้องโทษโอเล กุนนาร์ โซลชา กุนซือชาวนอร์เวย์ ที่จัดทีมแบบผิดพลาดมหันต์

เพราะแทนที่จะส่งโรเมลู ลูกากู หัวหอกร่างยักษ์ทีมชาติเบลเยียม ลงมายืนหน้าเป้า เพื่อกดดันแนวรับบาร์ซา แต่กุนซือหน้าทารกกลับเลือกที่จะส่งเจสซี ลินการ์ด มาทำหน้าที่กองหน้าตัวเป้าจำเป็นแทน

หลังเกมโซลชากุนซือปิศาจแดง ยอมรับโดยไม่มีข้อโต้แย้งว่าเมสซีเป็นสุดยอดนักเตะโลก และสร้างความแตกต่างในเกมนี้ “ผมขอบอกว่า เมสซีคือนักเตะชั้นยอด และเป็นข้อแตกต่างอย่างแท้จริง หลังจากที่พวกเขานำ 2-0 เกมมันก็จบแล้ว เมสซีอยู่อีกระดับ เขากับคริสเตียโน โรนัลโด คือสุดยอดนักเตะแห่งทศวรรษที่ผ่านมา เมสซีแสดงให้เห็นถึงคุณภาพของเขาอีกครั้ง”

นอกจากนี้ กุนซือหน้าทารกยังยอมรับว่า แมนฯยูยังห่างชั้นจากบาร์เซโลนา และต้องใช้เวลาอีก 2-3 ปีกว่าจะก้าวขึ้นมาอยู่ระดับเดียวกับบาร์ซาได้

เรื่องนี้ผมเห็นด้วยกับโซลชาอย่างยิ่ง มองแล้วแมนฯยูชุดนี้ยังห่างชั้นกับบาร์เซโลนาหลายลี้ และคงต้องใช้เวลาสร้างทีมไม่ต่ำกว่า 3-4 ปีถึงจะขึ้นมาเทียบชั้นกับทีมเจ้าบุญทุ่มเลือดหมู-น้ำเงิน

แน่นอนว่าซัมเมอร์นี้ แมนฯยูต้องซื้อนักเตะฝีเท้าดีมาเสริมทัพอีก 2-3 คนเป็นอย่างน้อย โดยเฉพาะต้องดึงกองหลังฝีเท้าดีมาเสริมแกร่งแนวรับให้ได้

ไม่เช่นนั้นผีแดงก็ยังคงตามก้นบาร์ซาอีกหลายปีแสงเลยทีเดียว.

หมวดแซม