หน้าแรกแกลเลอรี่

สื่ออังกฤษจัดให้ 20 สุดยอดนักเตะพรีเมียร์ลีกในรอบทศวรรษ

ไทยรัฐออนไลน์

26 ธ.ค. 2562 16:00 น.

นักข่าวสายฟุตบอลของ “เดอะ การ์เดียน” สื่อดังของประเทศอังกฤษ ทำการคัดสรรและเฟ้นหา 20 นักเตะของทีมพรีเมียร์ลีก โดยในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา ใครคือนักเตะที่มีฝีเท้าสุดยอดที่สุดของแต่ละทีม ซึ่งแต่ละคนที่ถูกเลือกมา ล้วนแต่เป็นแข้งขวัญใจของแต่ละทีมทั้งนั้น...

อาร์เซนอล : อารอน แรมซีย์

กองกลางทีมชาติเวลส์ วัย 28 ปี อยู่กับทีมมาตั้งแต่ฤดูกาล 2008-09 จนถึงฤดูกาล 2018-19 ลงเล่นทุกรายการรวม 369 นัด ทำได้ 64 ประตู คว้าแชมป์เอฟเอ คัพ 3 สมัย ก่อนจะย้ายไปค้าแข้งกับทีมยูเวนตุส ในฤดูกาล 2019-20

แอสตัน วิลลา : แบร็ด ฟรีเดล

อดีตนายทวารทีมชาติสหรัฐอเมริกา วัย 48 ปี เคยเฝ้าเสาให้ทีมในช่วงฤดูกาล 2008-09 จนถึงฤดูกาล 2010-11 รวมทุกรายการ 131 นัด ทำสถิติเป็นนักเตะอายุมากที่สุดที่ลงสนามด้วยวัย 39 ปี 259 วัน อีกด้วย แขวนสตั๊ดไปแล้วเมื่อปี 2015

บอร์นมัธ : สตีฟ คุก

กองหลังชาวอังกฤษ วัย 28 ปี อยู่กับทีมมาตั้งแต่ฤดูกาล 2011-12 จนถึงปัจจุบัน ลงเล่นรวมทุกรายการ 303 นัด ทำได้ 21 ประตู เคยคว้าแชมป์แชมเปียนชิพ เมื่อฤดูกาล 2014-15 ถือเป็นกำลังสำคัญในเกมรับของทีมในฤดูกาลนี้

ไบรจ์ตัน : ลูอิส ดังค์

กองหลังชาวอังกฤษ วัย 28 ปี อยู่กับทีมมาตั้งแต่ทีมเยาวชน ก่อนจะเลื่อนชั้นขึ้นมาอยู่ทีมชุดใหญ่เมื่อฤดูกาล 2009-10 จนถึงปัจจุบัน ลงเล่นรวมทุกรายการ 283 นัด ทำได้ 18 ประตู แน่นอนว่าจะต้องเป็นกำลังสำคัญในเกมรับของทีม เพื่ออยู่รอดในพรีเมียร์ลีกให้ได้

เบิร์นลีย์ : แอชลีย์ บาร์นส์

กองหน้าชาวอังกฤษ วัย 30 ปี อยู่กับทีมมาตั้งแต่ฤดูกาล 2013-14 จนถึงปัจจุบัน ลงเล่นรวมทุกรายการ 195 นัด ทำได้ 43 ประตู และในฤดูกาลนี้ เป็นตัวหลักในเกมรุกของทีมเหมือนเดิม

เชลซี : เอเดน อาซาร์ด

กองกลางทีมชาติเบลเยียม วัย 28 ปี อยู่กับทีมมาตั้งแต่ฤดูกาล 2012-13 จนถึงฤดูกาล 2018-19 ลงเล่นรวมทุกรายการ 352 นัด ทำได้ 110 ประตู คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 2 สมัย แชมป์เอฟเอ คัพ 1 สมัยแชมป์ลีกคัพ 1 สมัย และแชมป์ยูโรปาลีก 2 สมัยก่อนจะย้ายไปค้าแข้งกับทีมเรอัล มาดริด ในฤดูกาล 2019-20

