นับตั้งแต่ พรีเมียร์ลีก เริ่มขึ้นเมื่อปี 1992 เหล่าทีมน้องใหม่ที่ตบเท้าขึ้นมาสู่ลีกสูงสุดแห่งเกาะอังกฤษต่างต้องเสริมทีมเพื่อการอยู่รอดในปีต่อไป ถึงแม้ว่าการได้ลงเล่นในฐานะทีมจาก พรีเมียร์ลีก ย่อมได้ค่าตอบแทนที่สูงกว่าลีกอื่นๆ ในประเทศ แต่พวกเขาเองก็ไม่ยอมที่จะต้องร่วงกลับไปลีกรองในสภาพที่น่าเกลียด
หลายครั้งที่ทีมน้องใหม่ทำการซื้อตัวผู้เล่นที่สร้างความเซอร์ไพรส์ต่อเพื่อนร่วมลีกอยู่ไม่น้อย นักเตะบางคนกลายเป็นผู้เล่นที่มีค่าตัวสูงสุดในประวัติศาสตร์สโมสร
วันนี้ ไทยรัฐสปอร์ต จะพามาชม 10 นักเตะสุดแพงที่ซื้อโดยทีมที่เพิ่งเลื่อนขึ้นชั้นมา พรีเมียร์ลีก
10. แม็ตต์ ทาร์เกตต์ - 14 ล้านปอนด์ (แอสตัน วิลลา ปี 2019)
จากผู้เล่นที่ไม่มีความโดดเด่นตลอด 5 ปีกับ เซาแธมป์ตัน กลับมีค่าตัวสูงถึง 14 ล้านปอนด์ที่ แอสตัน วิลลา จ่ายให้กับ “นักบุญแดนใต้” เมื่อ “สิงห์ผงาด” เลื่อนชั้นขึ้นมาสู่ พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2019 โดย ทาร์เก็ตต์ ก้าวขึ้นมาเป็นแบ็กซ้ายตัวจริงในแผนของ ดีน สมิธ กุนซือทีมดังจากเมืองเบอร์มิงแฮม ปัจจุบันเขาลงสนามให้กับ วิลลา ไปแล้ว 47 นัด ยิงได้ 2 ประตู
9. เยอร์เกน โลคาเดีย - 15 ล้านปอนด์ (ไบรจ์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบียน ปี 2018)
จากปีกดาวรุ่งชาวดัตช์ที่โด่งดังมาจาก พีเอสวี ไอนด์โฮเฟิน โดยเขาย้ายมาร่วมทัพ “นกนางนวล” เมื่อเดือนมกราคมปี 2018 โดยพ่วงดีกรีแชมป์ เอดริวีชี่ ลีก ฮอลแลนด์ ติดตัวมาด้วย
แต่อย่างไรก็ตาม เขาเองก้าวขึ้นมาเป็นผู้เล่นกำลังหลักได้เพียงแค่ปีเดียวในฤดูกาล 2018-2019 ก่อนชื่อของเขาจะหายจากสารบบฟุตบอลไปอย่างช้าๆ ปัจจุบันเขาค้าแข้งอยู่กับ เอฟซี ซินซิเนติ ใน เมเจอร์ลีก ซอคเกอร์ สหรัฐอเมริกา ในสัญญายืมตัวจาก ไบรจ์ตัน
8. อดามา ตราโอเร่ - 18 ล้านปอนด์ (วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอร์เรอร์ ปี 2018)
จากผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีของ “สิงห์แดง” มิดเดิลส์เบรอ ในลีก แชมเปียนส์ชิพ ฤดูกาล 2017-2018 นูโน เอสปิรินโต กุนซือชาวโปรตุกีสของ วูล์ฟ กระชากตัวเขาขึ้นมาเล่น พรีเมียร์ลีก ในฤดูกาลต่อมาทันที ถึงตัวเขาเองจะเป็นผู้เล่นตัวหลักของทีมแต่กลับทำประตูได้เพียง 8 ลูกจากการลงสนาม 111 นัดในปัจจุบัน แต่ก็ทดแทนด้วยการเลี้ยงบอลที่รวดเร็วและร่างกายที่แข็งแกร่ง สร้างสีสันบนเวที พรีเมียร์ลีก
7. อัลฟี มอว์สัน - 20 ล้านปอนด์ (ฟูแลม ปี 2018)
ฟูแลม กระชากตัวเขามาร่วมทีมหลังจาก สวอนซี ซิตี้ ร่วงตกชั้นในฤดูกาล 2017-2018 แต่เขาก็ลงสนามให้กับ “เจ้าสัวน้อย” ในฤดูกาลนั้นไปแค่ 15 นัดโดยเจ้าตัววนเวียนอยู่ในอาการบาดเจ็บซะส่วนใหญ่ แถมฤดูกาลนั้น ฟูแลม ยังตกชั้นอีก งานนี้เรียกได้เลยว่า สวอนซี กินกำไรเต็มๆ
6. เวสลี่ย์ โมราเอส - 20 ล้านปอนด์ (แอสตัน วิลลา ปี 2019)
