ไทยรัฐออนไลน์
ตระกูล “เกลเซอร์” ทำเรื่องขัดใจแฟนบอลปิศาจแดงอีกแล้ว หลังตัดสินใจเฉือนหุ้นสโมสรอีก 5 ล้านหุ้น เพื่อขายหาเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพิ่งตกเป็นข่าว กำลังจะยื่นข้อเสนอเพื่อกู้เงินราว 60 ล้านปอนด์ เพื่อนำมาช่วยเพิ่มสภาพคล่อง หลังจากโดนวิกฤติไวรัสโควิด-19 เล่นงาน ทำให้รายได้ลดลงกว่า 100 ล้านปอนด์ในปีที่ผ่านมา และยอดหนี้รวมสะสมพุ่งสูงไปเป็น 455.5 ล้านปอนด์เรียบร้อยแล้ว
แต่ล่าสุด The Times ระบุว่า อัฟราม เกลเซอร์ ในฐานะประธานสโมสรร่วม ได้ตัดสินใจเฉือนหุ้นราว 5 ล้านหุ้น ซึ่งคิดเป็นเงิน 71.5 ล้านปอนด์ ออกขายในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ซึ่งปัจจุบันหุ้นของแมนยูฯ มีมูลค่า 14.39 ปอนด์ต่อหน่วย ซึ่งเงินดังกล่าวจะเข้ากระเป๋าของครอบครัวเกลเซอร์เพียงผู้เดียว ไม่ได้เข้าสู่สโมสรแต่อยางใด
อย่างไรก็ตาม การขายหุ้นดังกล่าวไม่ได้สะเทือนต่อสถานะของตระกูลเกลเซอร์มากนัก เพราะถึงแม้จะขาดหุ้นออกไปแล้ว แต่ยังเหลือหุ้นในการครอบครองอีกราว 74.9 เปอร์เซ็นต์ และไม่มีรายงานว่าพี่น้องคนอื่นๆ ของตระกูล จะขายหุ้นที่เหลือในเร็วๆ นี้แต่อย่างใด
สำหรับ โจเอล และ อัฟราม เกลเซอร์ ก้าวขึ้นมาครองตำแหน่งเจ้าของร่วมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลังจากที่ มัลคอล์ม ผู้เป็นพ่อ เสียชีวิตไปเมื่อปี 2014.