หน้าแรกแกลเลอรี่

แมนยูฯ-ลิเวอร์พูล-แมนฯ ซิตี้ ติดโผ สรุปท็อป 5 เหตุการณ์ใหญ่ในวงการกีฬา ปี 2023

ไทยรัฐออนไลน์

31 ธ.ค. 2566 06:00 น.

สรุปท็อป 5 เหตุการณ์ใหญ่ในวงการกีฬา ปี 2023 แมนยูฯ, ลิเวอร์พูล, แมนฯ ซิตี้ 3 ทีมดังพรีเมียร์ลีกติดโผด้วย

ไทยรัฐสปอร์ต สรุป 5 เหตุการณ์ใหญ่ในวงการกีฬา ปี 2023 ที่กำลังจะผ่านพ้นไป ก่อนเข้าสู่ศักราชใหม่ปี 2024 แต่ก่อนที่จะเดินหน้าสู่บทต่อไป เราลองไปทบทวนกันอีกสักครั้งว่ามีเหตุการณ์ไหนในวงการกีฬาที่ยังตราตรึงในความทรงจำกันบ้าง เพราะสิ่งที่เคยเกิดขึ้นแล้วอาจไม่ได้สิ้นสุดลงเพียงเท่านั้น แต่อาจเป็นจุดเริ่มต้นสำหรับการเกิดขึ้นของสิ่งใหม่ๆ ก็ได้

5 เหตุการณ์ใหญ่ในวงการกีฬา ปี 2023

1. แดงเดือดพรีเมียร์ลีก ลิเวอร์พูล ถล่ม แมนยูฯ 7-0 (5 มีนาคม)

ใครจะไปเชื่อว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เพิ่งปลดล็อกแชมป์แรกในรอบ 6 ปีของสโมสร ด้วยการคว้าแชมป์คาราบาว คัพ (ลีกคัพ) เพียงแค่ 1 สัปดาห์ก่อนหน้านั้น จะโดน ลิเวอร์พูล คู่รักคู่แค้นตลอดกาล ไล่ถล่มยับเยินจนหมดสภาพกลับออกมาจากแอนฟิลด์ในศึกแดงเดือดพรีเมียร์ลีก อังกฤษ

ผลการแข่งขันดังกล่าวถือเป็นสกอร์ที่แพ้ชนะกันด้วยผลต่างที่ห่างกันมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของ "ศึกแดงเดือด" แทนที่สถิติเดิม ซึ่ง ลิเวอร์พูล เคยชนะ แมนยูฯ 7-1 ในศึกดิวิชั่น 2 (เดิม) เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม ปี 1895 หรือเมื่อ 128 ปีก่อนอีกด้วย

ไม่เพียงเท่านั้น สกอร์ 7-0 ยังเทียบเท่ากับสถิติสูงสุดในประวัติศาสตร์ของ แมนยูฯ นับตั้งแต่ก่อตั้งสโมสรมา 145 ปี (รวมสมัยที่ยังใช้ชื่อเดิมว่า นิวตัน ฮีธ) โดยมีอีก 3 นัดที่เคยแพ้ด้วยสกอร์เดียวกัน ถือเป็นการแพ้ขาดลอยที่สุดในรอบ 92 ปี นับตั้งแต่พ่าย วูล์ฟแฮมป์ตัน 0-7 ในศึกดิวิชั่น 2 เดิม เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม ปี 1931

2. ทีมชาติไทย แลกหมัด อินโดนีเซีย ฟุตบอลชาย ซีเกมส์ 2023 รอบชิงชนะเลิศ (16 พฤษภาคม)

นี่คือ 1 ในเหตุการณ์ที่เป็นตราบาปของวงการฟุตบอลไทย และวงการกีฬาไทยอย่างแท้จริง นอกเหนือจากความผิดหวังที่ ทีมชาติไทย U23 พ่ายแพ้ ทีมชาติอินโดนีเซีย U23 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ รอบชิงชนะเลิศ ด้วยสกอร์ 2-5 ชวดแชมป์สมัยที่ 17 พร้อมกับพลาดเหรียญทองซีเกมส์ 3 สมัยติดต่อกันเป็นครั้งแรกในรอบ 32 ปี

