หน้าแรกแกลเลอรี่

บ๊วยหวานเจี๊ยบ "อาร์เซนอล" ขยี้ "ฟอเรสต์" เละเทะ ทวงจ่าฝูงพรีเมียร์ลีกสำเร็จ

ไทยรัฐออนไลน์

30 ต.ค. 2565 22:51 น.

"บ๊วยไม่ติดคอ" อาร์เซนอล ระเบิดฟอร์มอำมหิต ไล่ถล่ม ฟอเรสต์ แบบไม่ปรานี ทวงคืนจ่าฝูงพรีเมียร์ลีกจาก แมนฯ ซิตี้ ได้สำเร็จ

วันที่ 30 ตุลาคม 2565 ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2022-23 คู่แรกของวันนี้ อาร์เซนอล ที่มี 28 คะแนน และเพิ่งถูก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เบียดตกลงมาอยู่อันดับ 2 ชั่วคราว เปิดบ้านต้อนรับ นอตติงแฮม ฟอเรสต์ อันดับสุดท้ายที่มี 9 แต้ม

ด้าน อาร์เซนอล ยังใช้ 11 ตัวจริงชุดเดิมจากเกมที่แล้วในลีก ซึ่งบุกไปเสมอ เซาแธมป์ตัน 1-1 เมื่อสัปดาห์ก่อน นำโดย กรานิต ชากา, มาร์ติน โอเดการ์ด, บูกาโย ซากา, กาเบรียล มาร์ติเนลลี และ กาเบรียล เชซุส ขณะที่ ฟอเรสต์ ของกุนซือ สตีฟ คูเปอร์ ก็เปลี่ยนแค่ 1 ตำแหน่งจากเกมที่พลิกล็อกชนะ ลิเวอร์พูล 1-0 โดยให้ เรนาน โลดี ยืนแบ็กซ้ายแทน เนโก วิลเลียมส์ ส่วน 3 แนวรุกใช้ มอร์แกน กิบบ์ส-ไวท์, เจสซี ลินการ์ด และ ไตโว อโวนิยี ผู้ทำประตูปราบ "หงส์แดง"

เริ่มเกมเพียง 5 นาที "ปืนใหญ่" ขึ้นนำอย่างรวดเร็ว 1-0 จากจังหวะที่ กาเบรียล มาร์ติเนลลี ถ่ายบอลออกด้านขวาให้ บูกาโย ซากา ก่อนเปิดกลับไปให้ มาร์ติเนลลี โฉบโหม่งตัดหน้ากองหลัง "เจ้าป่า" เข้าประตูไป

จังหวะนี้ นักเตะอาร์เซนอล ก็มาฉลองประตูขึ้นนำของ กาเบรียล มาร์ติเนลลี ด้วยการชูเสื้อให้กำลังใจ ปาโบล มารี กองหลังที่ถูก มอนซา ยืมตัวไปเล่นใน กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี และเพิ่งถูกคนร้ายที่มีอาการป่วยทางจิตใช้มีดแทงจนได้รับบาดเจ็บ ระหว่างไปเดินซุปเปอร์มาร์เก็ตกับครอบครัวที่เมืองมิลาน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา แต่ล่าสุดพ้นขีดอันตรายแล้ว

กาเบรียล มาร์ติเนลลี ฉลองประตู 1-0 ของ อาร์เซนอล ด้วยการชูเสื้อให้กำลังใจ ปาโบล มารี ที่เพิ่งรอดตายจากการถูกมีดแทงที่อิตาลี
กาเบรียล มาร์ติเนลลี ฉลองประตู 1-0 ของ อาร์เซนอล ด้วยการชูเสื้อให้กำลังใจ ปาโบล มารี ที่เพิ่งรอดตายจากการถูกมีดแทงที่อิตาลี

นาทีที่ 19 "ปืนใหญ่" ยังเล่นเกมรุกได้อย่างดุดัน และเกือบได้ประตูที่ 2 ด้วย จากจังหวะเติมขึ้นมาของ กรานิต ชากา ถึงเส้นหลังแล้วจ่ายย้อนกลับมาให้ กาเบรียล มาร์ติเนลลี ยิงเล่นทาง แต่ยังถูก เรนาน โลดี สกัดคาบเส้นได้อย่างหวุดหวิด

