ไทยรัฐออนไลน์
กุนซือแมนฯ ซิตี้ และเอฟเวอร์ตัน ขอบคุณแฟนบอลที่ส่งกำลังใจและยืนเคียงข้าง 2 ลูกทีมชาวยูเครน หลังโดนรัสเซียโจมตีบ้านเกิด
วันที่ 27 ก.พ. 65 ควันหลงฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ซึ่ง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บุกไปเฉือนชนะ เอฟเวอร์ตัน 1-0 ทำให้ "เรือใบสีฟ้า" ยังรั้งจ่าฝูง เก็บเพิ่มเป็น 66 คะแนน หนี ลิเวอร์พูล อันดับ 2 เพิ่มเป็น 6 แต้ม แต่แข่งมากกว่า 1 นัด เนื่องจาก "หงส์แดง" มีคิวลงเตะกับ เชลซี ในศึกคาราบาว คัพ (ลีกคัพ) รอบชิงชนะเลิศ คืนนี้ ส่วน "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" มี 22 คะแนน รั้งอันดับ 17 ห่างจากโซนตกชั้นแค่แต้มเดียว
ก่อนเกมนี้จะเริ่มขึ้น 2 นักเตะทีมชาติยูเครนอย่าง โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก ตัวริมเส้นฝั่งซ้ายของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ วิตาลี ไมโคเลนโก แบ็กซ้ายเอฟเวอร์ตัน ก็แวะมาสวมกอดทักทายกัน หลังจากทั้งคู่ต้องเจอกับความกังวลจากการบุกเข้าโจมตีบ้านเกิดของ รัสเซีย ภายใต้คำสั่งของประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน
แม้เกมนี้ ซินเชนโก และ ไมโคเลนโก จะมีชื่อเพียงแค่ตัวสำรอง และไม่ถูกส่งลงสนาม แต่ก็ได้รับกำลังใจอย่างล้นหลามจากผู้เล่นและแฟนบอลทั้ง 2 ทีม โดยนักเตะเอฟเวอร์ตันก็นำธงชาติยูเครนมาคลุมตัวเดินลงสู่สนาม ขณะที่สโมสรก็ขึ้นข้อความต่อต้านการทำสงครามของรัสเซียบนจอยักษ์ในสนามกูดิสัน พาร์ค ส่วนแฟนบอลก็พร้อมใจกันชูป้ายผ้าที่มีข้อความว่า "เรายืนอยู่เคียงข้างยูเครน"
ด้าน แมนฯ ซิตี้ ทีมเยือนก็สวมเสื้อยืดที่มีรูปธงชาติยูเครนพร้อมข้อความว่า "ไม่เอาสงคราม" เพื่อเป็นกำลังใจให้กับทั้ง ไมโคเลนโก ผู้เล่นเจ้าถิ่น รวมถึง ซินเชนโก นักเตะของตัวเองที่ออกไปร่วมขบวนกับชาวยูเครนพลัดถิ่นที่หน้าหอสมุดกลางในเมืองแมนเชสเตอร์ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา เพื่อส่งกำลังใจถึงบ้านเกิดให้รอดพ้นวิกฤติจากการทำสงครามของ รัสเซีย ด้วย
เป๊ป กวาร์ดิโอลา ผู้จัดการทีมแมนฯ ซิตี้ ออกมากล่าวขอบคุณทุกคนในเกมนี้ที่ส่งกำลังใจถึง 2 นักเตะยูเครนว่า "นี่เป็นช่วงเวลาประทับใจ ขอบคุณทุกคนมากๆ ซินเชนโก ดีใจมากและรู้สึกอบอุ่นขึ้น สิ่งที่ทุกคนออกมาพูดนั้นมีความหมายมาก มันช่างสะเทือนอารมณ์ นั่นคือเหตุผลที่อยากขอบคุณมากๆ สำหรับการแสดงออกในครั้งนี้"
ส่วน แฟรงค์ แลมพาร์ด กุนซือเอฟเวอร์ตัน ก็กล่าวเสริมว่า "นี่คือพลังของกีฬาซึ่งเราเห็นในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาในหลายๆ ด้าน ผมรู้ดีว่าหัวใจของทุกคนในสโมสรแห่งนี้มีมากแค่ไหน ตั้งแต่เจ้าของสโมสรจนถึงประธาน แฟนบอล ผู้เล่น และเราต้องการแสดงให้เห็น เรามีผู้เล่นที่อยู่ข้าง วิตาลี และมีคนอยู่เคียงข้าง ซินเชนโก รวมถึงแฟนบอลทั้งของเราและพวกเขาที่พร้อมใจกัน นั่นคือความสามัคคีของกีฬา และผู้คนภายนอกอีกมากมายสามารถสัมผัสสิ่งนั้นได้เช่นกัน".