หน้าแรกแกลเลอรี่

เปิดสถิติก่อนเกม "แมนยูฯ" เปิดรังฟัดเดือด "ฟูแลม" แมตช์เปิดหัว พรีเมียร์ลีก 2024-25

ไทยรัฐออนไลน์

16 ส.ค. 2567 13:14 น.

เปิดสถิติก่อนเกม "แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด" เปิดรังฟัดเดือด "ฟูแลม" แมตช์เปิดหัว พรีเมียร์ลีก 2024-25 ค่ำคืนวันที่ 16 ส.ค. นี้ 02.00 น. ตามเวลาประเทศไทย

วันที่ 16 ส.ค. 67 เปิดสถิติก่อนเกม "ปิศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ภายใต้การนำทีม เอริก เทน ฮาก ผู้จัดการทีมชาวเนเธอร์แลนด์ ที่มีคิวจะนำทีมเปิดสนามโอลด์ แทรฟเฟิร์ด ต้อนรับการมาเยือน "เจ้าสัวน้อย" ฟูแลม ที่มี มาร์โก ซิลวา เทรนเนอร์ชาวโปรตุเกส คุมทัพ

"ปิศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้เสริมความแข็งแกร่งด้วยผู้เล่นใหม่ 4 คนในช่วงซัมเมอร์นี้ ได้แก่ เลนี โยโร, โจชัว เซิร์กซี, มัทไธส์ เดอ ลิกต์ และนูสแซร์ มาซราอุย ในรายแรกเจ็บทันทีหลังลงสนามให้ทีมได้เพียง 2 นัด และจะพลาดเกมกับ "ฟูแลม" อย่างแน่นอน "ราสมุส ฮอยลุนด์" จะเป็นอีกหนึ่งคนที่พลาดโอกาสลงเล่นเช่นเดียวกัน ขณะที่ ลุค ชอว์, วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ, จาดอน ซานโช, โจชัว เซิร์กซี, มัทไธส์ เดอ ลิกต์ และนูสแซร์ มาซราอุย ต้องลุ้นเช็กฟิต

อย่างน้อย "แมนยูฯ" จะได้เล่นอย่างสบายใจที่ "โอลด์ แทรฟเฟิร์ด" อีกครั้ง ซึ่งพวกเขาเริ่มต้นฤดูกาลด้วยการเล่นในบ้านมาแล้ว 10 นัดจาก 11 นัดหลังสุดในลีก โดยนัดนี้จะเป็นนัดที่ 8 ติดต่อกันที่พวกเขาทำได้ ถือเป็นสถิติสูงสุดในพรีเมียร์ลีก

ด้าน "ฟูแลม" แพ้เกมเปิดสนามพรีเมียร์ลีกเพียง 2 นัดจาก 9 ฤดูกาลหลังสุด โดยเก็บคลีนชีตได้ถึง 6 นัดจาก 9 เกมนั้น นักเตะตัวหลักของทีมอย่าง "อันเดรียส เปเรรา" มักจะทำผลงานได้ดีเมื่อต้องเจอกับอดีตสโมสรของเขา (แมนยูฯ) และเอมิล สมิธ โรว์ จะได้ลงเล่นเป็นตัวจริงทันทีหลังย้ายมาร่วมทีม

อย่างไรก็ตาม มีผู้เล่นจากลอนดอนเพียง 3 คนเท่านั้นที่ทำประตูในเกมเยือน "แมนยูฯ" ได้นั่นคือ ดาร์เรน เบนท์ (ฟูแลม-สเปอร์ส), เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ (อาร์เซนอล-สเปอร์ส) และแฟรงค์ แลมพาร์ด (เชลซี-เวสต์แฮม)

จากการพบกัน 34 นัดหลังสุด "แมนยูฯ" แพ้เพียง 4 เกมเท่านั้น ดูจากสถิติลูกทีมของ "เอริก เทน ฮาก" มีโอกาสในการคว้าชัยชนะมากกว่า โดย ออบตา (opta) เว็บไซด์รวบรวมสถิติชื่อดังได้เปิดเผยโอกาสที่ผลการแข่งขันจะเป็นทางฝั่งเจ้าบ้านชนะไปได้ถึง 58.5 เปอร์เซ็นต์ "ฟูแลม" ชนะ 20.6 เปอร์เซ็นต์

นัดล่าสุดที่ "แมนยูฯ" แพ้ให้กับ "ฟูแลม" ต้องย้อนกลับไปในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2024 ซึ่งในเกมนั้นจบลงด้วยสกอร์ 1-2 แต่การพบกัน 4 นัดหลังสุดของทั้งคู่จบลงด้วยชัยชนะนอกบ้าน โดย 3 นัดมาจากประตูชัยในนาทีที่ 90 (แมนยูฯ 2 นัด และฟูแลม 1 นัด)

แมนฯ ยูไนเต็ด ยังแพ้เกมพรีเมียร์ลีก 2 นัดหลังสุดให้กับทีมจากลอนดอน โดยนัดดังกล่าวเป็นชัยชนะของฟูแลมในเดือนกุมภาพันธ์ และนัดที่อาร์เซนอลชนะ 1-0 ในเดือนพฤษภาคม อย่างไรก็ตาม สโมสรในลอนดอนไม่สามารถคว้าชัยชนะที่โอลด์ แทรฟเฟิร์ดได้ในลีกติดต่อกัน 3 ครั้ง นับตั้งแต่เดือนธันวาคม 1985 ถึงกันยายน 1986

คาดการณ์รายชื่อ 11 ผู้เล่นของทั้ง 2 ทีมโดยเว็บไซต์ "whoscored"

"แมนยูฯ" มาในระบบ 4-2-3-1 ผู้รักษาประตู อองเดร โอนานา แบ็คโฟร์ ดิโอโก ดาร์โลต์, แฮร์รี แม็กไกวร์, จอห์นนี อีแวนส์, ลิซานโดร มาติเนซ คู่กลาง คาเซมิโร กับ คอบบี เมนู ตัวรุกใช้งาน อเลฮานโด การ์นาโช, บรูโน เฟอร์นันเดซ, อาหมัด ดิยัลโล ส่วนกองหน้าตัวเป้า มาร์คัส แรชฟอร์ด

"ฟูแลม" มาในระบบ 4-2-3-1 ผู้รักษาประตู แบรนด์ เลโน แบ็กโฟร์ ติโมตี กัสตาญ, อิสซา ดิยอป, คาลวิน บาสซีย์, แอนโทนี โรบินสัน คู่กลาง แฮร์ริสัน รีด กับ ซาชา ลูคิช ตัวรุกใช้งาน อเล็กซ์ อิโวบี, เอมิล สมิธ โรว์, อดามา ตราโอเร ส่วนกองหน้าตัวเป้า โรดริโก มูนิซ