มะระหวาน
23 นัดในลีกยังสะกดคำว่าพ่ายแพ้ไม่เป็น สำหรับ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล จ่าฝูงพรีเมียร์ลีก อังกฤษ และว่าที่แชมป์ในฤดูกาลนี้ หลังเกมล่าสุด “หงส์แดง” บุกไปสอย “หมาป่า” วูล์ฟแฮมป์ตัน ไปอย่างหืดจับ 2-1
ทำให้ตอนนี้ลิเวอร์พูลยืดสถิติไม่แพ้เป็นเกม 40 ในลีกติดต่อกัน และเป็นการไม่พ่ายใครเป็นนัดที่ 23 ในซีซันนี้แล้ว
ก่อนแข่งสาวก “เดอะ ค็อป” แม้ว่าจะมั่นใจว่าทีมชนะแน่จากฟอร์มการเล่นอันยอดเยี่ยมตลอด ฤดูกาลที่ผ่านมา แต่ก็แอบหวั่น เพราะวูล์ฟส์ถือว่าเป็นทีมที่ปราบได้ยากและมักจะทำได้ดีเมื่อเจอกับทีมใหญ่ โดยเฉพาะแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ “หมาป่า” สามารถเอาชนะได้ทั้ง 2 เกมที่พบกันในซีซันนี้
แถมเกมที่ทั้งคู่เจอกันในช่วงสิ้นปีที่ผ่านมา “หงส์แดง” ก็ลุ้นเหนื่อยกว่าจะโค่นวูล์ฟส์ลงได้ และเกมนี้ก็เช่นกัน กว่าจะได้เฮต้องลุ้นกันจนถึงวินาทีสุดท้ายเลยทีเดียว
แต่สุดท้ายก็ไม่มีพลิก เจอร์เกน คลอปป์ พาลูกทีมเข้าวินได้แบบไม่มีปัญหา ทำให้ตอนนี้ “หงส์แดง” มี 67 คะแนนด้วยกัน จากสถิติชนะ 22 นัด เสมอ 1 นัดเท่านั้น โดยทิ้งห่างอันดับ 2 อย่าง “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อยู่ถึง 16 คะแนน แถมยังแข่งน้อยกว่าอีก 1 นัดอีกต่างหาก
โอกาสที่ลิเวอร์พูลจะคว้าแชมป์ลีกสูงสุดครั้งแรกในรอบ 30 ปีนั้นค่อนข้างสูงเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์เต็ม ถ้าฟ้าไม่ถล่มหรือยกเลิกการแข่งขัน กลางคันจะได้เห็นจอร์แดน เฮนเดอร์สัน กองกลางกัปตันทีม ได้ชูถ้วยแชมป์ลีกแน่นอน
การลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกปีนี้อาจจะดูไม่สนุกแล้ว แต่สิ่งน่าสนุกกว่าคือการลุ้นว่าใครจะเป็น ทีมแรกที่ยัดเยียดความปราชัยให้กับ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ในฤดูกาลนี้
มาถึงขนาดนี้เชื่อว่าบรรดาแข้งลิเวอร์พูลก็อยากจะทำผลงานคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกแบบ ไร้พ่ายให้ได้เป็นทีมที่ 2 ในประวัติศาสตร์ ต่อจาก “เดอะกันเนอร์ส” อาร์เซนอล ที่เคยทำได้ในฤดูกาล 2003-2004
เมื่อกวาดดูโปรแกรมที่เหลืออยู่อีก 15 นัด ก็ยังมีอีกหลายทีมที่ยังมีโอกาสทำให้ “หงส์แดง” พ่ายแพ้ได้
ไม่ว่าจะเป็นเกมออกไปเยือนเอฟเวอร์ตัน ในศึกเมอร์ซีย์ไซด์ดาร์บี้ วันที่ 14 มี.ค. นอกจากนั้นยังมีเกม “หงส์แดง” ต้องออกไปเยือนแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในวันที่ 4 เม.ย. และเกมที่ 36-37 ของฤดูกาล ที่ลิเวอร์พูลจะออกเยือนอาร์เซนอล ในวันที่ 2 พ.ค.
ก่อนอีก 7 วันต่อมาจะเฝ้ารังพบ “สิงห์บลู” เชลซี ในเกมนัดรองสุดท้าย ซึ่งเกมนี้จะเป็นเกมในบ้านนัดสุดท้ายและน่าจะเป็นการฉลองแชมป์ในเกมดังกล่าวนี้ด้วย เชื่อว่า “หงส์แดง” น่าจะไม่ยอมพลาดแน่ในเกมนี้
ซึ่งดูแล้วมีเพียงแค่ 4 ทีมเท่านั้นที่พอจะทำให้ “หงส์แดง” พบกับความปราชัยในฤดูกาลนี้ นอกจากนั้นที่เหลือคู่ต่อสู้คงยากจะต้านทานความร้อนแรงของเครื่องจักรสีแดงได้ไหว
แม้ว่าการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกให้ได้คือเรื่องที่บรรดาแข้งลิเวอร์พูลจะต้องทำให้ได้เป็น อันดับแรก
แต่สถิติไร้พ่ายมันก็เย้ายวนใจที่จะมุ่งมั่นที่จะทำให้ได้จริงๆ เพราะถ้าทำได้มันจะเป็นการคว้าแชมป์ได้สุดเฟอร์เฟกต์
การซิวแชมป์ครั้งแรกในรอบ 30 ปี แถมยังเป็นแชมป์แบบไร้พ่ายอีกด้วย มันช่างดูโก้จริงๆ
แต่ก็ต้องมาดูกันว่าอีก 15 ทีมที่เหลืออยู่จะยอมเป็นทางผ่านให้ “หงส์แดง” ผงาดคว้า แชมป์แบบไร้พ่ายหรือไม่??
มันน่าสนุกกว่าการลุ้นแชมป์เยอะ!!
มะระหวาน