แต่ความผิดหวังยังไม่เทียบเท่ากับความอัปยศ หลังเกิดเหตุวางมวยโกลาหลระหว่าง ทีมชาติไทย กับ ทีมชาติอินโดนีเซีย ถึง 2 รอบ โดยมีต้นเหตุจากจังหวะเดือดในเกม และมีการยั่วยุกันจนเกิดการเอาคืนระหว่าง 2 ทีม นำไปสู่การโดนใบแดงไล่ออกของผู้เล่นในสนามรวมกันถึง 4 คน ซึ่งเป็นของ "ช้างศึก" ถึง 3 ใบ จนถึงขั้น บีบีซี สื่อชั้นนำตีข่าวฉาวไปทั่วโลก

ที่สุดแล้ว สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (เอเอฟซี) ได้ลงโทษทั้ง 2 ทีม ด้วยการแบนคนละ 6 นัด โดยทีมชาติไทย มีนักเตะ 4 คน, สตาฟฟ์โค้ช 2 คน, เจ้าหน้าที่ทีม 2 คน และต้องจ่ายค่าปรับทั้งรายบุคคลตามที่ประกาศ รวมถึง สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ก็โดนด้วย ขณะที่ อินโดนีเซีย มีผู้เล่นโดน 5 ราย, ผู้ฝึกสอน 1 ราย และเจ้าหน้าที่ทีม 1 ราย และต้องจ่ายค่าปรับรายบุคคลตามที่ประกาศในบทลงโทษเช่นกัน

3. "รูเบียเลส" ขโมยจูบ กลบกระแส "สเปน" คว้าแชมป์ฟุตบอลโลกหญิง 2023 (20 สิงหาคม)

แม้ทีมชาติสเปน จะเฉือนชนะ ทีมชาติอังกฤษ แชมป์ยุโรปทีมล่าสุดด้วยสกอร์ 1-0 คว้าแชมป์ฟุตบอลโลกหญิงสมัยแรกไปครองแบบหักปากกาเซียน แต่สุดท้ายความสำเร็จที่ควรได้รับการเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ กลับถูกขโมยซีนด้วยดราม่าจาก หลุยส์ รูเบียเลส ประธานสหพันธ์ฟุตบอลสเปน

เหตุเกิดขึ้นในขณะที่ ทีมชาติสเปน ขึ้นโพเดียมรับเหรียญรางวัล ซึ่ง หลุยส์ รูเบียเลส แสดงความยินดีแบบเกินเลย ด้วยการสวมกอด เจนนิเฟอร์ เอร์โมโซ 1 ในสมาชิกชุดแชมป์แบบแนบแน่น จากนั้นก็จับศีรษะแล้วดึงเข้ามาจูบที่ริมฝีปาก ชนิดที่เธอไม่ทันตั้งตัว แม้มีราชวงศ์สเปนมาร่วมพิธีมอบรางวัลบนเวทีด้วยก็ตาม ซึ่งจังหวะนี้กลายเป็นคลิปไวรัลไปทั่วโลกในชั่วข้ามคืน

สุดท้าย หลุยส์ รูเบียเลส ก็ไม่รอดพ้นจากบทลงโทษโดย สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) สั่งแบนอดีตประธานสหพันธ์ฟุตบอลสเปนรายนี้ ด้วยการห้ามยุ่งเกี่ยวกับวงการฟุตบอลเป็นเวลา 3 ปี ข้อหามีพฤติกรรมไม่เหมาะสม และเข้าข่ายล่วงละเมิดทางเพศ

4. น้องเทนนิส พาณิภัค พลิกนรกดราม่าเกราะไฟฟ้า เตะแซงชนะ จีน คว้าเหรียญทองเอเชียนเกมส์ (25 กันยายน)

"ฟ้าหลังฝนสวยงามเสมอ" อาจเป็นคำนิยามสำหรับเหรียญทองเอเชียนเกมส์ 2022 ของ "น้องเทนนิส" พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ จอมเตะเบอร์ 1 ของโลก รุ่น 49 กิโลกรัม หญิง ชาวไทย ซึ่งเธอเกือบไม่ได้ดื่มด่ำความสำเร็จ และต้องชอกช้ำกลับบ้านพร้อมคราบน้ำตาแห่งความผิดหวังแล้ว

