หน้าแรกแกลเลอรี่

ลิเวอร์พูล ระเบิดฟอร์มเทพ บุกตบ แมนยูฯ คาบ้าน 4-2 ศึกแดงเดือด

ไทยรัฐออนไลน์

14 พ.ค. 2564 04:11 น.

"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล โชว์ฟอร์มสุดยอด บุกมาเอาชนะ "ปิศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถึงถิ่น 4-2 ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดแดงเดือด

ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2020-21 เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ 13 พ.ค. 64 คู่ที่น่าสนใจ "ปิศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อันดับ 2 ของตาราง เปิดสนามโอลด์ แทรฟเฟิร์ด รับการมาเยือนของ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล อันดับ 6 ของตาราง

เปิดฉากครึ่งแรก นาทีที่ 10 แมนยูฯ ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ มาร์คัส แรชฟอร์ด จ่ายทะลุให้ อารอน วาน-บิสซากา หลุดเข้าเขตโทษฝั่งขวาก่อนจ่ายย้อนมาให้ บรูโน เฟอร์นันเดส ดีดด้วยขวา บอลโดน นาธาเนียล ฟิลลิปส์ เปลี่ยนทางเข้าประตูไป

จากนั้นนาทีที่ 28 แมนยูฯ เกือบเสียจุดโทษจากจังหวะ เอริก ไบญี ดูเหมือนจะเสียบ นาธาเนียล ฟิลลิปส์ ร่วงลงไป ตอนแรกผู้ตัดสินชี้เป็นจุดโทษ ก่อนจะไปเช็กวีเออาร์อีกครั้งและเปลี่ยนใจเนื่องจากมองว่า ไบญี สกัดโดนที่บอล

ถึงนาทีที่ 34 ลิเวอร์พูล ตีเสมอ 1-1 จากจังหวะเปิดลูกเตะมุมจากฝั่งขวาเข้ากรอบเขตโทษสุดท้ายบอลมาเข้าทาง นาธาเนียล ฟิลลิปส์ ตวัดยิงด้วยขวามาเข้าทาง ดิโอโก โชตา ไขว้ยิงเข้าไปอย่างเหนือชั้น

เข้าสู่ช่วงทดเจ็บ 45+3 ลิเวอร์พูล แซงนำ 2-1 จากจังหวะได้ฟรีคิกหน้าเขตโทษ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ เปิดไปที่เสาสอง โรแบร์โต เฟอร์มิโน โหม่งเข้าไปอย่างสวยงาม ก่อนจะจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้

กลับมาเล่นต่อครึ่งหลัง นาทีที่ 47 ลิเวอร์พูล หนีเป็น 3-1 เมื่อ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ตะบันด้วยขวาในเขตโทษ ดีน เฮนเดอร์สัน เซฟออกมาเข้าทาง โรแบร์โต เฟอร์มิโน ซ้ำเข้าไปตุงตาข่าย

จากนั้นนาทีที่ 68 แมนยูฯ ไล่มาเป็น 2-3 จากจังหวะที่ เอดินสัน คาวานี จ่ายให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด กระชากเข้าเขตโทษแล้วซัดเข้าไป

ถึงนาทีที่ 90 ลิเวอร์พูล หนีเป็น 4-2 จากจังหวะที่ เคอร์ติส โจนส์ จ่ายบอลเร็วให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ หลุดเดี่ยวก่อนยิงผ่าน ดีน เฮนเดอร์สัน เข้าไปไม่พลาด

จบเกม ลิเวอร์พูล บุกมาชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 4-2 เก็บเพิ่มเป็น 60 คะแนน ขึ้นมาอยู่อันดับ 5 ยังมีลุ้นคว้าตั๋วยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ส่วน แมนยูฯ มี 70 คะแนนเท่าเดิม รั้งอันดับ 2

รายชื่อ 11 ตัวจริงของทั้งสองทีม

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด: ดีน เฮนเดอร์สัน (GK), วิคตอร์ ลินเดเลิฟ, เอริก ไบญี, ลุค ชอว์, อารอน วาน-บิสซากา, เฟร็ด, สกอตต์ แม็คโทมิเนย์, พอล ป็อกบา, บรูโน เฟอร์นันเดส, มาร์คัส แรชฟอร์ด และ เอดินสัน คาวานี

ลิเวอร์พูล: อลิสสัน เบคเกอร์(GK), เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์, รีส วิลเลียมส์, นาธาเนียล ฟิลลิปส์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, ฟาบินโญ, จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม, ติอาโก อัลคันทารา, ดิโอโก โชตา, โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ โรแบร์โต เฟอร์มิโน