คริสตัล พาเลซ : วิลฟรีด ซาฮา

กองหน้าทีมชาติไอวอรีโคสต์ วัย 27 ปี อยู่กับทีมมาตั้งแต่ทีมเยาวชน ก่อนจะเลื่อนชั้นขึ้นมาอยู่ทีมชุดใหญ่เมื่อฤดูกาล 2009-10 จากนั้นย้ายไปค้าแข้งกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อฤดูกาล 2013-14 แต่ฤดูกาล 2014-15 ย้ายกลับมาอยู่กับพาเลซอีกครั้งจนถึงปัจจุบัน ลงเล่นรวมทุกรายการ 342 นัด ทำได้ 56 ประตู และในฤดูกาลนี้ เป็นตัวหลักในเกมรุกของทีมเหมือนเดิม

เอฟเวอร์ตัน : ซีมัส โคลแมน

กองหลังทีมชาติไอร์แลนด์ วัย 31 ปี อยู่กับทีมมาตั้งแต่ฤดูกาล 2009-10 จนถึงปัจจุบัน ลงเล่นรวมทุกรายการ 292 นัด ทำได้ 26 ประตู ส่วนฤดูกาลนี้ นั่งเป็นตัวสำรองเสียส่วนใหญ่

เลสเตอร์ ซิตี้ : เจมี วาร์ดี

อดีตกองหน้าทีมชาติอังกฤษ วัย 32 ปี อยู่กับทีมมาตั้งแต่ฤดูกาล 2012-13 จนถึงปัจจุบัน ลงเล่นรวมทุกรายการ 289 นัด ทำได้ 124 ประตู คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 1 สมัย และแชมป์แชมเปียนชิพ 1 สมัยโดยในฤดูกาลนี้ นำเป็นดาวซัลโวสูงสุดของพรีเมียร์ลีก และช่วยให้ทัพจิ้งจอกสยาม กลับมามีลุ้นแชมป์อีกครั้ง

ลิเวอร์พูล : หลุยส์ ซัวเรซ

กองหน้าทีมชาติอุรุกวัย วัย 32 ปี อยู่กับทีมมาตั้งแต่ฤดูกาล 2010-11 จนถึงฤดูกาล 2013-14 ลงเล่นรวมทุกรายการ 133 นัด ทำได้ 82 ประตู คว้าแชมป์ลีกคัพ 1 สมัย จากนั้นย้ายไปอยู่กับทีมบาร์เซโลนา เมื่อฤดูกาล 2014-15

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ : ดาบิด ซิลบา

อดีตกองกลางทีมชาติสเปน วัย 33 ปี อยู่กับทีมมาตั้งแต่ฤดูกาล 2010-11 จนถึงปัจจุบัน ลงเล่นรวมทุกรายการ 414 นัด ทำได้ 73 ประตู คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 4 สมัย แชมป์เอฟเอ คัพ 2 สมัย และแชมป์ลีกคัพ 4 สมัย ส่วนฤดูกาลนี้ ต้องนั่งเป็นตัวสำรองมากกว่าลงตัวจริง

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : ดาบิด เด เคอา

ผู้รักษาประตูทีมชาติสเปน วัย 29 ปี อยู่กับทีมมาตั้งแต่ฤดูกาล 2011-12 จนถึงปัจจุบัน ลงเล่นรวมทุกรายการ 381 นัด คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 1 สมัย แชมป์เอฟเอ คัพ 1 สมัย แชมป์ลีกคัพ 1 สมัย และแชมป์ยูโรปาลีก 1 สมัย ขณะที่ฤดูกาลนี้ ยังเป็นมือ 1 ของทีมเหมือนเดิม

นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด : ชีค ติโอเต

อดีตกองกลางทีมชาติไอวอรีโคสต์ วัย 30 ปี อยู่กับทีมมาตั้งแต่ฤดูกาล 2010-11 จนถึงฤดูกาล 2016-17 ลงเล่นรวมทุกรายการ 156 นัด ทำได้ 1 ประตู ก่อนจะมาเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจวายเฉียบพลัน เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2017 ขณะลงซ้อมกับทีมปักกิ่ง เอ็นเตอร์ไพรส์ ของประเทศจีน