ศึกเทควันโด เอเชียนเกมส์ 2022 รอบชิงชนะเลิศ ที่จีน "น้องเทนนิส" โคจรมาพบกับ กั๊วะ ชิ่ง ตัวความหวังของเจ้าภาพ ซึ่งหลังจากเสมอกัน 1-1 ยก ก็มีดราม่าในยกที่ 3 เมื่อเกราะไฟฟ้าเกิดปัญหาขัดข้องในขณะที่ กั๊วะ ชิ่ง ทำคะแนนขึ้นนำ 6-0 ก่อนที่คะแนนจะไหลไปถึง 23-0

แต่หลังจากเปลี่ยนเกราะใหม่ กรรมการก็ให้กลับมาแข่งต่อโดยเริ่มต้นที่สกอร์ 6-0 อีกครั้ง ก่อนที่ "น้องเทนนิส" จะตั้งสติและสมาธิกลับมาได้อย่างรวดเร็ว แล้วไล่เตะศีรษะทำคะแนนแซงชนะ กั๊วะ ชิ่ง ไปในที่สุด 2-1 ยก สร้างประวัติศาสตร์เป็นนักกีฬาเทควันโดทีมชาติไทยคนแรกที่ได้เหรียญทองเอเชียนเกมส์ 2 สมัยติดต่อกัน และเป็นนักกีฬาเทควันโดคนที่ 6 ในประวัติศาสตร์เอเชียนเกมส์ที่ทำได้ (นับรวมทั้งชายและหญิง ในประเภทต่อสู้)

5. แมนฯ ซิตี้ ทีมแรกจากอังกฤษ คว้า 5 แชมป์ภายในปีเดียว (22 ธันวาคม)

ปี 2023 ถือเป็นปีทองของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ภายใต้การคุมทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา ยอดผู้จัดการทีมชาวสเปน หลังโกยความสำเร็จในฤดูกาล 2022-23 ด้วยการคว้าแชมป์ 3 รายการใหญ่มาครองได้อย่างยิ่งใหญ่ ทั้ง พรีเมียร์ลีก อังกฤษ, เอฟเอ คัพ และ ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ซึ่งเป็นแชมป์ยุโรปถ้วยใหญ่สมัยแรกของ "เรือใบสีฟ้า" นับตั้งแต่ก่อตั้งสโมสรมา 143 ปี

ไม่เพียงแต่จะทาบรัศมี แมนยูฯ คู่ปรับร่วมเมืองที่เคยได้ 3 แชมป์ในยุคของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เมื่อปี 1999 แล้ว แมนฯ ซิตี้ ยังสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น ด้วยการเป็นทีมแรกจากอังกฤษ ที่สามารถคว้าถ้วยแชมป์รายการใหญ่มาครองได้ถึง 5 ใบ ภายใน 1 ปีปฏิทิน หลังจากคว้าแชมป์ที่ 4 ในศึกยูฟ่า ซูเปอร์คัพ ด้วยการดวลจุดโทษชนะ เซบีญา แชมป์ยูโรปาลีก 5-4 หลังเสมอ 1-1 ในเวลา 90 นาที

จากนั้น เป๊ป กวาร์ดิโอลา ก็ยกทัพ แมนฯ ซิตี้ ไปคว้าแชมป์รายการที่ 5 ที่ซาอุดีอาระเบีย ด้วยการผงาดชูถ้วยสโมสรโลก ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 2023 หลังเอาชนะ อุราวะ เรด ไดมอนด์ส แชมป์เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก ต้นสังกัดของ เอกนิษฐ์ ปัญญา ดาวเตะทีมชาติไทย 3-0 ในรอบรองชนะเลิศ ก่อนถล่ม ฟลูมิเนนเซ แชมป์โคปา ลิเบอร์ตาดอเรส ตัวแทนจากอเมริกาใต้ ไปแบบเหนือชั้น 4-0 ในรอบชิงชนะเลิศ กลายเป็นตำนานที่ยากจะหาใครมาเทียบได้ในอนาคตอันใกล้นี้.