ไทยรัฐออนไลน์
สื่อแฉ ผู้เล่นแมนยูฯ บางรายแสดงความไม่พอใจที่สโมสรจะไปร่วมวงก่อตั้ง ยูโรเปียน ซูเปอร์ลีก ท่ามกลางกระแสต่อต้าน ร้อนถึงซีอีโอที่ต้องรีบชี้แจง
วันที่ 20 เม.ย. 64 ความเคลื่อนไหวต่อเนื่องของประเด็นร้อนในวงการฟุตบอลเวลานี้ ซึ่ง 12 ทีมยักษ์ใหญ่ของยุโรปประกาศตัวว่าจะร่วมกันก่อตั้ง "ยูโรเปียน ซูเปอร์ลีก" รายการใหม่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยมี 20 ทีมทั่วทวีปมาฟาดแข้งกัน ซึ่งก็จะแยกตัวออกมาเตะกันเองแทนการเข้าร่วม ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก กับ ยูโรปาลีก ที่อยู่ในความดูแลของ สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) ซึ่งให้รายได้และผลประโยชน์ไม่สมน้ำสมเนื้อ
บรรดา 12 ทีมแกนนำผู้ร่วมก่อตั้ง หนึ่งในนั้นมี แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รองจ่าฝูงพรีเมียร์ลีก อังกฤษ รวมอยู่ด้วย ซึ่งเมื่อวานนี้ก็เกิดกระแสต่อต้านอย่างหนักจากเหล่าแฟนบอลหลายสโมสร รวมถึงตัวนักเตะเองด้วย โดย เดลี เมล์ สื่อดังเมืองผู้ดีรายงานว่า มีผู้เล่นบางรายของ "ปิศาจแดง" ที่แสดงออกถึงความไม่พอใจอย่างชัดเจน ระหว่างเข้ามารายงานตัวก่อนการฝึกซ้อมที่ศูนย์ฝึกแคร์ริงตัน
รายงานระบุว่า เอ็ด วูดเวิร์ด รองประธานกรรมการบริหารของ แมนยูฯ ซึ่งเวลานี้ย้ายบ้านจากเมืองแมนเชสเตอร์ไปอยู่ในกรุงลอนดอน ต้องรีบเชื่อมต่อผ่านโปรแกรมซูม (Zoom) เพื่อออกมาชี้แจงกับบรรดานักเตะโดยด่วนเกี่ยวกับจุดยืนของสโมสร และอธิบายว่าเป็นการทำเพื่อผลประโยชน์สูงสุดของสโมสร
แหล่งข่าวเปิดเผยว่า "ผู้เล่นบางคนแสดงความไม่พอใจแบบจริงจัง เพราะไม่ใช่แค่พวกเขาเท่านั้นที่ถูกปล่อยให้เผชิญหน้ากับสื่อมวลชน แต่ผู้จัดการทีมเองก็เจอยิงคำถามหลังจากเจ้าของสโมสรได้จุดประเด็นขึ้นมา ซึ่ง วูดเวิร์ด ก็พยายามชี้แจงให้ทุกคนพอใจมากที่สุด แต่ปฏิกิริยาตอบสนองกลับดูนิ่งอย่างที่สุด ซึ่งมันก็ไม่ได้ดูแย่ลงกับหลายๆ คน"
ส่วนในโซเชียลมีเดียเมื่อวานนี้ บรูโน เฟอร์นันเดส จอมทัพทีมชาติโปรตุเกสได้แสดงออกเป็นนัย ด้วยการแชร์โพสต์ของ ดาเนียล โพเดนซ์ ปีกเพื่อนร่วมชาติจากสโมสรวูล์ฟแฮมป์ตันที่พูดถึงไฮไลต์สำคัญๆ ในศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ลงสตอรี่ในอินสตาแกรมส่วนตัว ซึ่ง บรูโน ก็เขียนแคปชั่นว่า "ความฝันไม่สามารถซื้อได้" พร้อมอีโมจิที่เป็นรูปปรบมือ
ขณะเดียวกัน สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) ได้ออกมาแถลงเมื่อวานนี้ เกี่ยวกับการปรับโฉมของศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก และ ยูโรปาลีก ที่จะเพิ่มทีมในรอบแบ่งกลุ่มจาก 32 ทีม เป็น 36 ทีม พร้อมขู่ว่าจะตัด 3 ใน 4 ทีม (แมนเชสเตอร์ ซิตี้, เชลซี, เรอัล มาดริด) ออกจากศึกแชมเปียนส์ลีก รอบรองชนะเลิศ หากแยกตัวไปก่อตั้ง "ยูโรเปียน ซูเปอร์ลีก" ตามแผน ส่วนผู้เล่นที่มีส่วนร่วมกับรายการใหม่ก็จะหมดสิทธิ์ลงแข่งในฟุตบอลโลก และฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป.