มะระหวาน
ผ่านปี 2024 มายังไม่ถึงครึ่งเดือนดีเลยวงการลูกหนังโลกก็ต้องพบกับข่าวเศร้า 2 ครั้งติดต่อกันเมื่อต้องสูญเสีย 2 ตำนานของโลกฟุตบอลไปถึง 2 ราย ได้แก่ มาริโอ ซากัลโล ตำนานลูกหนังทีมชาติบราซิล และ ฟรานซ์ เบคเคนบาวเออร์ ตำนานลูกหนังของวงการลูกหนังเยอรมนี
รายแรก ซากัลโล เสียชีวิตอย่างสงบไปเมื่อวันที่ 5 ม.ค.ที่ผ่านมาด้วยวัย 92 ปี ซึ่งถือว่าเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่อีกครั้งของวงการลูกหนังบราซิล เพราะซากัลโลถือว่าเป็นอีกหนึ่งบุคลากรอันทรงคุณค่าของ “แซมบ้า” ไม่แพ้ “เปเล่” ตำนานผู้ล่วงลับไปก่อนหน้านี้
ซากัลโล สร้างผลงานเอาไว้มากมายและที่สำคัญที่สุดคือเจ้าตัวสามารถคว้าแชมป์โลกได้ถึง 4 สมัย โดยสมัยเป็นนักเตะคว้าแชมป์โลก 2 สมัย (ปี 1958, 1962) ก่อนจะรับหน้าที่กุนซือพาทีมชาติบราซิลคว้าแชมป์โลกมาครองในปี 1970 โดยมีเปเล่นำทัพ
นอกจากนั้นเจ้าตัวยังได้แชมป์โลกอีก 1 สมัยตอนรับหน้าที่ผู้ช่วยของคาร์ลอส อัลแบร์โต เปเรยรา โค้ชทีมชาติบราซิล คว้าแชมป์โลกมาครองในปี 1994 เท่านั้นไม่พอ ซากัลโลก็เกือบคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 5 ตอนนั้นเจ้าตัวรับหน้าที่กุนซือทีมชาติบราซิลแต่พ่ายแพ้ฝรั่งเศสในรอบชิงชนะเลิศศึกฟุตบอลโลก 1998
เรียกได้ว่าการสูญเสียเจ้าของฉายา “เดอะ โปรเฟสเซอร์” สร้างความโศกเศร้าให้กับวงการลูกหนังโลกและวงการลูกหนังบราซิลเป็นอย่างมาก
ยังเศร้าโศกไม่หายถัดมาอีกเพียงแค่ 3 วันก็ต้องมาพบข่าวเศร้าเมื่อฟรานซ์ เบคเคนบาวเออร์ ตำนานลูกหนังโลกชาวเยอรมัน ต้องมาเสียชีวิตลงอย่างสงบด้วยอายุ 78 ปีไปอีกราย
เจ้าของฉายา “แดร์ ไกเซอร์” (จักรพรรดิ) ได้รับการยกย่องว่าเป็นตำนานลูกหนังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่โลกเคยมีมาคนหนึ่ง และเคยคว้าแชมป์ โลก 2 สมัย สมัยเป็นนักเตะได้แชมป์โลกกับทีมชาติเยอรมนีตะวันตก ปี 1974 ก่อนเป็นกุนซือพาทัพ “อินทรีเหล็ก” ซิวแชมป์โลก ปี 1990 เท่านั้นยังไม่พอ เคยพาแข้งเบียร์คว้าแชมป์ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือ “ยูโร 1972” มาครองอีกด้วย
โดยเบคเคนบาวเออร์ ยิ่งใหญ่สุดขีดสมัยค้าแข้งกับบาเยิร์น มิวนิก ช่วงปี 1964-1977 ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งตำแหน่งแชมป์บุนเดสลีกา 4 สมัย และยูโรเปียน คัพ (ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ในปัจจุบัน) 3 สมัย, แชมป์เดเอฟเบ โพคาล 4 สมัย และแชมป์ ยูโรเปียน คัพ วินเนอร์ส คัพ 1 สมัย
นอกจากนั้นเบคเคนบาวเออร์ ยังเคยคว้าแชมป์บุนเดสลีกาในสมัยเป็นนักเตะ เจ้าตัวก็ยังเคยพา “เสือใต้” คว้าถาดแชมป์ด้วย 1 ครั้งในฤดูกาล 1993-1994 ทำให้ “แดร์ ไกเซอร์” เป็น 1 ใน 8 คนที่เคยได้แชมป์บุนเดสลีกาทั้งในฐานะนักเตะและกุนซืออีกด้วย
นอกจากนั้นเจ้าตัวยังคว้ารางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของเยอรมนี 4 สมัย แต่ไฮไลต์ที่สำคัญที่สุดเป็นรางวัลส่วนตัวก็คือลูกบอลทองคำ หรือ “บัลลง ดอร์” ในปี 1972, 1976
อย่างไรก็ตาม ทั้งซากัลโลและเบคเคนบาวเออร์ ถือว่าเป็น 2 ใน 3 คนที่สร้างประวัติศาสตร์ได้แชมป์โลกในฐานะนักเตะและกุนซือ ส่วนอีกคนที่ทำได้ก็คือ ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ อดีตกัปตันทีมชาติฝรั่งเศสและกุนซือตราไก่คนปัจจุบัน
การจากไปของ 2 ตำนานผู้ยิ่งใหญ่ได้สร้างความโศกเศร้าให้กับวงการลูกหนังทั่วโลกจริงๆ นี่แค่เริ่มปี 2024 ยังหนักขนาดนี้หวังว่าต่อจากนี้ไปวงการลูกหนังจะมีแต่เรื่องดีๆเข้ามาทดแทนบ้าง.
มะระหวาน