ไทยรัฐออนไลน์
เหล่าเดอะ ค็อป ในเมืองลิเวอร์พูล ไม่สนคำเตือนของตำรวจที่ขู่ว่าจะดำเนินคดีกับผู้ฝ่าฝืนการเว้นระยะทางสังคมเพื่อป้องกันโควิด-19 ด้วยการออกมาฉลองกันนับพันคน ในขณะที่ทีมรักชูถ้วยแชมป์ในแอนฟิลด์
วันที่ 22 ก.ค. 63 ลิเวอร์พูล เปิดบ้านชนะ เชลซี 5-3 ในศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก นัดที่ 37 คว้าชัยได้อย่างสมศักดิ์ศรี ก่อนตบเท้าเดินขึ้นสู่อัฒจันทร์ฝั่ง ค็อป สแตนด์ ในสนามแอนฟิลด์ เพื่อรับถ้วยในฐานะทีมแชมป์ประจำฤดูกาล 2019-2020 ซึ่งเป็นฉากที่แฟนๆ "หงส์แดง" รอคอยอย่างใจจดใจจ่อ หลังห่างเหินการคว้าแชมป์ลีกสูงสุดของอังกฤษมานาน 30 ปี นับตั้งแต่ได้แชมป์ดิวิชัน 1 เดิม เมื่อฤดูกาล 1989-1990
ภาพชูถ้วยแชมป์พรีเมียร์ลีกที่ "เดอะ ค็อป" เฝ้ารอ
อย่างไรก็ตาม แม้การแข่งขันจะจัดขึ้นแบบปิด ห้ามผู้ชมเข้าสนามเพื่อป้องกันการระบาดของโรคโควิด-19 และมีการขอความร่วมมือจากทุกฝ่ายทั้งสโมสร, ตำรวจเมอร์ซีย์ไซด์ และสภาเมือง แต่สุดท้ายก็ยังมีเหล่า "เดอะ ค็อป" ในเมืองลิเวอร์พูลที่ไม่สนคำเตือน รวมถึงมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม ด้วยการออกมารอฉลองความสำเร็จกับทีมรัก
ซึ่งการรวมตัวของแฟนบอลเกิดขึ้นตั้งแต่ก่อนเกมจะเริ่มขึ้น โดยมีสาวก "หงส์แดง" มาตั้งแถวรอต้อนรับรถบัสของนักเตะและสตาฟฟ์โค้ชระหว่างที่กำลังเดินทางมาถึงสนามแอนฟิลด์ และในระหว่างที่นักเตะกำลังแข่งขันอยู่ด้านในสนาม รวมถึงในช่วงก่อนพิธีมอบถ้วยแชมป์ ก็มีแฟนบอลบางส่วนที่จุดพลุไฟสีแดง รวมถึงมีการใช้ระเบิดควัน จนเกิดควันกลุ่มใหญ่ฟุ้งกระจายเข้าไปถึงด้านในสนาม
ขณะเดียวกัน ตำรวจเมอร์ซีย์ไซด์ ก็มีการรายงานสถานการณ์รวมตัวของแฟนบอลลิเวอร์พูล ผ่านทางทวิตเตอร์ว่า มีการตั้งโซนกระจายตัวโดยรอบบริเวณด้านนอกสนามแอนฟิลด์ หลังจากที่มีกลุ่มคนออกมารวมตัวนอกบ้านกันมากขึ้นในช่วงดึก พร้อมกับขอร้องให้แฟนบอลลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ด้วยการชมพิธีมอบถ้วยแชมป์พรีเมียร์ลีกผ่านทางหน้าจอโทรทัศน์ที่บ้าน
ทั้งนี้ในช่วงก่อนเกม แอนดี คุก ผู้บังคับการตำรวจเมอร์ซีย์ไซด์ ได้ออกมาเตือนแฟนบอลว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมเพื่อดำเนินคดีได้ทันที หากพบผู้ฝ่าฝืนมาตรการเว้นระยะทางสังคม ด้วยการออกมารวมตัวฉลองแชมป์ให้กับทีมลิเวอร์พูล