ไทยรัฐออนไลน์
“หงส์แดง” ลิเวอร์พูล บุกมาเสมอ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แบบสุดมัน และนี่คือ 4 ประเด็นสำคัญที่ได้เห็นจากเกมนี้
1.ครึ่งแรกสุดเดือด ครึ่งหลังสุดเนือย
ก่อนเกมคาดว่าทั้งสองทีมจะเล่นแบบระมัดระวังตัว เพราะไม่อยากเป็นฝ่ายปราชัยในเกมสำคัญเช่นนี้ แต่ปรากฏว่าผิดคาด เปิดฉากครึ่งแรกทั้งสองทีมพยายามเปิดเกมแลกกันอย่างสนุก ทีมไหนพลาดอีกฝั่งก็พร้อมจะโจมตีทันที กระทั่งนาทีที่ 11 ลิเวอร์พูล มาได้จุดโทษจากความทะเล่อทะล่าของ ไคล์ วอลเกอร์ แบ็กขวาของซิตี้ ที่วิ่งชน ซาดิโอ มาเน แบบไม่มีเชิง และเป็น โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ยิงขึ้นนำ 1-0 จากนั้นนาทีที่ 25 ลิเวอร์พูลรอดเสียประตู จากจังหวะที่ ราฮีม สเตอร์ลิง ได้ซัดในเขคโทษแต่ อลิสสัน เบคเกอร์ เซฟได้อย่างสุดยอด อย่างไรก็ตามนาทีที่ 31 แมนฯ ซิตี้ มาเอาคืนเป็น 1-1 จากจังหวะที่ เควิน เดอ บรอยน์ จ่ายบอลยัดเข้าเขตโทษให้ กาเบรียล เฆซุส โชว์สกิลพลิกบอลหลบ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ แล้วจิ้มบอลเข้าไปตุงตาข่าย และในนาทีที่ 39 แมนฯ ซิตี้ น่าขึ้นนำสุดๆ เมื่อมาได้จุดโทษ จากจังหวะที่ โจ โกเมซ ทำแฮนด์บอล แต่ เควิน เดอ บรอยน์ ซัดหลุดเสาออกไปอย่างเหลือเชื่อ ก่อนจะจบครึ่งแรกด้วยสกอร์ 1-1 จากนั้นครึ่งหลัง รูปเกมของ แมนฯ ซิตี้ เหนือกว่าชัดเจน ส่วนลิเวอร์พูลดูล้าลงไปอย่างเห็นได้ชัด แต่จนแล้วจนรอดทั้งสองทีมก็ทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ แบ่งแต้มกันไปในที่สุด
2.คลอปป์ลองแผนใหม่
ค่อนข้างเซอร์ไพรส์อยู่เหมือนกัน กับการที่ เยอร์เกน คลอปป์ ผู้จัดการทีมลเวอรืพูลวางระบบการเล่น 4-2-3-1 มาเจอกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ กองกลางตัวรับ 2 คน ใช้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กับ จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม และมี ซาดิโอ มาเน, โรแบร์โต เฟอร์มิโน และ ดิโอโก โชตา ทำเกมรุกสนับสนุน โมฮาเกม้ด ซาลาห์ กองหน้าตัวเป้า ซึ่งเท่ากับว่า คลอปป์ ยัดตัวรุกลงสนามมาถึง 4 คน เลยทีเดียว ทั้งที่ก่อนหน้านี้มีประเด็นถกเถียงกันว่า เฟอร์มิโน หรือ โชตา ใครสมควรได้เป็นตัวจริงมากกว่ากัน แต่คลอปป์เอาลงพร้อมกันไปเลย
3.ผลเสมอยุติธรรมแล้ว
จากรูปเกมที่คอนข้างสูสี ผลเสมอถือว่ายุติธรรมกับทั้งสองทีมแล้ว เพราะลิเวอร์พูลก็ไม่ได้เสียหายอะไรมากนัก อยู่อันดับ 3 ของตาราง ส่วน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แม้จะอยู่อันดับ 10 ของตาราง แต่การเสมอกับทีมใหญ่ด้วยกันอย่าง ลิเวอร์พูล ก็ไม่ใช่เรื่องแย่อะไร อย่างที่ เป๊ป กวาร์ดิโอลา บอกหลังจบเกมว่ามันเป็นเกมที่สูสีแบบสุดๆ ไปเลย
4. ได้มาติปกลับมา แต่เทรนต์เจ็บอีก
เกมนี้ลิเวอร์พูลได้รับข่าวดีเมื่อ โจเอล มาติป อีกหนึ่งกองหลังคนสำคัญ ฟิตกลับมาลงช่วยทีมได้ทันและโชว์ฟอร์มได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว แต่ก็มาได้รับข่าวร้ายเมื่อ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ มีอาการบาดเจ็บ ถึงขั้นถูกเปลี่ยนตัวออกในช่วงครึ่งหลัง และต้องลุ้นว่าอาการจะหนักหนามากแค่ไหน เพราะก่อนหน้านี้ลิเวอร์พูลก็เสีย เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ที่เข้ารับการผ่าตัดเข่าและต้องพักยาวไปแล้วหนึ่งคน
*PUNABBEY*