หมวดแซม
อันดับสามบนตารางคะแนนพรีเมียร์ลีกมีการเปลี่ยนมือแล้ว เมื่อ “สิงห์บลู” เชลซี ทะยานแซงเลสเตอร์ขึ้นมารั้งอันดับ 3 ได้สำเร็จ หลังบุกไปเชือด “ดิ อีเกิลส์” คริสตัล พาเลซ แบบหวุดหวิดหืดจับ 3–2 ในเกมพรีเมียร์ลีก ที่สนามเซลเฮิร์สท์ พาร์ก เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา
เกมนี้ “สิงห์บลู” ทีมของแฟรงค์ แลมพาร์ด บุกมานำห่างเจ้าบ้านไปก่อน 2-0 จากการซัลโวของโอลิวิเยร์ ชิรูด์ และคริสเตียน พูลิซิช ในนาทีที่ 6 และ 27 ตามลำดับ
แต่ทว่านาที 34 พาเลซมาได้ประตูตีไข่แตกไล่เป็น 1-2 จากลูกยิงสุดสวยระยะกว่า 30 หลาของวิลฟรีด ซาฮา เป็นประตูแรกที่เขายิงได้ในถิ่นเซลเฮิร์สท์ พาร์ก นับตั้งแต่เดือนเมษายน ปี 2018
อย่างไรก็ตาม เชลซีขยับสกอร์นำห่างอีกครั้ง 3-1 จากการยิงของแทมมี อับราฮัม ในนาที 71 ทว่าอีกแค่นาทีเดียวถัดมา พาเลซมาทำประตูที่ 2 ไล่จี้ติดเป็น 2-3 จากคริสเตียน เบนเตเก แต่สุดท้ายทีมสิงห์บลูก็สามารถรักษาสกอร์นำ 3-2 นี้ไว้ได้จนจบเกม
ซึ่งการคว้าชัยนัดนี้ ทำให้เชลซีมีเพิ่มเป็น 60 คะแนน จากการลงสนาม 34 นัด ขยับแซงเลสเตอร์ ขึ้นมารั้งอันดับ 3 แล้ว และตามหลังแมนฯซิตี้ อันดับ 2 อยู่ 6 คะแนน แต่แข่งมากกว่าหนึ่งนัด
ต้องบอกว่าการลุ้นแย่ง “ท็อปโฟร์” ในฤดูกาลนี้สนุกดุเดือดมากทีเดียว นอกจากเชลซีกับเลสเตอร์แล้ว ทีมที่ตามหลังมาอย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และวูล์ฟแฮมป์ตัน ก็ยังมีลุ้นแย่งตั๋วไปเล่นแชมเปียนส์ลีกด้วยเช่นกัน
ส่วนควันหลงเกมพรีเมียร์ลีกที่ “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล ทำ 3 คะแนนหลุดมือ ทั้งที่ขึ้นนำเลสเตอร์ไปก่อน
1-0 แต่ครึ่งหลังต้องเหลือผู้เล่นแค่ 10 คน สุดท้ายก็เลยโดน “จิ้งจอกสยาม” ตามไล่เจ๊าเป็น 1-1 แบ่งกันไปทีมละ 1 แต้ม
นัดนี้ปืนใหญ่ได้ประตูนำก่อน 1-0 จากการประสานงานกันอย่างสุดยอด ดานี เซบายอส จ่ายทะลุช่องให้บูกาโย ซากา หลุดขึ้นไปเปิดบอลไปที่เสาไกลให้โอบาเมยองวิ่งมาซัดตุงตาข่าย
แต่แล้วช่วง 15 นาทีสุดท้าย มีจุดเปลี่ยนของเกมเกิดขึ้น เมื่อเอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ กองหน้าตัวสำรองของปืนใหญ่ ที่เพิ่งถูกเปลี่ยนตัวลงสนามมาได้แค่ 4 นาที โดนใบแดงไล่ออก หลังไปโดดถีบเปิดปุ่มใส่เจมส์ จัสติน ของเลสเตอร์ อย่างน่าเกลียด
แม้ว่าตอนแรกผู้ตัดสินเควิน คาวานาฟ จะแจกแค่ใบเหลือง แต่มีสัญญาณจากทีมวีเออาร์ ทำให้ผู้ตัดสินต้องวิ่งไปดูจอมอนิเตอร์ข้างสนาม ก่อนจะเปลี่ยนใจชักใบแดงไล่เอ็นเคเทียห์ออกจากสนามไป ก่อนที่เลสเตอร์จะมาได้ประตูตีเสมอจากเจมี วาร์ดี ในช่วง 5 นาทีสุดท้าย
หลังเกมมิเกล อาร์เตตา กุนซืออาร์เซนอล บอกว่าเขาไม่เข้าใจกฎวีเออาร์จริงๆ หลังเห็นผู้ตัดสินไปดูจอมอนิเตอร์ข้างสนามเพื่อเช็กวีเออาร์ ทั้งที่ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยเห็นผู้ตัดสินจะไปดูภาพที่จอมอนิเตอร์เลย
นอกจากนี้ อาร์เตตายังเผยว่า ที่จริงเลสเตอร์ ซิตี้ น่าจะเหลือผู้เล่นแค่ 10 คน ก่อนหน้าที่เอ็นเคเทียห์จะโดนใบแดงไล่ออกด้วยซ้ำ
โดยเฉพาะจังหวะที่ “บังมุส” ซโคดราน มุสตาฟี กองหลังปืนใหญ่ โดนปลายสตั๊ดของเจมี วาร์ดี เข้าที่ปลายคิ้วจนเลือดตกยางออก แต่ดาวยิงเลสเตอร์กลับรอดพ้นการลงโทษ ไม่ได้แม้แต่ใบเหลือง
ต้องยอมรับว่าเกมนี้อาร์เซนอลเล่นได้ดีมากๆ และควรจะได้ 3 คะแนนเต็ม แต่โชคร้ายที่ต้องเสียไป 2 แต้ม
จากผลงานที่ผ่านมา ดูแล้ว “ปืนใหญ่” ในยุคของอาร์เตตาน่าจะประสบความสำเร็จได้ในอนาคตอันใกล้นี้.
หมวดแซม