PUN ABBEYROAD
"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล พลาดท่าบุกมาแพ้ "นักบุญ" เซาแธมป์ตัน ถึงถิ่น ไปแบบสุดช้ำ และนีคือ 4 ประเด็นสำคัญที่ได้เห็นจากเกมนี้
1.11 ตัวจริง-รูปเกม
ถือว่าเซอร์ไพรส์พอสมควรกับการที่ เยอร์เกน คลอปป์ ผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล เลือกจะส่ง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ที่เป็นกองกลาง ถอยลงมาเป็นกองหลังร่วมกับ ฟาบินโญ ทั้งที่กองหลังอาชีพคนอื่นๆ อย่าง รีส วิลเลียมส์ และ นาธาเนียล ฟิลลิปส์ ก็พร้อมลงเล่น นอกจากนี่ยังนำ ติอาโก อัลคันทารา ลงมาเล่นเป็นมิดฟิลด์ตัวรับ และส่ง อเล็กซ์ อ็อกซ์เหลด แชมเบอร์เลน ลงเป็นตัวจริงอีกต่างหาก ดูๆ แล้วก็ถือว่าจัดตัวค่อนข้างประมาท เพราะเซาแธมป์ตันไม่ใช่ทีมที่จะสามารถเอาชนะได้ง่ายๆ ดังนั้นความจริงควรจะจัดตัวตามตำแหน่งตามที่แต่ละคนถนัดมากกว่า ซึ่งผลมันก็ออกมาชัดเจน เสียประตูตั้งแต่นาทีที่ 2 จากจังหวะเสียฟรีคิกและสุดท้ายเป็น แดนนี อิงส์ ที่ยิงเข้าไป พอโดนนำก็เลยเล่นยากขึ้นไปอีกเพราะผู้เล่นนักบุญวิ่งสู้ฟัดกันทุกคน เพรสซิ่งเข้าใส่อย่างหนัก ทำให้หงส์แดงขึ้นเกมกันได้อย่างยากลำบาก จนต้องมีการเปิดบอลยยาวและเสียบอลง่ายๆ อยู่หลายหน ทำให้สุดท้ายต้องจบครึ่งแรกด้วยการตามหลัง จากนั้นครึ่งหลังชัดเจนว่าลูกทีมของ คลอปป์ เล่นกันได้ดีขึ้น บุกอยู่แทบจะฝ่ายเดียว แต่จังหวะสุดท้ายก็ทำไม่ดีพอ และคลอปป์ก็ไม่ได้คิดจะเปลี่ยนเอาตัวรุกรุกอย่าง ทาคูมิ มินามิโนะ หรือ ดิวอค โอริกี ลงมาเพื่อทำประตูแต่อย่างใด สุดท้ายจึงต้องพ่ายแพ้ไปในที่สุด แถมสถิติยังบ่งบอกชัดเจนว่า ลิเวอร์พูล ยิงตรงกรอบแค่ครั้งเดียวเท่านั้นในเกมนี้
2.เทรนต์ฟอร์มบู่-อ็อกซ์เหมือนไม่ได้ลง!
เป็นเกมที่ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ แบ็กขวาของลิเวอร์พูล โชว์ฟอร์มได้อย่างย่ำแย่อย่างสุดๆ จังหวะเสียประตูช่วงต้นเกมก็เป็นเขานี่แหละที่สกัดบอลพล่าด จนบอลมาเข้าทาง แดนนี อิงส์ กระดกบอลเสี่ยบสามเหลี่ยมเข้าไป และหลังจากนั้นเจ้าตัวก็ดูจะเสียความมั่นใจไปแบบดื้อๆ หลุดตำแหน่งกระจาย โดนคู่แข่งกระชากบอลหนีแบบง่ายๆ เรียกได้ว่าต่ำกว่ามาตรฐานอย่างมาก ส่วน อเล็กซ์ อ็อกซ์เหลด แชมเบอร์เลน ที่ได้ลงตัวจริงแบบงงๆ ก็เป็นอีกคนที่ผลงานแย่สุดๆ แทบจะไร้ตัวตน ไม่มีบทบาทใดๆ กับเกมทั้งสิ้น แต่ที่น่าแปลกใจยิ่งกว่าคือเจ้าตัวได้อยู่ในสนามตั้ง 56 นาที! ก่อนจะถูกเปลี่ยนเอา เซอร์ดัน ชาคิรี ลงมาเล่นแทน
3.เกมรุกน่าผิดหวัง
เป็นวันที่ ซาดิโอ มาเน, โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ โรแบร์โต เฟอร์มิโน นัดกันฟอร์มตก แม้จะมีโอกาสทำประตูกันอยู่บ้างแต่มันก็ไม่ได้ใกล้เคียงที่จะเป็นประตูเลย! ด้วยการที่การขึ้นเกมรุกทางฝั่งขวาไร้ประสิทธิภาพสุดๆ ไม่ว่าจะเป็น เทรนต์, อ็อกซ์เหลด-แชมเบอร์เลน และ ซาลาห์ ทำให้เกมนี้เราจึงเห็นหงส์แดงเน้นขึ้นทางฝั่งซ้ายเป็นพิเศษ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน กับ ซาดิโอ มาเน พยายามประสานงานกัน มีความวูบวาบพอสมควร แต่ปัญหาคือจังหวะสุดท้าย บางจังหวะที่ควรยิงดันจ่าย บางจังหวะที่ควรจ่ายดันยิง! ซึ่งเป็นสิ่งที่ เยอร์เกน คลอปป์ ต้องปรับต้องจูนกันต่อไป
4.หงส์ชวดได้จุดโทษ
ช่วงครึ่งหลัง นาทีที่ 50 มีจังหวะที่ จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม กองกลางของลิเวอร์พูล ได้ซัดเน้นๆ ในกรอบเขตโทษ แล้วดูเหมือนว่าบอลจะไปโดนแชนของ แจ็ค สตีเฟนส์ นักเตะเซาแธมป์ตัน ซึ่งผู้ตัดสินก็มีการเช็กวีเออาร์จากจังหวะนี้ แต่สุดท้าย VAR บอกว่าไม่เป็นจุดโทษซะอย่างนั้น ทำให้เซาแธมป์ตันรอดตัวไปได้อย่างเหลือเชื่อ ส่วนลิเวอร์พูลก็ได้แต่ก้มหน้ายอมรับไป