ไทยรัฐออนไลน์
เปิด 7 รายชื่อมหาเศรษฐีที่เข้าคิวเทกโอเวอร์ เชลซี ทีมดังพรีเมียร์ลีก อังกฤษ จาก โรมัน อบราโมวิช ที่ถูกรัฐบาลอังกฤษคว่ำบาตร
วันที่ 18 มี.ค. 65 หลังจาก "เสี่ยหมี" โรมัน อบราโมวิช มหาเศรษฐีชาวรัสเซีย เจ้าของทีม “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ใกล้ชิดสนิทสนมกับ “วลาดิเมียร์ ปูติน” ประธานาธิบดีรัสเซีย ที่สั่งกองทัพทหารบุกโจมตียูเครนอย่างหนัก เพื่อลดผลกระทบที่เกิดขึ้นกับ เชลซี ทำให้ อบราโมวิช ประกาศขายทีมเมื่อช่วงต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยผู้สนใจสามารถส่งเอกสารเพื่อยื่นข้อเสนอได้จนถึงวันนี้ 21.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น (04.00 น. ของวันที่ 19 มี.ค. 65 เวลาประเทศไทย)
ล่าสุด สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า อบราโมวิช ที่ซื้อสโมสรนี้เมื่อปี 2003 ด้วยเงินประมาณ 140 ล้านปอนด์ (6,300 ล้านบาท) ได้ตั้งราคาขาย "สิงโตน้ำเงินคราม" เอาไว้ 3,000 ล้านปอนด์ (ประมาณ 135,000 ล้านบาท) หลังจากประสบความสำเร็จคว้าถ้วยแชมป์ถึง 21 ใบ ตลอดระยะเวลา 19 ปีที่ผ่านมา โดยมีชื่อของนายทุน 7 คนที่น่าสนใจได้แสดงตัวยื่นข้อเสนอเข้ามาเทกโอเวอร์ต่อจาก "เสี่ยหมี" ดังนี้
เปิด 7 รายชื่อมหาเศรษฐีที่เตรียมเทกโอเวอร์ เชลซี ต่อจาก โรมัน อบราโมวิช
1. ท็อดด์ โบห์ลี
มหาเศรษฐีชาวสหรัฐอเมริกาวัย 46 ปี ดำรงตำแหน่งประธาน และซีอีโอ "เอลดริดจ์ อินดัสตรี" บริษัทโฮลดิง ที่เคยขอซื้อ เชลซี เมื่อปี 2019 แต่ถูก อบราโมวิช ปฏิเสธข้อเสนอนี้ไป โดยเขาได้ลงทุนด้านต่างๆ อาทิ อสังหาริมทรัพย์, เทคโนโลยี, กีฬาโดยเฉพาะที่มหานครลอสแอนเจลิส เช่น แอลเอ เลเกอร์ส (บาสเกตบอล), แอลเอ ด็อดเจอร์ส (เบสบอล) และ แอลเอ สปาร์คส (บาสเกตบอลหญิง) นอกจากนี้เขายังเป็นสมาชิกทีมมวยปล้ำ ระดับแชมป์ของมลรัฐ เมื่อปี 1990 และ 1991 อีกด้วย
2. นิค แคนดี
มหาเศรษฐีชาวอังกฤษ นักธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ในสหราชอาณาจักร ได้พยายามยื่นข้อเสนอที่ถูกกว่าสิ่งที่ โรมัน อบราโมวิช ตั้งเอาไว้ที่ 2.5 พันล้านปอนด์ หรือราวๆ 1.08 แสนล้านบาท เพราะอยากจะเก็บอีก 500 ล้านปอนด์ ที่ต้องจ่ายให้ "เสี่ยหมี" นำเงินส่วนนี้ไปบำรุงปรับปรุงสนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ รังเหย้าของสโมสรให้ดีขึ้นกว่าเดิม
3. เคน กริฟฟิน และ ครอบครัวริกเก็ตส์
ผู้ก่อตั้ง Citadel กองทุนป้องกันความเสี่ยงข้ามชาติและบริษัทให้บริการทางการเงินสัญชาติอเมริกัน ได้ร่วมมือกันเพื่อซื้อกิจการเชลซี ซึ่งครอบครัวริกเก็ตส์ เป็นเจ้าของทีมเบสบอลของอเมริกันที่มีชื่อว่า ชิคาโก คับส์ หากพวกเขาทำสำเร็จ พวกเขาจะเข้าร่วมกับเจ้าของชาวอเมริกันคนอื่นๆ ในพรีเมียร์ลีก รวมถึงครอบครัว สแตน โครเอนเก นักธุรกิจมหาเศรษฐีชาวอเมริกันประธานสโมสรอาร์เซนอล
4. มาร์ติน บรอจตัน
อดีตประธานสโมสรลิเวอร์พูล ได้ร่วมมือกับ ลอร์ด เซบาสเตียน โค อดีตผู้อำนวยการโอลิมปิกลอนดอน 2012 ที่เป็นแฟนตัวยงของเชลซี ด้วยเงินทุนจากผู้สนับสนุนในสหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา
5. จอช แฮร์ริส
มหาเศรษฐีชาวอเมริกัน เป็นผู้ร่วมก่อตั้ง Apollo Global Management Inc. ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 7.6 พันล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 2.5 ล้านล้านบาท แต่เขายังคงไม่ตัดสินใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ นอกจากนี้เขายังถือครองหุ้นอยู่ใน เอ็นบีเอ, เอ็นเอชแอล และสโมสร คริสตัล พาเลซ ใน พรีเมียร์ลีก ซึ่งเขาอาจจะต้องยกเลิกการถือครองนั้นเพื่อเสนอราคาให้เชลซี
6. Oaktree Capital
บริษัทจัดการสินทรัพย์ของสหรัฐฯ ที่บริหารงานโดย ฮาวเวิร์ด มาร์ค กำลังวางแผนที่จะยื่นเสนอราคา รุกเข้าสู่วงการฟุตบอล โดยก่อนหน้านี้เขาได้จัดหาเงินกู้ให้กับบริษัทในลักเซมเบิร์กซึ่งเป็นธุรกิจค้าปลีกแนวหน้าของจีนที่มีชื่อว่า ซูหนิง กรุ๊ป เจ้าของสโมสรอินเตอร์ มิลาน
7. วูดดี จอห์นสัน
เจ้าของทีม นิวยอร์ก เจ็ตส์ ในศึกอเมริกันฟุตบอล เอ็นเอฟแอล ซึ่งเป็นหนึ่งในคนสนิทของ โดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา ได้ยื่นข้อเสนอเข้าซื้อสโมสรเชลซีแล้ว โดยจอห์นสัน วัย 74 ปีเป็นทายาทของธุรกิจด้านสินค้าอุปโภคบริโภคของจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน เขาเป็นเจ้าของเจ็ตส์ตั้งแต่ปี 2000