ป๋อง กพล
สวัสดีทักทายทุกท่านกันเหมือนเดิมนะครับ กับตัวกระผม ป๋องคนเดิม เพิ่มเติมคือ อายุขัย ผ่านมาครึ่งปีละ แล้วเหลืออีกไม่กี่เดือนก็สิ้นปี เร็วจัง เร็วมาก เร็วจนปรับตัวแทบไม่ทัน บอกตามตรงนะว่า ไม่เคยชินสักที เพราะเผลอทีไรหมดปีตลอด วางแผนทำอะไรไว้ในปีนี้ก็รีบๆ นะครับ ก่อนที่จะเลยข้ามปีไปเหมือนเคยๆ
วันนี้เรามาว่ากันถึงเรื่องราวของตลาดดีกว่าครับ หลังจากที่ปิดฤดูกาลไป ตลาดซื้อขายก็เริ่มเปิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ตลาดสี่มุมเมือง ตลาดไท ตลาดบางกะปิ ตลาดๆๆๆ จะบ้าหรือไง มันไม่ใช่ตลาดแบบนั้น มันต้องตลาดซื้อขายนักเตะซิพ่อเอ๊ย!!! อ้าวหรือจ๊ะ ว่าจะฝากซื้อโอบาเมยองตากแห้งสัก 2 ตัว ผ่าม!!!!
พอๆๆ เลิกตลกได้แล้ว เอาเรื่องจริงจังบ้างซิครับ คนอ่านเค้ารอดูมุมมองอยู่ ถ้าอย่างนั้นเข้าเรื่องเลยนะครับ ช่วง 1 เดือนต่อจากนี้ เราจะได้เห็นข่าวการซื้อขายโยกย้ายนักเตะเต็มฟีตหน้าข่าวกีฬาไปหมด ทั้งทีมเล็กทีมใหญ่ ต่างเสริมนักเตะเพื่อลุ้นแชมป์และเพื่อการอยู่รอดเป็นทิวแถว แต่ทว่าบางทีมก็สมหวังกับตัวนักเตะที่อยากได้ บางทีมก็ผิดหวัง แถมบางทีมก็ผิดหวังตั้งแต่ตลาดยังไม่เปิดเพราะเรื่องของงบประมาณ
และทีมนั้นก็หาใช่ทีมอื่นไกลตัวผมเลยสักนิดเดียวครับ ทีมนั้นคือ ปืนใหญ่ อาร์เซนอลของผมนั่นเอง ผมเริ่มจะไม่ด่าอดีตโค้ชคนเก่าอย่างเวนเกอร์แล้วนะครับว่า ไม่ค่อยใช้เงินซื้อตัวนักเตะ เพราะตลอดระยะเวลาที่เวนเกอร์คุมทีมมานั้น ตัวเค้าเองก็บ้าๆ จ่ายค่าตัวนักเตะระดับแพงระยับมาแล้ว การเข้ามาของนักเตะระดับท็อป ไม่ว่าจะเป็น ซานเชส โอซิล โอบาเมยอง ลากาแซ็ตต์ อันนี้ยืนยันได้ว่า กล้าๆ ที่จะจ่ายเหมือนกัน แถมสโมสรก็หนุนพอสมควร
แต่พอถึงยุคผลัดใบ ใบไม้เปลี่ยนสี จากเวนเกอร์ เป็น เอเมรี่ งบประมาณทุกอย่างดูเหมือนน้อยลงไปแบบใจหาย ปีที่แล้วเสริมนักเตะมาพอสมควร ได้มา 5 คน เป็นฟรีซะ 1 คน ก็ไล่เรียงมาตั้งแต่ ลูคัส ตอร์เรร่า (ซามพ์โดเรีย, 26 ล้านปอนด์) แบรนด์ เลโน่ (เลเวอร์คูเซ่น, 22.5 ล้านปอนด์) โซคราติส ปาปาสตาโธปูลอส (โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์, 14.5 ล้านปอนด์) มัตเตโอ กูเอ็นดูซี่ (ลอริยองต์, 7 ล้านปอนด์) สเตฟาน ลิคท์สไตเนอร์ (ฟรีค่าตัว) รวมจ่ายไปทั้งสิ้นประมาณ 70 ล้านปอนด์
