“รังนิก” ยอมรับ หลังแมนยูฯ ขาด “กรีนวูด” ทำให้ภาระส่วนใหญ่ตกไปอยู่ที่คนคนเดียว

“ราล์ฟ รังนิก” ยอมรับ หลังจากแมนยูฯ หมดสิทธิ์ใช้งาน “กรีนวูด” ที่โดนคดีร้ายแรง ทำให้ภาระส่วนใหญ่ตกไปอยู่ที่คนคนเดียว

วันที่ 3 พ.ค. 65 ควันหลงฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดมันเดย์ไนต์ ซึ่ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านชนะ เบรนท์ฟอร์ด 3-0 ทำให้ "ปิศาจแดง" เก็บเพิ่มเป็น 58 คะแนน รั้งอันดับ 6 ลดช่องว่างที่ตามหลัง อาร์เซนอล อันดับ 4 เหลือ 5 แต้ม ส่วน "เดอะ บีส์" มี 40 คะแนน อยู่อันดับ 14 ตามเดิม

หลังจบการแข่งขัน ราล์ฟ รังนิก กุนซือชั่วคราวแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยอมรับว่า ในช่วงซัมเมอร์ ทีมต้องเซ็นสัญญากับกองหน้าอย่างน้อย 2 คนหลังจากทีมสั่งพักงาน เมสัน กรีนวูด กองหน้าวัย 20 ที่โดนคดีร้ายแรง คือ ข่มขืน และ ทำร้ายร่างกายแฟนสาว แฮร์เรียต ร็อบสัน จนเป็นข่าวไปทั่วโลก เพื่อให้แมนยูฯ สามารถแข่งขันกับทีมชั้นนำอื่นๆ ในพรีเมียร์ลีกได้

นับตั้งแต่ทีมไม่มี กรีนวูด ความหวังในการทำประตูส่วนใหญ่จึงตกเป็นของ คริสเตียโน โรนัลโด ดาวยิงชาวโปรตุเกส วัย 37 ปี เนื่องจากเอดินสัน คาวานี และมาร์คัส แรชฟอร์ด 2 กองหน้าของทีมยังไม่สามารถเค้นฟอร์มเก่งออกมาได้ ด้วยเหตุผลนี้ทำให้ รังนิก คิดว่าควรเซ็นสัญญากับกองหน้าเพิ่ม เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระของโรนัลโด

ราล์ฟ รังนิก กุนซือชั่วคราวแมนยูฯ เปิดเผยว่า “เราต้องเซ็นสัญญากับกองหน้าอย่างน้อย 2 คน เพื่อให้ทีมมีคุณภาพมากขึ้น ดูอย่างลิเวอร์พูลกับแมนฯ ซิตี้ พวกเขามีกองหน้า 5 หรือ 6 คน ส่วนทีมแมนยูฯ เรามีไม่มากนัก เมสัน กรีนวูด ก็เคยเป็นหนึ่งในกองหน้าของเรา แต่หลังจากเกมกับเวสต์แฮม เขาก็ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของทีมอีกเลย”