มะระหวาน
ยังโชว์ฟอร์มได้ร้อนแรงอย่างต่อเนื่องจริงๆ สำหรับ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ล่าสุดบุกไป ถล่ม “เดอะ เชอร์รีส์” บอร์นมัธ พังคารัง 4-0 ในเกมพรีเมียร์ลีกนัดล่าสุด ทำให้ตอนนี้เก็บเพิ่ม เป็น 48 คะแนน พร้อมทำแต้มฉีกหนี “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ รองจ่าฝูง ไปเป็น 5 แต้ม
ที่ผ่านมา ลิเวอร์พูล ถือว่าเป็นอีกทีมที่ฟอร์ม ค่อนข้างคงเส้นคงวา แม้ว่าจะมีปัญหานักเตะได้รับ บาดเจ็บมากมายถึง 8-9 รายด้วยกัน โดยเฉพาะ 4 แนวรับ อย่างแอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์, คอสตาส ซิมิกาส และ โจเอล มาติป ที่นัดกันเข้าโรงหมอไปด้วยกัน
ทำให้ตอนนี้ คลอปป์มีแนวรับให้ใช้งานเพียงแค่เวอร์จิล ฟาน ไดก์, อิบราฮิมา โกนาเต และโจ โกเมซ เท่านั้น จนต้องดันคอเนอร์ แบรดลีย์ กับจาเรลล์ ควอนซาห์ 2 ดาวรุ่งพุ่งแรงเข้ามาเสริมทัพเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเรื่องนักเตะได้รับบาดเจ็บก็ปวดหัวพอแล้ว ลิเวอร์พูล ยังต้องมาเสียตัวของโมฮัมเหม็ด ซาลาห์ กองหน้าทีมชาติอียิปต์ และวาตารุ เอ็นโด กองกลางทีมชาติญี่ปุ่น ไปรับใช้ทีมชาติบ้านเกิดในศึกแอฟริกา คัพ ออฟ เนชันส์ และเอเชียน คัพ ตามลำดับ
จากปัญหาดังกล่าวทำให้หลายฝ่ายกังวลว่า “หงส์แดง” จะฟอร์มสะดุดเพราะมีปัญหารุมเร้าอย่างหนักจริงๆ เพราะแนวรับก็มีปัญหา แนวรุกดาวซัลโวของทีมก็ไม่อยู่
แต่สิ่งที่เจอร์เกน คลอปป์ และเพื่อนร่วมทีม แสดงให้เห็นในช่วง 2-3 นัดที่ผ่านมา ก็ทำให้สาวก “เดอะ ค็อป” รู้สึกเบาใจอย่างมาก เพราะทุกคนก็ยัง รักษาฟอร์มการเล่นเอาไว้ได้
แต่เมื่อฮีโร่ประจำทีมอย่างซาลาห์ไม่อยู่ ทาง “หงส์แดง” ก็มีฮีโร่คนใหม่ก้าวขึ้นมาทดแทนทันทีนั่นก็คือ ดาร์วิน นูนเญซ กองหน้าทีมชาติอุรุกวัย ที่เพิ่งกดไป 2 ตุง ในเกมที่ลิเวอร์พูลไล่ถล่มบอร์นมัธไป 4-0
ก่อนหน้านี้ นูนเญซถือว่าเป็นแข้งที่ตกเป็นขี้ปากสาวกคู่แข่งมากที่สุด เพราะชอบทำหมูหกพลาดลูกง่ายๆ จนกลายเป็นมีมในโลกโซเชียลมากมายนับตั้งแต่ย้ายมาเล่นในถิ่นแอนฟิลด์ในฤดูกาลที่แล้ว
แต่มาในซีซันนี้อดีตดาวยิงเบนฟิกา ฟอร์มเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ เริ่มปรับตัวกับทีมได้มากขึ้น พูดภาษาอังกฤษ สื่อสารเข้าใจกับเพื่อนร่วมทีมมากขึ้น จนทำให้ในซีซันนี้ยิงได้มากขึ้นเรื่อยๆ
โดยรวม 2 เม็ด ล่าสุดในเกมสอยบอร์นมัธ ทำให้นูนเญซยิงให้ลิเวอร์พูล รวมทุกรายการไปแล้ว 10 ประตู ในซีซันนี้ แถมเจ้าตัวยังถูกคลอปป์จับมา เล่นในตำแหน่งปีกมากขึ้น ทำให้เจ้าตัวทำแอสซิสต์ ได้มากเช่นกัน โดยซีซันนี้ทำไปแล้วถึง 10 ครั้งด้วยกัน
ทำให้เจ้าตัวกลายเป็นนักเตะในพรีเมียร์ลีก คนแรกในซีซันนี้ที่ยิงและแอสซิสต์ 10 ลูก ทุกรายการ
นอกจากนูนเญซแล้วคนที่ยังโชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมอยู่เสมอก็คือ ดิโอโก โชตา กองหน้าทีมชาติ โปรตุเกส ที่กดไปอีก 2 เม็ด ในเกมล่าสุด ไม่ว่าจะ บาดเจ็บหนักแค่ไหนกลับมาก็ยังยิงประตูได้เรื่อยๆ
เรียกได้ว่า โชตา เป็นอีกหนึ่งคีย์แมนที่เจอร์เกน คลอปป์ นายใหญ่ชาวเยอรมัน จะขาดไม่ได้ เพราะเจ้าตัวถือว่าเป็นอีกหนึ่งสุดยอดเพชฌฆาตที่มีพื้นที่ในการหาช่องทำทาง หาจังหวะ ยิงประตู และการเข้าทำที่เฉียบขาด ซึ่งค่อนข้างครบเครื่อง
แม้ว่าโชตาจะไม่ถูกพูดถึงมากนักถ้าเทียบกับ ซาลาห์ และนูนเญซ แต่เจ้าตัวก็แสดงให้เห็นแล้วว่า เป็นคนที่ “หงส์แดง” ขาดไม่ได้จริงๆ
เท่านั้นยังไม่พอบรรดาแดนกลางอย่าง อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ ที่นัดนี้คุมเกมได้เนียนตา จริงๆ หรือแนวรับอย่างอิบราฮิมา โกนาเต ที่เล่นได้อย่างท็อปฟอร์ม เล่นได้อย่างแข็งแกร่งเก็บลูก กลางอากาศหรือภาคพื้นดินได้หมด
เรียกได้ว่าชั่วโมงนี้ฟอร์มการเล่น ลิเวอร์พูล ครบเครื่องจริงๆ ยังมองไม่ออกเลยว่าชั่วโมงนี้ ใครจะหยุด “หงส์แดง” ได้.
มะระหวาน
คลิกอ่านคอลัมน์ “ตะลุยฟุตบอลโลก” เพิ่มเติม