หน้าแรกแกลเลอรี่

เบื่อโลก ทัศนคติแย่ หวิดโดนเฉดหัวทิ้ง ฝ่าอุปสรรคสู่เพชฌฆาตตัวความหวัง Ep.1

ไทยรัฐออนไลน์

22 ส.ค. 2563 06:00 น.

ก่อนเปิดฤดูกาล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำฤดูกาล 2015-16 "ปิศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ประกาศคว้าตัว อองโตนี มาร์เชียล กองหน้าดาวรุ่งชาวฝรั่งเศสที่แทบไม่มีใครรู้จักในวัย 19 ปี จาก โมนาโก มาร่วมทีมด้วยค่าตัวเบื้องต้นถึง 36 ล้านปอนด์ เมื่อวันที่ 1 กันยายน นับเป็นสถิติสูงสุดบรรดานักเตะวัยรุ่นที่อายุไม่ถึง 20 ปีในช่วงเวลาดังกล่าว ทันทีหลังที่ดีลเสร็จและมีการประกาศออกมาอย่างเป็นทางการมีการตั้งคำถามถึงกูรูลูกหนังและบรรดาแฟนบอลบางส่วนที่แสดงความคิดเห็นว่าสโมสรทุ่มเงินมหาศาลไปกับนักเตะที่ยังแทบไม่มีใครรู้จัก

ขนาด เวย์น รูนีย์ กองหน้าระดับตำนานที่ยังอยู่กับสโมสรในตอนนั้นยังยอมรับตามตรงเลยว่าแทบไม่รู้จักนักเตะรายนี้มาก่อนด้วยการบอกว่า ด้วยความสัตย์จริงเลยนะ ผมแทบไม่ค่อยได้ดู อองโตนี มาร์เชียล ลงเล่นมากเท่าไร ดังนั้นผมคงไม่สามารถพูดอะไรได้มากนัก แต่ผมรู้ว่าเขาเป็นนักเตะที่มหัศจรรย์ในเกมเจอกับ อาร์เซนอล เมื่อฤดูกาลที่แล้ว จากสิ่งที่ผมเห็นเขาเป็นนักเตะที่มีความสามารถมากๆ และผมมั่นใจว่าเขาจะทำผลงานกับเราได้อย่างยอดเยี่ยม

พร้อมกันนั้น หลุยส์ ฟาน กัล ผู้จัดการทีมชาวเนเธอร์แลนด์ ออกมายกย่อง อองโตนี มาร์เชียล ว่า เป็นกองหน้าดาวรุ่งที่เปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์และเต็มไปด้วยศักยภาพ ซึ่งตัวเขาก็แสดงความเชื่อว่าสโมสรแห่งนี้จะช่วยพัฒนานักเตะให้ไปสู่ระดับโลกได้อย่างแน่นอน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเขาจะค่อยๆ ส่งนักเตะใหม่รายนี้ลงสนามเพื่อให้นักเตะมีเวลาปรับตัวและจะไม่เป็นการโยนความกดดันใส่จนเกินไป

ประเด็นเรื่องค่าตัวของนักเตะ หลุยส์ ฟาน กัล ก็ยอมรับว่าค่าตัวของนักเตะนั้นแพงเกินไปจริงๆ ทว่าเหตุผลที่ยอมซื้อมาร่วมทีมนั้นส่วนหนึ่งเป็นเพราะจะค่อยๆ ปั้นนักเตะเพื่อให้ผู้จัดการทีมคนต่อไปได้ใช้งาน ขณะที่ เอ็ด วูดเวิร์ด ซีอีโอคนเก่งที่ตอนนั้นเคยพลาดนำตัว เปโดร มาสู่สโมสรหมาดๆ บอกกับแฟนบอลว่าก่อนคว้าตัวแข้งนี้มาร่วมทีมว่า เดี๋ยวพวกคุณก็จะลืมเรื่องนี้ (พลาดคว้า เปโดร) ไปได้อย่างแน่นอนเลยเพราะเราจะมีนักเตะที่ดีกว่าซึ่งคล้อยหลังจากนั้นไม่นานทีมก็ได้ตัว อองโตนี มาร์เชียล มาร่วมทีมซึ่งนั่นมันทำให้แฟนบอลตั้งคำถามว่านักเตะคนนี้จะดีกว่า เปโดร จริงหรือเปล่า

