“บีร็อด” คืนพรีเมียร์

เป็นอันว่าไม่มีการพลิกโผแต่อย่างใด เมื่อ “จิ้งจอกสยาม” เลสเตอร์ ซิตี้ สโมสรดังแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ซึ่งมีเจ้าของเป็นคนไทย ได้ประกาศแต่งตั้ง เบรนดัน ร็อดเจอร์ส กุนซือชาวไอร์แลนด์เหนือ เข้ามาเป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ในถิ่นคิง เพาเวอร์ สเตเดียม เรียบร้อยแล้ว โดยเซ็นสัญญาคุมทัพยาวไปจนถึงเดือนมิถุนายน ปี 2022

ถือเป็นการหวนคืนสังเวียนพรีเมียร์ลีกอังกฤษอีกครั้งของ “บีร็อด” หลังหายหน้าหายตาจากวงการลูกหนังเมืองผู้ดีไปนานหลายปี นับตั้งแต่ที่เจ้าตัวย้ายไปคุมทัพ “ม้าลายเขียวขาว” เซลติก สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งลีกสูงสุดสกอตแลนด์ เมื่อปี 2016

ก่อนหน้านี้ เลสเตอร์ ซิตี้ จัดการปลด โคลด ปูแอล โค้ชชาวฝรั่งเศส ออกจากตำแหน่งกุนซือของทีม เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา หลังจากทำ

ผลงานย่ำแย่น่าผิดหวัง ด้วยการพาทัพ “จิ้งจอกสยาม” พ่ายต่อ คริสตัล พาเลซ แบบหมดสภาพคาบ้าน 1-4 ในศึกพรีเมียร์ลีก ที่เตะกันไปก่อนหน้านั้นเพียงวันเดียว

ต้องบอกว่าชื่อของ “ร็อดเจอร์ส” ต่างคุ้นหูแฟนบอลพรีเมียร์ลีกเป็นอย่างดี โดยเฉพาะตอนที่เขาเป็นกุนซือคุมทีมลิเวอร์พูล

เพราะกุนซือชาวไอริชวัย 46 ปี เคยเกือบนำ “หงส์แดง” ผงาดคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกมาแล้ว แต่ดันมาพลาดตกม้าตายในช่วงโค้งสุดท้าย โดยเฉพาะช็อตลื่นล้มของ สตีเวน เจอร์ราร์ด ในเกมเจอกับเชลซี ซึ่งแฟนบอลเดอะค็อปยังจำติดตามาจนถึงทุกวันนี้ ทำให้ลิเวอร์พูลพลาดแชมป์ลีกปีนั้นในท้ายที่สุด

ร็อดเจอร์สเริ่มต้นอาชีพโค้ช ด้วยการคุมทีมเยาวชนของเชลซี ในปี 2004 จากนั้นเขาก็ได้คุมทีมชุดใหญ่เป็นครั้งแรก ด้วยการเป็นผู้จัดการทีมวัตฟอร์ด ซึ่งตอนนั้นยังคงเล่นอยู่ในศึกแชมเปียนชิป เมื่อปี 2008

บีร็อดสามารถช่วยให้ “แตนอาละวาด” รอดพ้นการตกชั้นได้สำเร็จ ทั้งๆที่ทีมจมอยู่โซนท้ายตารางในเดือนมกราคม แต่สุดท้ายพาทีมจบฤดูกาลในอันดับ 13

ต่อมาปี 2009 ร็อดเจอร์สย้ายมาคุมทีมเรดดิ้ง ซึ่งเป็นทีมเก่าสมัยที่เขายังเป็นนักเตะ ซึ่งเขามาคุมทีมแทน สตีฟ คอปเปลล์ ที่ลาออกไป แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร

จนกระทั่งย้ายมาคุมทีม “หงส์ขาว” สวอนซี ซิตี้ ในปี 2010 ซึ่งกลายเป็นผลงานที่สร้างชื่อสุดๆให้กับร็อดเจอร์ส เมื่อเขาสามารถพาสวอนซีเลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นในพรีเมียร์ลีก ผ่านทางการเพลย์ออฟ ทำให้สวอนซีกลายเป็นสโมสรจากเวลส์ทีมแรกที่ได้เล่นในพรีเมียร์ลีก

“หงส์ขาว” สวอนซี ภายใต้การคุมทัพของร็อดเจอร์ส สร้างความฮือฮาเป็นอย่างมากกับการ ลงเล่นในเวทีพรีเมียร์ลีก โดยเฉพาะสไตล์การเล่นที่ต่อบอลทำชิ่งกันอย่างแม่นยำและรวดเร็วเหมือนกับบาร์เซโลนา จนได้รับฉายาว่า “สวอนเซโลนา”

อย่างไรก็ตาม ทีมเล็กๆอย่างสวอนซีไม่คู่ควรกับกุนซือระดับอ๋องอย่างเขาอีกต่อไป เมื่อลิเวอร์พูลดึงตัวร็อดเจอร์สมาเป็นกุนซือคุมทีม ในปี 2012 โดยฤดูกาลแรก เขาพาหงส์แดงจบซีซันด้วยอันดับ 7

ทว่าฤดูกาลถัดมา ร็อดเจอร์สพาลิเวอร์พูลขยับเข้าใกล้กับการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกมากที่สุด โดยมีคะแนนทิ้งห่างถึง 5 แต้ม ขณะเหลืออีก 3 นัดสุดท้ายจะจบฤดูกาล แต่หงส์แดงดันมาพลาดท่าพ่ายต่อเชลซีคาบ้าน 0-2 ด้วยช็อตลื่นล้มช็อกโลกของเจอร์ราร์ด ทำให้ลิเวอร์พูลวืดแชมป์ลีกในที่สุด

การหวนคืนพรีเมียร์ลีกของร็อดเจอร์ส น่าจะช่วยให้ทัพ “จิ้งจอกสยาม” เลสเตอร์ กลับทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมอีกครั้งแน่นอน.

หมวดแซม