มะระหวาน
ยังไม่มีทีท่าว่าใครจะหยุดความร้อนแรงของ “ไก่เดือยทอง” ทอตแนม ฮอตสเปอร์ ได้เลยหลังจากล่าสุดก็บุกไปทุบ “ดิ อีเกิลส์” คริสตัล พาเลซ เพื่อนร่วมกรุงลอนดอนไป 2-1 ในเกมพรีเมียร์ลีกนัดล่าสุด ทำให้ตอนนี้มี 26 คะแนนจาก 10 นัด รั้งตำแหน่งจ่าฝูงต่อไปอย่างน้อยอีก 1 สัปดาห์แน่นอน
เรียกได้ว่าการเข้ามาของอังเก พอสเตโคกลู กุนซือชาวออสเตรเลียน ทำให้ “ไก่เดือยทอง” ที่กลายเป็น “ไก่หงอย” เมื่อฤดูกาลที่แล้ว ให้กลับมาเป็น “พญาไก่” ที่กลับมาดุดันอีกครั้งในฤดูกาลนี้ด้วยการใช้เวลาเพียงแค่ไม่ถึง 6 เดือนเท่านั้น
ซึ่งก็ต้องชื่นชมอังเกจริงๆว่ามีการเข้าใจและมีไอเดียใหม่ๆ เข้ามาปลุกสเปอร์สให้กลายเป็นทีมม้ามืดของลีกในฤดูกาลนี้
อย่างไรก็ตาม หากพูดถึงเรื่องสเปอร์สจะคว้าแชมป์ลีกในตอนนี้ก็ถือว่ายังคงเร็วไป เพราะการแข่งขันเพิ่งผ่าน 1 ใน 4 มาเท่านั้น หลังจากนี้ยังมีเกมหนักหนาสาหัสรอพิสูจน์ฝีเท้าของแข้ง “ไก่เดือยทอง”อยู่
นอกจากกุนซือที่เข้ามาปรับทีมแล้วยังมีอีกหนึ่งคีย์แมนสำคัญที่เข้ามาเปลี่ยนทีม “ไก่เดือยทอง” ไปโดยสิ้นเชิงนั่นก็คือเจมส์ แมดดิสัน เพลย์เมกเกอร์ทีมชาติอังกฤษ
แมดดิสันย้ายจากเลสเตอร์ ซิตี้ มาเล่นในถิ่น ทอตแนม ฮอตสเปอร์ สเตเดียม ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าตัวเข้ามาก็เลือกสวมเสื้อเบอร์ 10 ของตำนานสโมสรอย่างแฮร์รี เคน กองหน้าเพื่อนร่วมชาติที่ตัดสินใจย้ายไปเล่นให้กับบาเยิร์นมิวนิก
แมดดิสันก็ไม่ใช่นักเตะที่โนเนม ถือว่าเป็นหนึ่งในแข้งที่น่าจับตามองในพรีเมียร์ลีกคนหนึ่งเลยทีเดียว ตลอดที่ผ่านมาที่เขาอยู่กับ “จิ้งจอกสยาม” ก็ฉายแสงโดดเด่นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการสร้างสรรค์เกมหรือการจบสกอร์
ซีซันที่ผ่านมา เลสเตอร์โชว์ฟอร์มได้อย่างย่ำแย่ แต่ในความย่ำแย่ทางแมดดิสันก็สามารถยิงในลีกได้ถึง 10 ประตูด้วยกัน จึงไม่น่าแปลกใจแม้แต่น้อยที่หลังจาก “จิ้งจอกสยาม” ตกชั้นมีหลายทีมที่ให้ความสนใจในตัวของเขา
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้แมดดิสันย้ายมาเล่นให้กับสเปอร์สด้วยค่าตัว 40 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,752 ล้านบาท) หลายคนก็ยังสงสัยว่าเงินที่จ่ายไปให้กับ “จิ้งจอกสยาม” นั้นทางกองกลางวัย26ปีจะช่วยเข้ามายกระดับ “ไก่เดือยทอง” ได้มากแค่ไหน
แต่ตอนนี้หลังจากผ่านไปแล้ว 10 นัดในลีกเชื่อว่าคนที่ตั้งคำถามในตัวแมดดิสันว่าย้ายมาครั้งนี้จะคุ้มค่าตัวหรือไม่ บอกได้เลยว่า “ไก่เดือยทอง” คุ้มแบบสุดๆกับเงินที่เสียไป
เพราะการมาของแมดดิสันทำให้เกมรุกของ “ไก่เดือยทอง” มีมิติเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม หลังจากก่อนหน้านี้การเดินเกมรุกก็จะฝากเอาไว้ที่ซนเฮือง มิน หรือเดยัน คูลูเซฟสกี ที่พาลุยไปข้างหน้าอย่างเดียวเพื่อหวังทำประตู
แต่เมื่อเพลย์เมกเกอร์วัย 26 ปี เข้ามาก็ทำให้มีการสร้างสรรค์เกมจากแดนกลางมากขึ้น และเพื่อโอกาสให้บรรดาแนวรุกทั้งหลายวิ่งสอดส่องหาช่องเพื่อทำประตูได้มากขึ้น
นอกจากนั้นแมดดิสันยังมีทีเด็ดจ่ายบอลจากแนวลึกหรือคิลเลอร์พาสสวยๆให้เพื่อนร่วมทีมลุยเข้าไปจบสกอร์ได้ เท่านั้นยังไม่พอเจ้าตัวยังสามารถที่จะขยับไปเล่นฝั่งขวาได้อีกด้วย แถมเจ้าตัวยังมีทีเด็ดในการครอสบอลที่แม่นยำไม่แพ้ใครเช่นกัน
ซึ่งการออกบอลที่แม่นยำทำให้ความหลากหลายในเกมรุกที่สเปอร์สตามหามานานมีมากขึ้น จึงไม่น่าแปลกใจที่ในปีนี้ “ไก่เดือยทอง” ถึงยิงกระจุยและตอนนี้ซัดไป 22 ประตูด้วยกัน ส่วนแมดดิสันก็ยิงไปแล้ว 3 ประตูกับ 5 แอสซิสต์
เรียกได้ว่าการมาของแมดดิสันได้เข้ามาปลุกแนวรุกของ “ไก่เดือยทอง” ให้กลับมาดุดันและอันตรายอีกครั้ง
พอมองย้อนกลับไปเงิน 40 ล้านปอนด์ที่สเปอร์สจ่ายไปก่อนหน้านี้เรียกได้ว่าคุ้มแบบสุดๆ!!
มะระหวาน
คลิกอ่านคอลัมน์ “ตะลุยฟุตบอลโลก” เพิ่มเติม