นาทีที่ 27 อาร์เซนอล ได้รับข่าวร้าย เมื่อ บูกาโย ซากา ปีกตัวเก่งมีอาการบาดเจ็บจนเล่นต่อไม่ไหว ทำให้ มิเกล อาร์เตตา ต้องเปลี่ยน รีสส์ เนลสัน ลงมาเล่นแทน แม้ช่วงท้ายครึ่งแรก ฟอเรสต์ จะบุกกระหน่ำ แต่ยังเจาะไม่เข้า จบครึ่งแรก "ปืนใหญ่" ยังนำ 1-0

ครึ่งหลัง นาทีที่ 49 อาร์เซนอล อาศัยการเปลี่ยนเกมเร็วจากรับเป็นรุกเล่นงาน ฟอเรสต์ บอลมาถึง กรานิต ชากา ในเขตโทษ จ่ายย้อนมาให้ กาเบรียล เชซุส ป้ายต่อไปทางขวา รีสส์ เนลสัน หลอกหนึ่งจังหวะแล้วยิงติดเซฟ ดีน เฮนเดอร์สัน แต่ยังตามมาซ้ำเข้าไปไม่พลาด เจ้าถิ่นหนีห่าง 2-0

นาทีที่ 52 "ปืนใหญ่" นำไกลเป็น 3-0 จากการต่อบอลในพื้นที่แคบๆ ในเขตโทษ ก่อนที่ กาเบรียล เชซุส จะจ่ายเข้าช่องให้ รีสส์ เนลสัน โฉบตัดหน้ากองหลังแล้วแปจ่อๆ เข้าไป

เกมรุกของ อาร์เซนอล ยิ่งเล่นยิ่งไหลลื่น นาทีที่ 57 และ รีสส์ เนลสัน ก็ยังมีส่วนร่วมอีกครั้ง คราวนี้ไหลคืนมาให้ โธมัส ปาร์เตย์ วิ่งเข้ามาซัดเน้นๆ บอลพุ่งเสียบตาข่ายเข้าไปอย่างเด็ดขาด เจ้าถิ่นฉีกหนีกระจุยเป็น 4-0

เท่านั้นไม่พอ นาทีที่ 78 กาเบรียล เชซุส บังบอลแล้วไหลให้ มาร์ติน โอเดการ์ด แต่งหาช่องแล้วซัดแสกหน้า ดีน เฮนเดอร์สัน เข้าไปอีก ปิดท้ายให้ อาร์เซนอล ชนะไปแบบขาดลอย 5-0 เก็บเพิ่มเป็น 31 คะแนน แซงกลับขึ้นไปเป็นจ่าฝูงอีกครั้ง นำ แมนฯ ซิตี้ 2 แต้มต่อไป ส่วน ฟอเรสต์ ยังมีแค่ 9 คะแนนเท่าเดิม รั้งอันดับสุดท้าย

รายชื่อ 11 ตัวจริงทั้ง 2 ทีม

อาร์เซนอล (ระบบ 4-2-3-1) : อารอน แรมส์เดล (ผู้รักษาประตู), เบน ไวท์, วิลเลียม ซาลิบา, กาเบรียล มากัลไญส์, ทาเคฮิโระ โทมิยาสึ, โธมัส ปาร์เตย์, กรานิต ชากา, บูกาโย ซากา, มาร์ติน โอเดการ์ด (กัปตันทีม), กาเบรียล มาร์ติเนลลี, กาเบรียล เชซุส

นอตติงแฮม ฟอเรสต์ (ระบบ 4-3-3) : ดีน เฮนเดอร์สัน (ผู้รักษาประตู), แซร์จ ออริเยร์, สตีฟ คุก, สกอตต์ แม็คเคนนา, เรนาน โลดี, ไรอัน เยตส์ (กัปตันทีม), เรโม ฟรอยเลอร์, ชีคู คูยาเต, มอร์แกน กิบบ์ส-ไวท์, ไตโว อโวนิยี, เจสซี ลินการ์ด