เกมแรกที่ อองโตนี มาร์เชียล มีโอกาสประเดิมสนามเป็นนัดแรกในวันที่ 12 กันยายน ซึ่งทีมของเขามีโปรแกรมทำศึกแดงเดือดด้วยการเปิดสนาม โอลด์ แทรฟเฟิร์ด คือ ต้อนรับการมาเยือนของคู่รักคู่แค้นตลอดกาลอย่าง "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล และในนาทีที่ 65 ของเกมการแข่งขันตัวเขาก็ถูกส่งลงสนามแทนที่ ฆวน มาตา กองกลางชาวสเปน

ก่อนเกมคงไม่มีใครคาดคิดว่านี่จะเป็นไคลแม็กซ์ในเกมนี้หรือเป็นการเปิดตัวที่สุดเพอร์เฟกต์สำหรับตัวเขาเมื่อช่วงท้ายเกมในนาทีที่ 86 ได้บอลทางกราบซ้ายจาก แอชลีย์ ยัง ก่อนพาบอลจี้ลากหลบกองหลัง 3-4 คนเข้าไปยิงผ่านมือ ซิมง มินโญเลต์ เข้าประตูไปอย่างเฉียบขาด ซึ่งประตูนี้กลายเป็นประตูแจ้งเกิดที่ถือเป็นภาพจำของเขามาจนถึงวันนี้

จากเด็กหนุ่มที่แทบไม่มีใครรู้จักชื่อของเขาก็เริ่มใหญ่และดังกระหึ่มขึ้นเรื่อยๆ จากการทำประตูได้อย่างสม่ำเสมอจนปิดฉากซีซั่นแรกกับสโมสรต้นสังกัดใหม่ด้วยผลงานที่ยอดเยี่ยม 17 ประตู กับอีก 9 แอสซิสต์ จากการลงสนาม 49 นัดทุกรายการ ผลงานดังกล่าวทำให้ตัวเขาสถาปนาเป็นหนึ่งในนักเตะตัวความหวังของทีมเรียกได้ว่ากราฟชีวิตของเขาพุ่งสุดขีดและไม่น่าจะมีอะไรมาหยุดยั้งฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมของเขาได้

ทว่าจุดเปลี่ยนสำคัญมาถึงเมื่อ หลุยส์ ฟาน กัล ถูกปลดออกจากตำแหน่งหลังจากที่เพิ่งนำทีมคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ สมัยที่ 12 ในประวัติศาสตร์ของสโมสรหมาดๆ โดยสาเหตุหลักๆ มาจากการที่ไม่สามารถนำทีมติด 1 ใน 4 เพื่อไปลุยศึก ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก รวมถึงสไตล์การเล่นที่น่าเบื่อสุดๆ ก่อนถูกแทนที่ด้วย โชเซ มูรินโญ ผู้จัดการทีมชาวโปรตุเกส ที่เข้ามารับไม้ต่อพาทีมดาหน้าล่าความสำเร็จ ซึ่งทางตัวเขาเองคงไม่คาดคิดว่ามรสุมทางฟุตบอลลูกเบ้อเร่อกำลังคืบคลานเข้ามาปกคลุมตัวเขาเข้าให้แล้ว

