โด้ประเดิมโหด แมนยูฯ ถล่ม นิวคาสเซิล 4-1 ขึ้นจ่าฝูงพรีเมียร์ลีก

"ปิศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านเอาชนะ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ไป 4-1 ขึ้นนำจ่าฝูงพรีเมียร์ลีก อังกฤษ

การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2021-22 ประจำวันเสาร์ที่ 11 ก.ย. 64 คู่ที่น่าสนใจ "ปิศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อันดับ 3 ของตาราง เปิดสนามโอลด์ แทรฟเฟิร์ด รับการมาเยือนของ "สาลิกาดง" นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด อันดับ 17 ของตาราง

เกมนี้ โอเล กุนนาร์ โซลชาร์ กุนซือแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ส่ง คริสเตียโน โรนัลโด ดาวยิงป้ายแดง ลงสนามเป็นตัวจริงทันที ส่วนขุมกำลังอื่นๆ ถือว่าแน่นเปรี๊ยะ นำมาโดย ราฟาเอล วาราน, พอล ป็อกบา, บรูโน เฟอร์นันเดส และ เมสัน กรีนวูด ขณะที่ สตีฟ บรูซ กุนซือนิวคาสเซิล มี อัลลัน แซงต์-แม็กซิแม็ง เป็นทีเด็ดในแนวรุก

เปิดฉากครึ่งแรก นาทีที่ 7 นิวคาสเซิล ได้ทักทายก่อน จากจังหวะที่ โจลินตัน พาบอลกระชากหนี ราฟาเอล วาราน มาซัดด้วยขวาในเขตโทษ บอลพุ่งหลุดเสาแรกไป

ถัดมา 2 นาที แมนยูฯ ได้ลุ้นบ้าง คริสเตียโน โรนัลโด พยายามตวัดยิงด้วยซ้ายในเขตโทษ แต่โดนไม่เต็ม บอลหลุดออกหลังไป

นาทีที่ 11 เจ้าถิ่นลุยต่อ จาดอน ซานโช จ่ายให้ คริสเตียโน โรนัลโด กระชากไปซัดในเขตโทษ บอลหลุดเสาแรกไปแบบหวุดหวิด

นาทีที่ 19 แมนยูฯ ได้ลูกเตะมุมทางฝั่งซ้าย ลุค ชอว์ เปิดบอลเข้ากรอบเขตโทษ ราฟาเอล วาราน โฉบมาโหม่งหลุดเสาสองออกไป

นาทีที่ 23 นิวคาสเซิล ขอลองบ้าง แมตต์ ริทชี ตะบันด้วยซ้ายจากนอกกรอบ บอลพุ่งแรง แต่ ดาบิด เดเคอา ยังเซฟได้ทัน

นาทีที่ 26 แมนยูฯ เกือบได้อีกแล้ว บรูโน เฟอร์นันเดส ยิงไกลเกือบครึ่งสนาม บอลย้อยข้ามคานไปนิดเดียว

นาทีที่ 28 โอกาสทองของนิวคาสเซิล เมื่อ โจ วิลล็อค ได้ยิงด้วยขวาในเขตโทษ บอลพุ่งข้ามคานออกไป

เกมเปิดแลกกันสนุก นาทีที่ 29 เจ้าถิ่นได้ส่องจากจังหวะที่ บรูโน เฟอร์นันเดส ยิงไกลด้วยขวา บอลพุ่งหลุดเสาสอง

นาทีที่ 32 บรูโน เฟอร์นันเดส ทำเกมขึ้นมาก่อนจ่ายเข้าเขตโทษให้ จาดอน ซานโช ดึงจังหวะหลอกหนึ่งทีแล้วยิงด้วยขวา บอลแฉลบหลุดเสาไปนิดเดียว

นาทีที่ 36 นิวคาสเซิล ทำเกมกันมาดี อัลลัน แซงต์-แม็กซิแม็ง กดด้วยขวา บอลพุ่งหลุดกรอบ

เข้าสู่ช่วงทดเจ็บ นาทีที่ 45+2 แฟนปิศาจแดงได้เฮกันลั่นโรงละครแห่งความฝัน เมื่อ แมนยูฯ ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ เมสัน กรีนวูด ลากตัดจากฝั่งขวามาหน้าเขตโทษ ก่อนซัดด้วยซ้าย เฟรดดี วูดแมน รับกระฉอกมาเข้าทาง คริสเตียโน โรนัลโด ตามซ้ำเข้าไปไม่เหลือซาก

จบครึ่งแรก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นำ นิวคาสเซิล อยู่ 1-0

กลับมาเล่นต่อครึ่งหลัง นาทีที่ 56 นิวคาสเซิล ตีเสมอเป็น 1-1 จากจังหวะที่ อัลลัน แซงต์-แม็กซิแม็ง จ่ายบอลเข้าเขตโทษฝั่งขวาให้ ฮาเวียร์ มานกีโญ ซัดด้วยขวาเข้าไปตุงตาข่าย

จากนั้นนาทีที่ 62 แมนยูฯ ขึ้นนำอีกครั้ง 2-1 เมื่อ ลุค ชอว์ พาบอลลุยขึ้นมาเองก่อนไหลต่อให้ คริสเตียโน โรนัลโด กระชากเข้าเขตโทษแล้วซัดด้วยซ้าย บอลพุ่งลอดขา เฟร็ดดี วูดแมน เข้าไปอย่างเหนือชั้น

นาทีที่ 68 นิวคาสเซิล สวนกลับมาน่ากลัว แมตต์ ริทชี จ่ายบอลเข้าเขตโทษฝั่งซ้าย โจลินตัน หาจังหวะตวัดด้วยขวาเน้นๆ ร้อนถึง ดาบิด เดเคอา ต้องปัดออกไป

เข้าสู่ช่วงท้ายเกม นาทีที่ 80 แมนยูฯ นำห่าง 3-1 จากจังหวะที่ พอล ป็อกบา จ่ายบอลให้ บรูโน เฟอร์นันเดส ยิงไกลเข้าไปอย่างสวยงาม

ช่วงทดเจ็บ แมนยูฯ หนีไปไกลเป็น 4-1 จาก เจสซี ลินการ์ด และช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบเกม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เอาชนะ นิวคาสเซิล ไป 4-1 เก็บ 3 คะแนนสำคัญ ขึ้นนำจ่าฝูง

รายชื่อ 11 ตัวจริงของทั้ง 2 ทีม มีดังนี้

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด: ดาบิด เด เคอา (GK), อารอน วาน บิสซากา, ราฟาเอล วาราน, แฮร์รี แม็คไกวร์, ลุค ชอว์, เนมันยา มาติช, พอล ป็อกบา, เมสัน กรีนวูด, บรูโน เฟอร์นันเดส, จาดอน ซานโช และ คริสเตียโน โรนัลโด

นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด: เฟร็ดดี้ วูดแมน (GK), ฮาเวียร์ มานกีโญ, อิซาค เฮย์เดน, จามาล ลาสเซลล์ส, คีแรน คลาร์ก, แมตต์ ริทชี, โจ วิลล็อค, ฌอน ลองสตาฟฟ์, มิเกล อัลมิรอน, โจลินตัน, อัลลัน แซงต์-แม็กซิแม็ง