พรีเมียร์ลีกระอุ “เรือใบ” ไม่หยุด บิ๊กเนมจัดหนัก

เหลืออีกเพียงแค่ไม่ถึง 2 สัปดาห์ศึกลูกหนังพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่ชั่วโมงนี้เรียกได้ว่าเป็นลีกที่แข็งแกร่งที่สุดในยุโรป ก็จะเปิดฉากขึ้นแล้วในสัปดาห์แรกของเดือนสิงหาคม หรือระหว่างวันที่ 5–7 ส.ค.นี้

โดยโปรแกรมการแข่งขันในสัปดาห์แรกมีดังนี้ วันที่ 5 ส.ค. เวลา 02.00 น. คริสตัล พาเลซ พบ อาร์เซนอล, วันที่ 6 ส.ค. เวลา 18.30 น. ฟูแลม พบ ลิเวอร์พูล, เวลา 21.00 น. บอร์นมัธ พบ แอสตัน วิลล่า, ลีดส์ พบ วูล์ฟแฮมป์ตัน, เลสเตอร์ ซิตี้ พบ เบรนท์ฟอร์ด, นิวคาสเซิล พบ นอตติงแฮม ฟอเรสต์, เวลา 21.00 น. สเปอร์ส พบ เซาแธมป์ตัน, เวลา 23.30 น. เอฟเวอร์ตัน พบ เชลซี, วันที่ 8 ส.ค. เวลา 20.00 น. แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พบ ไบรท์ตัน, เวลา 22.30 น. เวสต์แฮม พบ แมนเชสเตอร์ ซิตี้

ซึ่งในฤดูกาลที่แล้ว แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เฉือนเอาชนะลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ไปครองเพียงแค่แต้มเดียวเท่านั้น แถมตลอดทั้งซีซันยังบี้กันมันหยดเลยทีเดียวทำให้ในฤดูกาลนี้ทั้งสองทีมก็ยังกลายเป็นตัวเต็งที่จะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกมาครองเหมือนเดิม!!

ซีซันที่แล้วทั้ง “เรือใบสีฟ้า” และ “หงส์แดง” ต่างโชว์ความเหนือชั้นคือทำคะแนนทิ้งห่างอันดับ 3 อย่างเชลซี มากถึง 19 และ 18 คะแนนตามลำดับด้วยกัน

ทำเอาเป็นโจทย์ยากของบรรดาผู้ท้าชิงรายอื่นๆ ที่จะย่นระยะช่องว่างของคะแนนลงจนก้าวมาเป็นผู้ท้าชิงแชมป์กับ แมนฯ ซิตี้ หรือ ลิเวอร์พูล ให้ได้

และหนึ่งในการแก้ปัญหาเรื่องดังกล่าวก็คือการดึงนักเตะเข้ามาเสริมทัพเพื่อให้ทีมแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการดึงนักเตะจากทีมพรีเมียร์ลีกด้วยกันเอง หรือจะดึงตัวนักเตะจากทีมแกร่งต่างๆ ทั่วทั้งยุโรปหรือทั้งโลก เข้ามาร่วมทีมเพื่อไปให้ถึงเป้าที่วางไว้

ทำให้ในฤดูกาลนี้ตลาดซื้อขายของพรีเมียร์ลีกนั้นสั่นสะเทือนเต็มไปด้วยนักเตะชื่อดังที่เข้ามาเสริมแกร่งให้กับทีมต่างๆ แม้ว่าตลาดซื้อขายนักเตะยังไม่ปิดตัวลงแต่พรีเมียร์ลีกก็ยังคงครองเจ้าแห่งการช็อปปิ้งเหมือนหลายๆปีที่ผ่านมา

เริ่มจาก แมนฯ ซิตี้ แชมป์เก่าปีนี้เสริมทัพไม่มากได้มาแค่ 3 ราย แต่ 2 ใน 3 รายคือนักเตะที่เข้ามาลบจุดบอดของทีมไม่มีซื้อเข้ามาแล้วเอาไว้กองข้างสนามแบบที่ผ่านๆมาแล้ว

เป๊ป กวาร์ดิโอลา กุนซือชาวกระทิงได้นักเตะในตำแหน่งที่เขาต้องการมากที่สุดนั้นก็คือกองหน้าตัวเป้า ซึ่งก็ได้กองหน้าเกรดเออย่าง เออร์ลิง ฮาแลนด์ ไอ้หนูตีนระเบิดทีมชาตินอร์เวย์เข้ามาปักหลักคอยสอยตาข่าย

ปกติแล้ว “เรือใบสีฟ้า” ก็ยังดุอยู่แล้วขนาดปีที่แล้วไม่มีหน้าเป้ายังยิงได้ถึง 99 ลูกเลยทีเดียว ซีซันนี้มี ฮาแลนด์ สกอร์น่าจะกระจายแน่นอน

อีกหนึ่งตำแหน่งที่เข้ามาพอเหมาะพอเจาะก็คือ คัลวิน ฟิลลิปส์ กองกลางตัวตัดเกมทีมชาติอังกฤษ ที่เข้ามาแทนที่ของ แฟร์นันดินโญ ที่หมดสัญญากับทีม ถือว่าเป็นการทดแทนกันได้อย่างยอดเยี่ยม

