หน้าแรกแกลเลอรี่

ย้อนเส้นทาง "แพทสัน ดากา" ก่อนกลายร่างเป็นหัวหอกคนใหม่ "เลสเตอร์ ซิตี้"

ไทยรัฐออนไลน์

30 มิ.ย. 2564 22:15 น.

ย้อนรอยเส้นทาง "แพทสัน ดากา" ก่อนกลายร่างมาเป็นหัวหอกตัวใหม่ของ "เลสเตอร์ ซิตี้" ทีมชั้นนำในศึก "พรีเมียร์ลีก อังกฤษ" ที่มีดีกรีแชมป์ "เอเอฟ คัพ" ซีซั่นที่ผ่านมา

วันที่ 30 มิ.ย. 64 ความเคลื่อนไหวหลังจากที่ "จิ้งจอกสยาม" เลสเตอร์ ซิตี้ ภายใต้การนำทีมของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ผู้จัดการทีมชาวไอร์แลนด์เหนือ คว้าตัว แพทสัน ดากา กองหน้าชาวแซมเบียจากทีม เรดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก ด้วยค่าตัว 23 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 1,018 ล้านบาท

ทั้งนี้ แพทสัน ดากา เกิดที่ประเทศแซมเบีย เขาใช้เวลาเล่นให้กับทีมเยาวชนอย่าง เอ็นชางกา เรนเจอร์ส และ คาฟู เซลติกส์ ที่บ้านเกิดของเขา ก่อนจะย้ายไป เอฟซี ไลเฟริง ในลีกออสเตรียด้วยสัญญายืมตัวในปี 2017 เขาสร้างความประทับใจในลีกรองของออสเตรียในทันที และในไม่ช้าก็เซ็นสัญญา 5 ปี กับ เรดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก ในปลายปีนั้น แต่ยังคงเล่นให้กับ ไลเฟริง ด้วยสัญญายืมตัวต่อไป

ผลงานของ แพทสัน ดากา สำหรับทีมเยาวชนของ เรดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก ยังคงเป็นที่จับตามองอย่างต่อเนื่อง ประตูของเขาในรอบชิงชนะเลิศของยูฟ่า ยูธ ลีก 2017 ช่วยให้ทีมคว้าชัยชนะเหนือ เบนฟิกา และทำให้เขาได้ก้าวลงไปเล่นให้ทีมชุดใหญ่ 12 ครั้ง ในฤดูกาล 2017/18 เรดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก คว้าแชมป์ในฤดูกาลนั้น โดย ดากา ทำผลงานได้โดดเด่น จนได้ลงเล่นอีก 26 นัดในฤดูกาลถัดไป พร้อมช่วยทีมคว้าทั้งแชมป์ลีก และแชมป์ฟุตบอลถ้วยได้สำเร็จ

ขณะที่ในฤดูกาล 2019/20 เรดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก คว้าดับเบิลแชมป์ได้อีกครั้ง โดยกองหน้าพรสวรรค์รายนี้ทำไป 27 ประตูในฤดูกาลนี้ เช่นเดียวกับการได้ลงเล่นในฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก โดยประเดิมสนามในเกมถล่ม เกงค์ 6-2 เมื่อเดือนกันยายน 2019

พัฒนาการของ แพทสัน ดากา ยังคงดำเนินต่อไป และฤดูกาลที่ผ่านมาเขายิงไป 34 ประตูในทุกรายการ ทำให้สองฤดูกาลล่าสุดทำไปแล้ว 61 ประตู จากการลงเล่นเพียง 87 นัด นอกจากนี้ ดากา ยังช่วยให้ เรดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก คว้าดับเบิลแชมป์ได้เป็นครั้งที่สาม

สำหรับในนามทีมชาติ แพทสัน ดากา ลงเล่นให้กับทีมชาติแซมเบีย 22 ครั้ง ยิงไป 7 ประตู จนได้รับการเสนอชื่อให้เป็นนักเตะดาวรุ่งแห่งปี ของสหพันธ์ฟุตบอลแอฟริกันในปี 2017 และตัวเขา แพทสัน ดากา จะเข้ามารายงานตัวกับสโมสร และพบกับเพื่อนร่วมทีมใหม่ที่ เลสเตอร์ ซิตี้ ในเดือนกรกฎาคม เพื่อเตรียมตัวสำหรับการสู้ศึกพรีเมียร์ลีก ในฤดูกาล 2021-22 ต่อไป.