ไทยรัฐออนไลน์
หัวหน้าผู้ตัดสินของฟีฟ่า ระบุ การนำเทคโนโลยีช่วยผู้ตัดสิน หรือ Video Assistant Referee (VAR) มาใช้ในศึกลูกหนังคอนเฟเดอเรชันส์ คัพ ทำให้เสียเวลาเกินไปในบางจังหวะ...
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานวันที่ 28 มิ.ย. ว่า มัสซิโม บูซัคคา หัวหน้าผู้ตัดสินของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า ออกมายอมรับถึงการใช้เทคโนโลยีช่วยผู้ตัดสิน หรือ Video Assistant Referee (VAR) ในการช่วยพิจารณาภาพเหตุการณ์ในเกมต่างๆ ในรอบแบ่งกลุ่มฟุตบอลคอนเฟเดอเรชันส์ คัพ 2017 ให้ผลลัพธ์ที่ช้าเกินไป และต้องปรับปรุงอีกหลายอย่าง
ในรอบแบ่งกลุ่ม 12 นัด เกิดเหตุการณ์ที่ต้องใช้ VAR ช่วยตัดสินในหลายจังหวะ ไม่ว่าจะเป็นการได้หรือเสียประตู จังหวะการเกิดจุดโทษ และกรณีที่นักเตะโดนใบแดง โดยเฉพาะการที่ผู้ตัดสินแจกใบแดงผิดคนในเกมระหว่าง เยอรมนี กับ แคเมอรูน ทำให้เกมต้องเสียเวลาไปหลายนาที
ด้าน บูซัคคา ระบุว่า การใช้เทคโนโลยี บางครั้งก็ใช้เวลาช้าเกิน 2-3 นาที ซึ่งเป็นสิ่งที่ทีมงานยังไม่พอใจ และต้องปรับปรุงในจุดนี้ ซึ่งหลังจบทัวร์นาเมนต์นี้ ทางฟีฟ่าจะมีการสรุปข้อดีและเสียในการนำเทคโนโลยีดังกล่าวนี้มาใช้ รวมไปถึงอาจมีการเปิดให้แฟนบอลฟังการสนทนาระหว่างผู้ตัดสินกับทีมงาน VAR เหมือนในกีฬาประเภทอื่นๆ
ทั้งนี้ ในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 รอบสุดท้าย ที่ประเทศรัสเซีย เป็นเจ้าภาพ ฟีฟ่ายังไม่ลงความเห็นว่าจะนำเทคโนโลยีดังกล่าวนี้มาใช้หรือไม่ โดยจะมีการประชุมตัดสินเพื่อหาข้อสรุปในอนาคต