นอริช ซิตี้ : เวสลีย์ ฮูลาแฮน

อดีตกองกลางทีมชาติไอร์แลนด์ วัย 37 ปี อยู่กับทีมมาตั้งแต่ฤดูกาล 2008-09 จนถึงฤดูกาล 2017-18 ลงเล่นรวมทุกรายการ 352 นัด ทำได้ 54 ประตู จากนั้นย้ายไปอยู่กับทีมเวสต์บรอมวิช เมื่อฤดูกาล 2018-19

เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด : บิลลี ชาร์ป

กองหน้าชาวอังกฤษ วัย 33 ปี ถือเป็นนักเตะจอมพเนจรรายหนึ่ง โดยเริ่มต้นในทีมเยาวชนของเชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ก่อนจะเลื่อนชั้นขึ้นมาอยู่ทีมชุดใหญ่เมื่อฤดูกาล 2004-05 จากนั้นย้ายไปอยู่กับอีกหลายทีมทั้งในแบบยืมตัวและถาวร รวมแล้วค้าแข้งกับเชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 3 ช่วง ลงเล่นรวมทุกรายการ 251 นัด ทำได้ 103 ประตู และในฤดูกาลนี้มีส่วนสำคัญที่ช้วยให้ทีมทำผลงานได้ดีเกินคาดอีกด้วย

เซาแธมป์ตัน : ริคกี แลมเบิร์ต

อดีตกองหน้าทีมชาติอังกฤษ วัย 37 ปี อยู่กับทีมมาตั้งแต่ฤดูกาล 2009-10 จนถึงฤดูกาล 2013-14 ลงเล่นรวมทุกรายการ 235 นัด ทำได้ 117 ประตู จากนั้นย้ายไปอยู่กับอีกหลายทีมก่อนแขวนสตั๊ดไปเมื่อปี 2017

ทอตแนม ฮอตสเปอร์ : แฮร์รี เคน

กองหน้าทีมชาติอังกฤษ วัย 26 ปี อยู่มาตั้งแต่ทีมเยาวชน ก่อนจะเลื่อนชั้นขึ้นมาอยู่ทีมชุดใหญ่เมื่อฤดูกาล 2009-10 จนถึงปัจจุบัน ลงเล่นรวมทุกรายการ 272 นัด ทำได้ 179 ประตู ส่วนฤดูกาลนี้ยังเป็นตัวหลักที่ทีมจะขาดไม่ได้เหมือนเดิม

วัตฟอร์ด : ทรอย ดีนีย์

กองหน้าชาวอังกฤษ วัย 31 ปี อยู่กับทีมมาตั้งแต่ฤดูกาล 2010-11 จนถึงปัจจุบัน ลงเล่นรวมทุกรายการ 378 นัด ทำได้ 124 ประตู ขณะที่ฤดูกาลนี้ยังเป็นกำลังสำคัญที่ทีมจะขาดไม่ได้

เวสต์แฮม ยูไนเต็ด : ดิมิทรี ปาเยต์

อดีตกองกลางทีมชาติฝรั่งเศส วัย 32 ปี อยู่กับทีมตั้งแต่ฤดูกาล 2015-16 จนถึงฤดูกาล 2016-17 ลงเล่นรวมทุกรายการ 60 นัด ทำได้ 15 ประตู จากนั้นย้ายไปอยู่กับทีมมาร์เซย

วูล์ฟแฮมป์ตัน : แมตต์ โดเฮอร์ตี

กองกลางทีมชาติไอร์แลนด์ วัย 27 ปี อยู่กับทีมมาตั้งแต่ฤดูกาล 2010-11 จนถึงปัจจุบัน ลงเล่นรวมทุกรายการ 276 นัด ทำได้ 25 ประตู ฤดูกาลนี้เป็นกำลังสำคัญที่ทีมจะขาดไม่ได้เช่นเคย