ดูจากรายชื่อที่ แมนฯ ซิตี้ เสริมทัพแล้วเหนื่อยใจแทนทีมผู้ท้าชิงจริงๆ

ส่วนอีกหนึ่งตัวเต็งที่ชั่วโมงนี้ใกล้เคียงกับ แมนฯ ซิตี้ ที่สุดก็คือ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล แม้ว่าจะเสีย ซาดิโอ มาเน ปีกทีมชาติเซเนกัล ไปให้กับ บาเยิร์น มิวนิก แต่ เจอร์เกน คลอปป์ นายใหญ่ชาวเยอรมันก็ได้ความหวังใหม่อย่าง ดาร์วิน นูนเญซ กองหน้าทีมชาติอุรุกวัยเข้ามาเสริมทัพด้วยค่าตัวรวมสูงถึง 86 ล้านปอนด์ (ประมาณ 3,770 ล้านบาท)

ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งกองหน้าที่น่าจับตามองสุดๆ และล่าสุด นูนเญซ ก็แสดงให้เห็นว่าเงินที่ “หงส์แดง” จ่ายไปทุกบาททุกสตางค์จะคุ้มค่าแน่นอน เพราะในเกมอุ่นเครื่องนัดล่าสุดกดคนเดียว 4 ตุง พา “หงส์แดง” ถล่ม ไลป์ซิก ไปขาดลอย 5-0

ส่วนอีกคนที่น่าจับตามองก็คือ ฟาบิโอ คาร์วัลโญ ปีกดาวรุ่งชาวโปรตุกีสที่ “หงส์แดง” ดึงมาจาก ฟูแลม ที่ในเกมอุ่นเครื่องนั้นลีลากระชากใจไม่แพ้ นูนเญซ เช่นกัน

เมื่อนูนเญซมาผนึกกำลังกับ โมฮัมเหม็ด ซาลาห์, หลุยส์ ดิอาซ ในแนวรุก ไหนจะมีดิโอโก โชตา และโรแบร์โต ฟีร์มิโน ที่พร้อมเปลี่ยนมาลั่นสกอร์อีก บอกตรงๆ แมนฯ ซิตี้ ก็ แมนฯ ซิตี้ เถอะหากพลาดเมื่อไรบัลลังก์สั่นสะเทือนแน่

ด้าน “สิงห์บลู” เชลซี ทีมอันดับ 3 บนตารางในซีซันที่แล้วแม้ว่าจะติดปัญหาเรื่องการเทกโอเวอร์สโมสรนิดหน่อย แต่ก็พยายามเร่งเครื่องเสริมทัพยกใหญ่ล่าสุดเพิ่งคว้าตัวราฮีม สเตอร์ลิง ปีกทีมชาติอังกฤษ และคาลิดู คูลิบาลี ปราการหลังทีมชาติเซเนกัล มาเสริมทัพ

ทำให้ตอนนี้เชลซีในมือของโธมัส ทูเคิลนายใหญ่เลือดเบียร์ก็แข็งแกร่งไม่แพ้กัน น่าจะพอขยับขึ้นมาไล่บี้ทั้งสองทีมเต็งได้แน่

แต่ที่น่าสนใจและอาจจะเป็นม้ามือในการลุ้นแชมป์ก็คือ “เดอะ กันเนอร์ส” อาร์เซนอล ที่เสริมทัพหลายรายแต่ก็เป็นคนที่เข้ามาอุดรอยโหว่ของทีมได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะการได้กาเบรียล เชซุส กับฟาบิโอ วิเอรา มาทำให้แนวรุกของ “ไอ้ปืนใหญ่” กลับมายิงกระจุยแน่นอน

ส่วน “ไก่เดือยทอง” ทอตแนม ฮอตสเปอร์ ที่พุ่งแหวกขึ้นมาจบท็อปโฟร์ในท้ายฤดูกาลที่แล้วก็เสริมหลายตัวเช่นกันแต่ไฮไลต์ก็คือการได้ตัวของ อีวาน เปริซิช กองกลางจอมเก๋าชาวโครแอต และ ริชาร์ลิสัน กองหน้าทีมชาติบราซิลมาร่วมทีม

การได้ เปริซิช มาทำให้แผงมิดฟิลด์จะมีความเก๋าในการเดินเกมและควบคุมเกมให้มันดูไหลลื่นมากขึ้น ขณะที่ ริชาร์ลิสัน ก็ทำให้เกมรุกดุดันมากขึ้นลองนึกภาพว่า แฮร์รี เคน, ซน เฮือง มิน และ ริชาร์ลิสัน เล่นด้วยกัน เรียกได้ว่าเป็นฝันร้ายของบรรดาแนวรับในพรีเมียร์ลีกเลย

ปิดท้ายกันที่ แมนฯ ยูไนเต็ด แม้ว่าจะยังไม่หวือหวาเพราะได้แค่ ไทเรลล์ มาลาเซีย แบ็กซ้าย และ คริสเตียน อีริคเซน กองกลางจอมเก๋าชาวเดนมาร์ก มาร่วมก๊วน แต่การเปลี่ยนเทรนเนอร์มาเป็น เอริค เทน ฮาก กุนซือใหม่ชาวดัตช์ทำให้ “ปิศาจแดง” ดีขึ้นเยอะดูได้จากฟอร์มในปรีซีซันที่เอาชนะมาได้ 3 นัดรวด แถมยังยิงได้ถึง 11 เม็ดด้วยกัน

เมื่อเห็นรายชื่อของแต่ละทีมที่เสริมทัพแล้ว บอกได้เลยว่าการแย่งแชมป์พรีเมียร์ลีกในซีซันนี้มันจะร้อนระอุและดุเดือดมากกว่าปีไหนๆแน่นอน!!

ชานนท์ กล่ำดิษฐ์ เรื่อง...