หน้าแรกแกลเลอรี่

ต่ำกว่ามาตรฐาน

มะระหวาน

15 มี.ค. 2566 04:50 น.


เกมกีฬาฟุตบอลนอกจากผู้เล่นทั้ง 11 คนทั้งสองฝั่งคนที่สำคัญที่สุดในสนามไม่แพ้นักเตะก็คือกรรมการผู้ตัดสินในสนามพร้อมทั้งผู้ช่วยทั้งสองนั้นคือผู้กำกับเส้น แต่ตอนนี้ที่เพิ่มขึ้นมาก็คือทีมงานผู้ช่วยผู้ตัดสินด้วยการใช้วิดีโอ หรือที่เราเรียกสั้นๆว่า “วีเออาร์”

ก่อนหน้าที่จะมี “วีเออาร์” การตัดสินของกรรมการบางครั้งก็ถือว่าผิดพลาดกันได้เพราะบางจังหวะรวดเร็วเหลือเกินจนสายตาของคนธรรมดามองไม่เห็น จนทำให้เกิดหลายจังหวะที่ค่อนข้างเป็นปัญหา เช่น บอลเข้าไปแล้วบอกไม่เข้า หรือจังหวะปะทะกันรุนแรงแต่กรรมการไม่เห็น หรือแม้แต่การเล่นตุกติกต่างๆ

จังหวะที่เรียกได้ว่าแทบจะเป็นการตัดสินที่ผิดพลาดมากและสร้างผลกระทบที่สุดก็คือจังหวะ “แฮนด์ ออฟ ก้อด” ของ “เสือเตี้ย” ดิเอโก มาราโดนา ตำนานนักเตะกองหน้าทีมชาติอาร์เจนตินา ที่ทำให้ ทีมชาติอังกฤษตกรอบ 8 ทีมสุดท้ายในศึกฟุตบอลโลกปี 1986 ที่เม็กซิโก

ซึ่งจังหวะฉาวดังกล่าว มาราโดนา กัปตันทีมฟ้า-ขาว ดวลลูกกลางอากาศกับปีเตอร์ ชิลตัน ผู้รักษาประตูของทีมสิงโตคำราม แต่กลายเป็นว่า “เสือเตี้ย” ยืดมือชกบอลส่งบอลเข้าไปสู่ก้นตาข่ายได้สำเร็จ โดยผู้ตัดสินในเกมดังกล่าวมองไม่ทันและเป่าให้เป็นประตูขึ้นนำ 1-0 ก่อนจบเกม อาร์เจนตินาเอาชนะอังกฤษ ไปได้ 2-1 ก่อนสุดท้ายจะจบลงด้วยมาราโดนาพา “ฟ้า-ขาว” คว้าแชมป์ฟุตบอลโลกไปครอง

นอกจากนั้นก็ยังมีจังหวะลูกยิงเข้าของแฟรงค์ แลมพาร์ด กองกลางทีมชาติอังกฤษ ที่ยิงบอลชนคานบอลเด้งเข้าไปทั้งใบก่อนเด้งออกมา ในศึกฟุตบอลโลก 2010 ที่แอฟริกาใต้ ซึ่งหากลูกดังกล่าวเข้าไป อังกฤษจะตีเสมอ 2-2 และเชื่อว่าอังกฤษอาจจะไม่จบเกมด้วยการแพ้ “อินทรีเหล็ก” เยอรมนี ขาดลอย 1-4 แน่นอน

ทางสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติหรือ “ฟีฟ่า” ก็พยายามพัฒนาการตัดสินมากมายเพื่อที่จะให้ยุติธรรมที่สุดจนมาจบที่ “วีเออาร์” เพื่อที่จะย้อนดูจังหวะสำคัญๆเท่านั้นไม่ว่าจะเป็นในกรอบเขตโทษ, ลูกข้ามเส้นหรือไม่, จังหวะเกี่ยวข้องกับการทำประตู และจังหวะอันตรายในเกม เพื่อที่จะไม่ให้การหยุดเวลามากเกินควร

แต่สุดท้ายแม้จะใช้ “วีเออาร์” ก็ยังมีการตัดสินผิดพลาดอยู่หลายต่อหลายครั้งยกตัวอย่างในพรีเมียร์ลีก เกมที่อาร์เซนอลเสมอกับเบรนท์ฟอร์ด 1-1 ในจังหวะที่อิวาน โทนีย์ โหม่งให้ “ผึ้งพิฆาต” ตีเสมอ “ปืนใหญ่” นั้น คริสเตียน นอร์การ์ด เล่นบอลก่อนมาถึงโทนีย์ แต่ลี เมสัน ผู้ทำหน้าที่วีเออาร์ไม่ยอมตีเส้นตรงนอร์การ์ดซึ่งล้ำหน้า

จนทำให้เจ้าตัวต้องลาออกเพื่อรับผิดชอบทันทีเพราะมันทำให้ “ปืนใหญ่” เสียผลประโยชน์ อย่างมาก

นอกจากนั้นมีในจังหวะพิจารณาใบแดงเช่นกันหลายคนสงสัยว่ามาตรฐานอยู่ตรงไหน อย่างเช่นจังหวะที่ คาเซมิโร โดนใบแดงในเกมเสมอเซาแธมป์ตัน 0-0 จังหวะดังกล่าวกองกลางชาวแซมบ้าสไลด์โดนบอลเต็มๆ แต่จังหวะดังกล่าวมันแฉลบขึ้นมาทำให้ไปยันที่หน้าแข้งของผู้เล่นคริสตัล พาเลซ จนกรรมการไปดู “วีเออาร์” ก่อนกลับมาให้ใบแดง

ทั้งๆที่จังหวะนี้มันก็เห็นอยู่ว่าไม่ได้ตั้งใจทำร้ายคู่ต่อสู้ แต่สุดท้ายมันอยู่ที่การตัดสินใจของผู้ตัดสิน

หากย้อนกลับไปในวันเสาร์คู่ระหว่างเลสเตอร์ กับเชลซี มีจังหวะที่ผู้เล่นเลสเตอร์สกัดบอลแล้วค้างแป๊บนึงเท้ายันเข้าไปที่ท้องของไค ฮาเวิร์ตซ์ เต็มๆ จนมีรอยสตั๊ดกลับรอดเฉย

ในเกมเดียวกัน ชูเอา เฟลิกซ์ ก็โดนผู้เล่นเลสเตอร์ยันที่หน้าแข้งแบบเต็มๆ ไม่โดนบอลเลยแม้แต่นิดเดียว ผู้เล่น “จิ้งจอกสยาม” ก็ไม่โดนแดง แต่กับจังหวะของคาเซมิโรกลับให้ใบแดง

จะไม่ให้แฟนบอลบ่นกันได้อย่างไรว่าการเป่าของผู้ตัดสินพรีเมียร์ลีกในซีซันนี้ดูต่ำกว่ามาตรฐานไปเยอะ ผิดพลาดเยอะมากๆ ทั้งๆที่มี “วีเออาร์” ดูแท้ๆ

เชื่อว่าจบซีซันนี้องค์กรผู้ตัดสินอาชีพของอังกฤษคงต้องสังคายนากรรมการกันชุดใหญ่เพราะหากยังมีปัญหาเดิมซ้ำๆ มันก็จะทำให้เกมที่สนุกกลายเป็นน่าเบื่อได้ในบัดดล!!

มะระหวาน