ไทยรัฐออนไลน์
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน และ แกรี เนวิลล์ ไม่เห็นด้วยที่ แมนยูฯ จะร่วมวงก่อตั้ง ยูโรเปียน ซูเปอร์ลีก โดยเฉพาะรายหลังที่อยากให้ตัดแต้มลงโทษ
วันที่ 19 เม.ย. 64 เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ตำนานกุนซือของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พร้อมด้วย แกรี เนวิลล์ อดีตลูกทีมตัวเก่ง ออกมาแสดงมุมมองคัดค้านการตัดสินใจของอดีตต้นสังกัด หลังมีการยืนยันว่าเป็น 1 ใน 12 ทีมที่ตอบตกลงในการร่วมก่อตั้ง "ยูโรเปียน ซูเปอร์ลีก" ซึ่งคาดว่าจะมีการเปิดตัวในปี 2024
12 สโมสรตามรายงานที่ออกมา ประกอบด้วย 6 ทีมใหญ่ของพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ได้แก่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, เชลซี, อาร์เซนอล, ลิเวอร์พูล, ทอตแนม ฮอตสเปอร์ และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ รวมถึง ยูเวนตุส, เอซี มิลาน, อินเตอร์ มิลาน จากกัลโช เซเรีย อา อิตาลี และ เรอัล มาดริด, บาร์เซโลนา กับ แอตเลติโก มาดริด จากลา ลีกา สเปน
รูปแบบของ "ยูโรเปียน ซูเปอร์ลีก" ที่จะแยกตัวจาก "ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก" เบื้องต้นจะมีอีก 8 ทีมมาร่วมวงด้วย รวมเป็น 20 ทีม โดย 12 ทีมข้างต้นจะเป็นตัวยืน ขณะที่อีก 3 ทีมที่คาดว่าจะเข้าร่วมในเร็วๆ นี้ยังไม่ประสงค์ออกนาม ส่วน 5 ทีมที่เหลือจะต้องผ่านการคัดเลือกในแต่ละปี โดยขึ้นอยู่กับผลงานการแข่งขันภายในประเทศของตัวเอง
หลังจากข่าวนี้ออกมา "เฟอร์กี้" อดีตผู้จัดการทีมที่พา "ปิศาจแดง" เข้ารอบชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ได้ 4 ครั้ง และคว้าแชมป์มาได้ 2 สมัย ให้สัมภาษณ์คัดค้านแผนการนี้ผ่านทาง รอยเตอร์ส ว่า "หากพูดถึง ยูโรเปียน ซูเปอร์ลีก มันคือการตีตัวออกจากประวัติศาสตร์ 70 ปีของฟุตบอลยุโรป ในฐานะผู้เล่นจากทีมประจำเมืองอย่าง ดันเฟิร์มลิน ในยุค 60 และในฐานะผู้จัดการทีมอเบอร์ดีน ชุดคว้าแชมป์ยูโรเปียน คัพ วินเนอร์ส คัพ ซึ่งเป็นสโมสรจากเมืองเล็กๆ ในสกอตแลนด์ มันก็เหมือนกับการปีนยอดเขาเอเวอเรสต์"
"เอฟเวอร์ตัน เพิ่งลงทุนไป 500 ล้านปอนด์ (21,500 ล้านบาท) เพื่อสร้างสนามแห่งใหม่ ด้วยความฝันที่จะได้ลงเล่นใน ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก และแฟนๆ ต่างก็ยังรักการแข่งขันรายการนี้เหมือนที่เคยเป็นมา ในช่วงที่ผมอยู่กับ ยูไนเต็ด เราได้เล่น ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก รอบชิงชนะเลิศ 4 ครั้ง และทุกครั้งถือเป็นค่ำคืนที่พิเศษที่สุด แต่ผมไม่แน่ใจว่า แมนยูฯ มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้หรือเปล่า เพราะผมไม่ได้มีส่วนร่วมในกระบวนการตัดสินใจ"
ขณะที่ แกรี เนวิลล์ อดีตแบ็กขวาตัวเก่งของ แมนยูฯ ในยุค "เฟอร์กี้" ก็สับแหลกถึงสโมสรที่ตัวเองเติบโตมาผ่านทาง สกาย สปอร์ตส ว่า "ผมคิดว่าการผลักดันแผนการนี้ท่ามกลางวิกฤติโควิด-19 และเศรษฐกิจที่กำลังตกต่ำ ถือเป็นเรื่องอื้อฉาวอย่างแท้จริง แม้ผมจะเป็นแฟนของ แมนยูฯ และอยู่ที่นั่นมานาน 40 ปี แต่ผมก็รู้สึกขยะแขยงกับความคิดนี้มาก โดยเฉพาะ แมนยูฯ และ ลิเวอร์พูล"
"ทั้ง ยูไนเต็ด และทีมที่เหลือในกลุ่ม "บิ๊กซิกซ์" ที่ร่วมลงนามกับแผนการนี้ ถือเป็นศัตรูกับทีมอื่นในพรีเมียร์ลีกและควรละอายแก่ใจตัวเองบ้าง ส่วน ลิเวอร์พูล เองก็ทำเป็นบอกว่า "เราจะไม่มีวันเดินเดียวดาย" (You'll Never Walk Alone - เพลงประจำสโมสรลิเวอร์พูล) ขณะที่ แมนยูฯ ก็ก่อตั้งขึ้นมาท่ามกลางกลุ่มชนชั้นแรงงานมานานกว่า 100 ปี แต่แล้วพวกเขากลับคิดจะแยกตัวออกไปอยู่อีกลีกโดยไม่ได้เกิดจากการแข่งขันและไม่มีการตกชั้น"
"ลีกนี้เกิดขึ้นจากความหิวเงินล้วนๆ แต่ผมไม่ได้แสดงออกถึงเรื่องนี้ด้วยอารมณ์หรอกนะ พวกเขาทั้ง 6 ทีมควรโดนลงโทษอย่างสาสมด้วยการถูกตัดแต้มในลีกให้หมดตั้งแต่พรุ่งนี้เลย ให้พวกเขาลงไปอยู่ท้ายตารางและริบเงินรางวัลให้หมด เพราะนี่คือการทำร้ายจิตใจแฟนบอล"
ก่อนหน้านี้ ทั้งสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) และ สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) ได้ขู่ว่าจะไม่ให้มีการรวมตัวของทีมชั้นนำยุโรป เพื่อไปก่อตั้ง ยูโรเปียน ซูเปอร์ลีก โดยเด็ดขาด เนื่องจากอาจกระทบกับวงการลูกหนังยุโรปและของโลก รวมถึงขู่ว่าจะแบนนักเตะที่ไปร่วมรายการนี้ ไม่ให้ลงแข่งขันในเกมนานาชาติอย่าง ฟุตบอลโลก และฟุตบอลชิงแชมป์ระดับทวีป