ไทยรัฐออนไลน์
"เดนิส ลอว์" 3 ทหารเสือ หรือ สามประสานศักดิ์สิทธิ์ คนสุดท้ายของ "ปิศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เป็นสมาชิกคนสุดท้ายของ "ยูไนเต็ด ทรินิตี้" เสียชีวิตลงแล้ว ด้วยวัย 84 ปี
เดนิส ลอว์ ที่ได้รับฉายา "เดอะ คิง" และ "เดอะ ลอว์แมน" จากกองเชียร์ เกิดที่เมือง อเบอร์ดีน ประเทศสกอตแลนด์ เริ่มต้นอาชีพบนถนนเส้นทางสายลูกหนังกับ ฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ โดยค้าแข้งอยู่ระหว่างปี 1956-60 ต่อมาย้ายไปยัง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ระหว่างปี 1960-61 จากนั้นย้ายไป โตริโน ระหว่างปี 1961-62
ก่อนย้ายไปยัง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ระหว่างปี 1962–1973 แล้วหวนกลับมาที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ระหว่างปี 1973–74 ส่วนในนาม ทีมชาติสกอตแลนด์ ตัวเขาได้ลงรับใช้ชาติในระดับครึ่งร้อยนัด เลยทีเดียว
ซึ่งโดยรวมแล้วตลอดเส้นทางการค้าแข้งตัวเขาประสบความสำเร็จมาอย่างมากมาย อาทิ แชมป์ดิวิชั่น 1 ในปี 1964–65, 1966–67, เอฟเอ คัพ ปี 1962-63 เอฟเอ แชริตี ชิลด์ (คอมมิวนีตีชิลด์) ปี 1965, 1967 แชมป์ ยูโรเปียน คัพ (ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก) ปี 1967-68 ตลอดจนก้าวขึ้นไปคว้ารางวัล บัลลงดอร์ ปี 1964 และรางวัลอื่นๆ อีกนับไม่ถ้วน
กระทั่งย้อนกลับไปเมื่อปี 2021 เดนิส ลอว์ ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคอัลไซเมอร์และสมองหลอดเลือดสมองเสื่อม ระหว่างนั้นตัวเขาก็ต่อสู้กับโรคดังกล่าวมาตลอด และสุดท้ายก็จากไปแบบไม่มีวันกลับในวันนี้ ท่ามกลางความเสียใจของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องตลอดจนแฟนๆ ทั่วทั้งโลก
แม้ เดนนิส ลอว์ จะจากโลกนี้ไป และ ตัวอาจได้ไปเจอกับ เซอร์ บ็อบบี้ ชาร์ลตัน และ จอร์จ เบสต์ อีก 2 ทหารเสือ ที่ร่วมกันนำพา "ปิศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ขีดเขียนหน้าประวัติศาสตร์ของสโมสรแห่งนี้ไปตลอดกาล โดยที่ทุกคนคว้ารางวัล บัลลงดอร์ ไปได้ทั้งหมด ) เดนิส ลอว์ ปี 1964, เซอร์ บ็อบบี้ ชาร์ลตัน ปี 1966, จอร์จ เบสต์ ปี 1968)
ถ้าหากไม่มี เดนิส ลอว์ รวมถึง 2 คนที่เหลือ สโมสรฟุตบอล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็อาจไม่มีวันนี้ก็เป็นได้ พวกเขาทำให้แฟนบอลทั่วโลกรู้จักเอกลักษณ์, ดีเอ็นเอ และ ต้นแบบของทีมที่ต้องอยู่บนมาตรฐานสูง ไล่ล่าความสำเร็จตลอดเวลา ซึ่งแน่นอนว่าจะเป็นที่จำจดอยู่ในหัวใจของแฟนบอลตลอดไป