โต้ บ้านแหลม
จ่าฝูงลาลีกาและพรีเมียร์ลีกอยู่ในสถานการณ์คล้ายๆกัน หลังจากพลาดท่าตกรอบ 8 ทีมแชมเปียนส์ลีก ไปหลบเลียแผลใจ 2-3 วัน กลับมาคว้าชัยในลีกตัวเอง จ่อแชมป์เข้าไปทุกที
บาร์เซโลนาเฉือนชนะบาเลนเซีย 2-1 สร้างสถิติใหม่ไม่แพ้ใครในบอลลีก 39 นัดติดต่อกัน ทุบสถิติเดิมของเรอัล โซเซียดัด ที่ทำไว้ 38 นัด ในฤดูกาล 1978-79 ต่อเนื่องไปถึงฤดูกาล 1979-80
สถิติของบาร์ซาก็นับต่อมาจากฤดูกาลที่แล้ว หากจะสร้างประวัติศาสตร์ไม่แพ้ใครตลอดฤดู ต้องลุ้นไม่แพ้ใครอีก 6 นัดที่เหลือ หลังจากเตะไปแล้ว 32 นัดในซีซั่นนี้ พวกเขาต้องการอีก 7 แต้มก็จะลอยลำคว้าแชมป์ทันที
เช่นเดียวกับ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ หยุดฝันร้ายหลังพ่าย 3 นัดติดต่อกัน ด้วยการบุกไปถล่ม “ไก่เดือยทอง” ทอตแนม ฮอตสเปอร์ 3-1
นัดนี้มีลูกปัญหาอีกครั้ง ในจังหวะที่อูโก โยริส นายทวารเจ้าถิ่นออกมาสกัดราฮีม สเตอร์ลิง จนเสียจุดโทษ แต่ภาพรีเพลย์ชี้ชัดเป็นการทำฟาวล์นอกกรอบเขตโทษ ถ้ามีวีดิโอช่วยตัดสิน (VAR) ลูกนี้เรือใบสีฟ้าคงไม่ได้จุดโทษ
แต่เป๊ป กวาร์ดิโอลา ก็เป็นหนึ่งในกุนซือพรีเมียร์ลีกที่สนับสนุนการใช้ VAR หลังจากทีมพรีเมียร์ลีกนัดประชุมลงมติเมื่อวันก่อน ปรากฏว่า เสียงส่วนใหญ่ปฏิเสธที่จะใช้ VAR ในฤดูกาลหน้า
เป๊ปแฉว่า เชลซีและแมนฯยู เป็นแกนหลักในการคัดค้านการใช้ VAR ส่วนสาเหตุที่เขาสนับสนุนวีดิโอช่วยตัดสินก็เพราะ เกมทุกวันนี้เล่นกันเร็วมากจนกรรมการมองไม่ทัน
นอกจากศึกแชมเปียนส์ลีกระหว่างแมนฯซิตี้กับลิเวอร์พูลในจังหวะที่ลีรอย ซาเน ทำประตูได้ และเกมที่เรอัล มาดริด ได้จุดโทษช่วงทดเจ็บเป็นลูกสำคัญที่ทำให้ราชันชุดขาวเขี่ยยูเวนตุสตกรอบแล้ว
เกมพรีเมียร์ลีกที่เชลซีแซงชนะเซาแธมป์ตัน 3-2 เมื่อวันเสาร์ ก็มีลูกปัญหาเมื่อมาร์คอส อลองโซ นักเตะเชลซีย่ำสตั๊ดเข้าที่น่องของเชน ลอง นักวิจารณ์เกมและอดีตผู้ตัดสินฟันธงว่า ควรเป็นใบแดง ซึ่งจะทำให้เชลซีเหลือผู้เล่น 10 คน สถานการณ์เหล่านี้ VAR น่าช่วยชี้ขาดได้
แมนฯซิตี้ชนะอีกนัดเดียวก็จะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกไปครอง (ในกรณีที่แมนฯยูชนะเวสต์บรอมวิชวันอาทิตย์) นัดต่อไปกลับมาเล่นที่เอติฮัดพบกับสวอนซี วันที่ 22 เม.ย. มีโอกาสได้ ฉลองแชมป์ต่อหน้าแฟนบอลของตัวเองสูงมาก
มองไปที่ฤดูกาลหน้า จะเป็นบทพิสูจน์สำคัญของเป๊ป หลังจากนำทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ภารกิจสำคัญคือ นอกจากป้องกันแชมป์พรีเมียร์ลีกแล้ว ยังต้องไปให้ไกลกว่ารอบ 8 ทีม ในแชมเปียนส์ลีก เพราะโค้ชระดับเขา ใครเอามาคุมทีมก็หวังถึงแชมป์ยุโรปทั้งนั้น เพียงแต่เขาทำไม่สำเร็จกับบาเยิร์น มิวนิก รอดูกันต่อไปว่า จะนำเรือใบสีฟ้าไปถึงจุดนั้นได้หรือไม่
กลางสัปดาห์นี้มีเกมพรีเมียร์ลีกนัดตกค้าง สเปอร์สไปเยือนไบรท์ตัน วันอังคารที่ 17 เม.ย. ส่วนแมนฯยูเยือนบอร์นมัธ วันพุธที่ 18 เม.ย.
จบจากโปรแกรมมิดวีก สเปอร์สและแมนฯยูจะต้องเจอกันในรอบตัดเชือกเอฟเอคัพ วันเสาร์ที่ 21 เม.ย. ต่อไป อีกคู่หนึ่งเชลซีพบกับเซาแธมป์ตัน วันอาทิตย์ที่ 22 เม.ย.
ทั้งผีแดง, ไก่เดือยทอง และสิงห์บลู ต้องทุ่มสุดตัวกับเอฟเอคัพ ที่จะเป็นรางวัลปลอบใจไม่ให้กลับบ้านมือเปล่าในฤดูกาลนี้.
โต้ บ้านแหลม