เบอร์เสื้อหมายเลข 9 ที่แปะอยู่บนแผ่นหลังของ อองโตนี มาร์เชียล ถูกกระชากไปแบบไม่บอกกล่าวให้กับดาวยิงคนใหม่ชาวสวีเดนอย่าง ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ซึ่งว่ากันว่าตัวเขานั้นรู้สึกเจ็บปวดกับเรื่องดังกล่าวก่อนที่ ฟิลลิปส์ ลัมโบเลย์ เอเย่นต์ของนักเตะจะออกมาคอนเฟิร์มในภายหลังด้วยการบอกว่า ผมจะไม่โกหกในเรื่องนี้ นักเตะในความดูแลของผมเศร้ามากๆ อยู่หลายวันเมื่อรู้ว่าสโมสรเอาเบอร์เสื้อหมายเลข 9 ไปจากเขา แต่ในฐานะการเป็นนักเตะมืออาชีพ เขารู้ดีว่าตัวเองต้องสู้ต่อไป ส่วนตัวแล้วผมไม่เห็นด้วยกับการกระทำแบบนี้เพราะมันเหมือนเป็นการไม่ให้ความเคารพกันต่อนักเตะ ผมก็ไม่กลัวหากว่าสโมสรจะรู้สึกยังไงที่ผมพูดออกไปแบบนี้ แต่เอาเป็นว่านักเตะจะเดินหน้าต่อไปแต่เราจะไม่ลืมเรื่องนี้อย่างแน่นอน

หลังจากนั้น อองโตนี มาร์เชียล ก็เจอมรสุมเข้าใส่อย่างไม่หยุดหย่อนทั้งโอกาสลงสนามที่น้อย บทบาทการเล่นก็เปลี่ยนไป โดยจำกัดอิสระทางการเล่นและบางทีก็โดนดร็อปไปดื้อๆ หรือต้องมาแย่งตำแหน่งกันกับ มาร์คัส แรชฟอร์ด กองหน้าเด็กปั้นขนานแท้ของสโมสร หรือช่วงที่ฟอร์มเริ่มกลับมาเข้าที่ทีมก็คว้าตัว อเล็กซิส ซานเชซ เข้ามาสู่ทีม ตลอดจนมีปัญหาไม่ลงรอยกับผู้จัดการทีม ขณะที่เรื่องราวนอกสนามหนักไม่แพ้กันเมื่อตัวเขามีปัญหาทะเลาะกับแฟนสาว

ย้อนกลับด้วยความตึงเครียดที่มีมาระหว่างเขากับ โชเซ มูรินโญ ก็ถึงจุดแตกหักเมื่อตัวเขากำลังจะโดนเฉดหัวออกจากทีมพร้อมกับมีข่าวว่า กุนซือชาวโปรตุเกสรายนี้ต้องการปีกคนใหม่เข้ามาสู่ทีมโดยมีข่าวพัวพันกับนักเตะชั้นนำหลายคน อาทิ อิวาน เปริซิซ หรือ วิลเลียน แต่กระนั้นบอร์ดบริหารของทีมโดดขวางความต้องการของผู้เป็นกุนซือเพราะมองว่านักเตะจะเป็นอนาคตของสโมสรและเป็นทาง โชเซ มูรินโญ ที่ต้องแพ้ภัยตัวเองจากการถูกปลดออกจากตำแหน่งเนื่องจากผลงานที่ย่ำแย่สุดๆ

หากมองถึงสถิติส่วนตัวช่วง 2-3 ปีที่เขาโดนมรสุมชีวิตทางการลูกหนัง เริ่มตั้งแต่ในปี 2016-17 อองโตนี มาร์เชียล ทำไปได้แค่ 8 ประตูกับอีก 8 แอสซิสต์ จากการลงสนาม 42 นัดทุกรายการ และในซีซั่น 2017-18 ผลงานก็ไม่ต่างกันด้วยผลงาน 11 ประตูกับอีก 9 แอสซิสต์ จากการลงสนาม 45 นัดทุกรายการ รวมถึงซีซั่น 2018-19 ทำได้เพียง 12 ประตูกับอีก 3 แอสซิสต์จากการลงสนาม 38 นัดทุกรายการ

ผู้เขียน : iPoppz_5

กราฟิก : Taechita Vijitgrittapong