หวังเตือนสติเด็กๆ "เกรียนโอ้" อดีตแข้งแมนฯ ซิตี้ แย้มเป้าหมายชีวิตหลังแขวนสตั๊ด

มาริโอ บาโลเตลลี แย้มถึงอนาคตหากต้องเลิกเล่นฟุตบอล จะผันตัวไปทำอาชีพที่ใช้ประสบการณ์สอนเด็กๆ ไม่ให้เดินทางผิด

วันที่ 22 มี.ค. 65 “เกรียนโอ้” มาริโอ บาโลเตลลี กองหน้าชาวอิตาเลียน วัย 31 ปี เผยว่า หลังจากเลิกเล่นฟุตบอลอาชีพ เขาจะผันตัวมาเป็นนักข่าว คอยให้คำแนะนำแก่เยาวชนเพื่อป้องกันไม่ให้พวกเขาเหล่านั้นเดินทางผิดในช่วงเริ่มต้นอาชีพของพวกเขา

ทั้งนี้ มาริโอ บาโลเตลลี เป็นนักฟุตบอลที่ได้ชื่อว่ายียวนกวนประสาท และอินดี้แบบสุดๆ เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในฐานะดาวรุ่งและดาวร่วง เนื่องจากมีพฤติกรรมทะเลาะกับโค้ชจนโดนขายทิ้ง ปาลูกดอกใส่เด็กและเยาวชนหลังโดนดร็อปเป็นตัวสำรอง นอกจากนี้เขายังมีพฤติกรรมสร้างปัญหานอกสนามอื่นๆ เช่น เอาถังดับเพลิงไปฉีดใส่ผู้หญิง โดนตำรวจเรียกหลังขับรถวนดู “คุกสตรี” ในอิตาลี, ใช้สเปรย์ฉีดจุดไฟในห้องพัก, จุดพลุเล่นจนเกือบไฟไหม้บ้าน

อย่างไรก็ตาม บาโลเตลลี เผยว่า "หลังจากเลิกเล่นฟุตบอลอาชีพ คงจะดีถ้าผมค้นพบความสามารถใหม่ๆ ผมอยากเข้าไปพูดคุยกับพวกเขาแล้วเล่าประสบการณ์ในชีวิตผม บอกว่าอะไรผิด อะไรถูก คอยตักเตือนพวกเขาเกี่ยวกับความอยากรู้อยากลองในช่วงวัยรุ่น ผมคิดว่าถ้าผมผันตัวไปป็นนักข่าว จะสามารถช่วยพวกเขาได้มากเลยทีเดียว"

“ผมมีความสุขกับสิ่งที่ฉันทำในระดับสโมสร ผมชนะมาทุกอย่างแล้ว แต่ผมพลาดอะไรบางอย่างในระดับทีมชาติ และนั่นเป็นสิ่งเดียวที่ผมเสียใจจริงๆ หวังว่าจะยังไม่สายเกินไป”

“ตอนมีชื่อติดทีมชาติผมตื่นเต้นมาก เพราะว่าผมไม่ได้คาดหวัง การติดทีมชาติมันเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเล่นฟุตบอลอาชีพของผม และผลงานในนามทีมชาติอิตาลีที่ผมภูมิใจที่สุด คือ การเข้ารอบชิงชนะเลิศ ยูโร 2012 อย่างไม่ต้องสงสัย”

สำหรับ มาริโอ บาโลเตลลี ปัจจุบันค้าแข้งอยู่กับ อดานา เดมีร์สปอร์ ในลีกสูงสุดของตุรกี เคยคว้าแชมป์กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี 3 สมัย และ ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก 1 สมัย กับ อินเตอร์ มิลาน ก่อนจะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ และ เอฟเอ คัพ กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้

นอกจากนี้ “เกรียนโอ้” เพิ่งกลับมาติดทีมชาติอิตาลีเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนกันยายน ปี 2018 หรือในรอบ 3 ปี 8 เดือน หลังจากฤดูกาลนี้กลับมาโชว์ฟอร์มเข้าตาอีกครั้งด้วยการทำ 9 ประตูจาก 21 นัดในทุกรายการให้กับ อดานา เดมีร์สปอร์

ผลงานในนามทีมชาติอิตาลี เขาติดธงไปแล้ว 36 นัด ยิงไป 14 ประตู ผลงานที่ดีที่สุดคือพาทีมเข้ารอบชิงชนะเลิศ ศึกยูโร 2012 ก่อนแพ้ สเปน 0-4 ได้เพียงรองแชมป์ แต่หลังจบฟุตบอลโลก 2014 รอบสุดท้ายที่บราซิล เขาก็มีโอกาสรับใช้ทีมชาติเพียง 3 ครั้งเท่านั้น