ผลงานจบที่ 5 เข้าชิงยูโรป้าลีก ก็ต้องบอกเลยว่าไม่ขี้เหร่นะครับ เพราะถ้าเทียบกับทีมหัวแถวแล้ว มันช่างต่างกันลิบลับจริงๆ แต่ทว่าปีนี้ซิครับ ผมเห็นงบประมาณเสริมทีมของปืนใหญ่แล้ว อยากจะหัวเราะเป็นภาษาญี่ปุ่นบวกภาษาเกาหลี แถมทิ้งเสียงเป็นภาษาอินเดียสักนิดว่า บ้าบอนะนาย 45 ล้านปอนด์ คืองบประมาณการเสริมทัพของทีมในปีนี้
เงินแค่นี้จะไปเสริมใครได้ล่ะครับ มันไม่พอจริงๆ สำหรับฟุตบอลสมัยใหม่แบบนี้ เอาแค่นักเตะเกรดบีลบ ยังค่าตัวเท่านี้แล้ว อย่าหวังไปเอานักเตะระดับท็อปมาเสริมทีมเลยดีกว่า ผมล่ะไม่เข้าใจเจ้าของทีมจริงๆ นะครับว่ามันจะขี้เหนียวขี้งกไปไหน ปีนี้ไม่ใช่ทีมไม่มีเงินนะครับ เอาแค่เซ็นสัญญาชุดแข่งใหม่กับอาดิดาส ก็ 300 ล้านปอนด์ไปแล้ว แถมตั๋วปีก็ราคาแพงระยับ มันจะเจียดเงินมาซื้อนักเตะสักหน่อยไม่ได้หรือไง
ลองนึกดูนะครับ ทีมยื่นข้อเสนอซื้อผู้เล่นไปสักคนหนึ่ง พอเสนอราคาไป ก็ไม่ต้องบอกล่ะครับว่าทีมนั้นจะขายหรือไม่ วิลเฟรด ซาฮา ของ พาเลซ ทีมยื่น 40 ล้าน พาเลซบอก ไม่ขายโว้ย ต้อง 100 ล้านเท่านั้น นี่ขนาดไม่ใช่นักเตะเกรดเอนะครับ อยากได้ยานนิค การ์รัสโก้ ค่าตัวแค่ 25 ล้าน แต่สโมสรบอกว่า ขอผ่อนจ่ายได้มั้ย ต้าเหลียน ยี่ฟาง ต้นสังกัดนักเตะออกมาพูดสั้นๆ เลยว่า พ่อง!!! เห็นข่าวแล้วก็ช้ำใจ
เลยกลายเป็นว่า ณ ตอนนี้ได้นักเตะมาแค่คนเดียว นั่นก็คือ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ เจ้าหนูวัย 18 ปีชาวแซมบ้า เจ้าของค่าตัวแพงระยับระดับที่คุณต้องขยี้ตา 6 ล้านปอนด์ แถมหลายคนตั้งข้อสงสัยว่า ใครวะ!!! ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือผมนั่นเอง และในตอนนี้เท่ากับว่าสโมสรจะเหลือเงินซื้อนักเตะอยู่อีกแค่ 39 ล้านปอนด์จากงบที่ได้มา ซึ่งผมมองไม่ออกเลยนะครับว่าจะซื้อใครได้มาเพิ่มอีกหรือไม่ และตัวใหม่ที่ได้มา จะทำให้หลายๆ คนสงสัยหรือไม่ว่าเค้าคือใคร
บ่นไปก็เท่านั้นนะครับ ได้แต่ทำตาร้อนมองทีมอื่นๆ เค้าเสริมทีมกัน ซึ่งผมเองตอนนี้ได้แต่จุดธูปไหว้พระขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ดลบันดาลให้เจ้าของทีมเจียดเงินมาอีกสักหน่อย อยากได้กองหลังดีๆ สักสี่ห้าคน เอามาแทนกองหลังชุดนี้ แค่นี้ผมก็พอใจแล้ว วันนี้ก็คงจะเท่านี้แล้วนะครับ เจอกันใหม่คราวหน้า สวัสดีครับ