ทัพ “สิงห์ผงาด” ปาดหน้า นิวคาสเซิส คว้าตัวเขามาด้วยราคา 20 ล้านปอนด์มาจาก คลับ บรูซ ใน จูปิแลร์ลีก เบลเยียม ในฤดูกาลแรกเขาลงสนามไป 22 นัด ทำได้ 6 ประตู ก่อนจะบาดเจ็บที่เอ็นไขว้หน้าเข่าขาดเมื่อวันปีใหม่ที่ผ่านมาจากเกมที่พบกับ เบิร์นลีย์
5. ไทโรน มิ้งส์ - 20 ล้านปอนด์ (แอสตัน วิลลา ปี 2019)
อดีตดาวรุ่ง บอร์นมัธ มีโอกาสได้ไปเล่นใน แชมเปียนส์ชิพ กับ แอสตัน วิลลา ในปี 2018 ในสัญญายืมตัวก่อนพาทีมเลื่อนชั้นหลังจบฤดูกาลก่อน ดีน สมิธ กุนซือของ วิลลา จะซื้อเขาถาวรในราคา 20 ล้านปอนด์ ก่อน มิ้งส์ จะกลายมาเป็นกำลังหลักลงเล่นให้กับ “สิงห์ผงาด” อย่างสม่ำเสมอ
4. อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช - 22 ล้านปอนด์ (ฟูแลม ปี 2018)
อดีตศูนย์หน้า นิวคาสเซิล ย้ายตัวแบบถาวรมา ฟูแลม หลังจากพาทีมขึ้นสู่ พรีเมียร์ลีก ได้ในปี 2018 ด้วยค่าตัว 22 ล้านปอนด์ แต่เพียงฤดูกาลแรกเขาก็ไม่สามารถพาทีมหนีรอดตกชั้นได้หลังลงสนามไป 37 นัดยิงได้ 11 ประตู แต่หลังจากร่วงไปยัง แชมเปียนชิพ เขาก็คืนฟอร์มอีกครั้งหลังลงสนามไป 40 นัดยิงได้ 26 ประตู พาทีมขึ้นสู่ พรีเมียร์ลีก ได้หลังจากตกชั้นไปเพียงแค่ปีเดียว ซึ่งในฤดูกาลปัจจุบันเขาลงสนามไปแล้ว 18 นัดทำได้ 3 ประตู
3. อังเดร แซมโบ แองกวิสซา - 22.3 ล้านปอนด์ (ฟูแลม ปี 2018)
สำหรับกองกลางทีมชาติแคเมอรูนถือว่าไม่ได้โชว์ฟอร์มที่น่าผิดหวังสักเท่าไรนัก แต่หลายครั้งที่ฟอร์มปัจจุบันของเขาถูกนำไปเปรียบเทียบกับฟอร์มตอนสมัยอยู่กับ มาร์กเซย เพราะเพียงแค่ปีแรกเขาลงเล่นได้แค่ 25 นัดก่อนจะเจ็บยาว ก่อนที่ปีต่อมาจะถูกส่งยืมตัวไปยัง บียาร์เรอัล และระเบิดฟอร์มในลีกแดนกระทิงดุ ได้อย่างน่าประทับใจ ถึงแม้ “เรือดำน้ำสีเหลือง” อยากเซ็นเขาแบบถาวร แต่ สกอต ปาร์คเกอร์ เลือกที่จะเก็บเขาไว้ใช้งานสู้ศึก พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้
2. ฌ็อง มิเชล เซรี - 22.3 ล้านปอนด์ (ฟูแลม ปี 2018)
อีกหนึ่งดีลสุดเซอร์ไพรส์แห่งวงการฟุตบอลเมื่อ “เจ้าสัวน้อย” ฟูแลม เซ็นสัญญาคว้าตัวกองกลางทีมชาติไอเวอรี่โคสต์มาจาก นีซ ทีมดังจาก ลีก เอิง ฝรั่งเศส แต่ฟอร์มเก่งของเขาก็ไม่ถูกออกมาสำแดงเดชให้เห็นเลย ถึงแม้เขาจะได้รับโอกาสลงสนามไปมากถึง 34 นัดแต่ก็ไม่อาจช่วย ฟูแลม รอดหนีจากการตกชั้นได้ และถูกปล่อยยืมไปกาลาตาซาราย ก็ไม่สามารถเรียกฟอร์มได้อีก ปัจจุบันเขากลับมายัง ฟูแลม อีกครั้งแต่ก็เป็นได้เพียงแค่อะไหล่สำรองในทีมเท่านั้น
1. โรดริโก โมเรโน่ - 27 ล้านปอนด์ (ลีดส์ ยูไนเต็ด ปี 2020)
ลีดส์ ใช้เงิน 27 ล้านปอนด์คว้าตัวกองหน้าทีมชาติสเปนมาจาก บาเลนเซีย โดยทำสถิติเป็นผู้เล่นที่แพงที่สุดในประวัติศาสตร์ของ ลีดส์ ทำลายสถิติเดิมของ ริโอ เฟอร์ดินาน ที่ 18 ล้านปอนด์เมื่อปี 2000
ซึ่งฟอร์มในปัจจุบัน โมเรโน่ ภายใต้การกุมบังเหียนของ มาร์เซโล บิเอลซา ถึงเขาจะไม่ได้ยิงประตูถล่มทลายแต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเขาคือ กำลังหลักในแนวรุกของทัพ “ยูงทอง” อย่างแท้จริง